หลวงพี่น้ำฝน ให้เจ้าหน้าที่เปิดวัดไผ่ล้อม แจงวงจรปิดเคลื่อนย้ายรถ-ลังปริศนา ยันรถโบราณยังอยู่ที่เดิม
วันที่ 18 สิงหาคม 2568 หลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ให้เจ้าหน้าที่เปิดวัดทุกจุด โดยเฉพาะโรงจอดรถโบราณ 4 คัน ที่มีประเด็นสอบถามและวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นโซเชียล โดยพบว่ายังจอดอยู่ที่เดิม ไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายไปไหน แต่ที่เกิดข้อสงสัยเนื่องจากมีลูกศิษย์มาขอถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึกเพราะความชื่นชอบ จึงได้ขึ้นรถมาถ่ายในมุมที่สวย จากนั้นก็ขับกลับมาเก็บไว้ที่เดิม และเป็นรถที่เคยมีประเด็นมานานและมีการแถลงข่าวจบไปแล้ว ขณะที่มีอินฟลูเอ็นเซอร์ได้มีการโพสต์ข้อมูลและอัดคลิปแจ้งประเด็นว่า ในวัดไผ่ล้อม พระปิดกุฏิทั้งหมดไม่มีพระเหลือ พบว่า ยังมีการปฏิบัติกิจอยู่เช่นเดิม ส่วนกรณีคำถามว่า มีการใส่ของในลังเหล้า 30 ลังเคลื่อนย้ายออกไป นำภาพมายืนยันประกอบว่าเป็นถังขยะ ที่เก็บขยะใส่รถพ่วงข้างไปทิ้งตรงข้ามวัด ซึ่งเป็นภารกิจที่คณะสงฆ์วัดไผ่ล้อมทำอยู่ทุกวัน ทั้งนี้พร้อมชี้แจงและตอบคำถามต่างๆ ทั้งหมดเพื่อคลายความกังวล ขณะที่พบว่าตั้งแต่เช้ามีญาติโยมราว 500 คน ซึ่งเป็นผู้สูงอายุเดินทางเข้ามาเจาะเลือดและตรวจสุขภาพภายในโรงพยาบาลนครปฐมสาขาวัดไผ่ล้อมอย่างต่อเนื่อง โดยบางส่วนยังงงว่าเกิดเหตุการณ์กระแสข้อสงสัยได้อย่างไร
วันที่ 18 สิงหาคม 68 ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระแสโซเชียล เพจ "ท่านเปา" ซึ่งได้มีการลงข้อความว่า "วัดไผ่ล้อมนครปฐม ขนรถโบราณออกไปไหนเอ่ย" ซึ่งหลังจากมีการโพสต์ข้อความดังกล่าวลงมาตั้งแต่ช่วงค่ำเมื่อวานนี้ ก็ได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันในโลกโซเชียลอย่างกว้างขวางถึงข้อสงสัยในกระบวนการดังกล่าว ซึ่งต่อมาได้มีผู้ใช้สื่อโซเชียลที่ชื่อว่า Riff x กระบอกเสียง ประชาชน ได้มีการออกมาอัดคลิปแสดงความคิดเห็นอย่างเผ็ดร้อน โดยได้ตั้งปมและข้อสงสัยว่าวัดไผ่ล้อมนครปฐมมีการขนรถโบราณหลาย 10 คันออกจากวัด และที่กุฏิพระปิดเงียบ ไม่มีพระอาศัยอยู่แล้ว โดยยังมีข้อสงสัยจากคนวงในของเพจบิ๊กเกรียน ว่ามีการขนของใส่ลังเหล้าจำนวน 30 ลังออกไปจากวัด และได้บอกว่าวัดไผ่ล้อมที่อยู่จังหวัดนครปฐม ความร่ำรวยระยะ 30 ปีมีเงินหมุนเวียนนับหมื่นล้านบาท ซึ่งกระแสดังกล่าวยิ่งทำให้เกิดข้อสงสัยและมีการสอบถามเข้ามาที่วัดไผ่ล้อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นช่วงขณะที่มีการตรวจสอบวัดพระบาทน้ำพุเกี่ยวกับเงินบริจาคตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา
โดยในช่วงเช้าผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามบรรยากาศบริเวณหน้าวัดและภายในวัดดังกล่าว และสอบถามเจ้าหน้าที่ทราบว่าพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมพระอารามหลวง จังหวัดนครปฐม ไม่อยู่วัดตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยได้ออกไปปฏิบัติกิจในการนำเตียงผู้ป่วยไปมอบให้กับผู้ป่วยที่เป็นอัมพาตและนอนติดเตียงที่อำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี ตามโครงการธนาคารและรถวีลแชร์วัดไผ่ล้อม ซึ่งได้มีการขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้เข้าไปดูบริเวณโรงจอดรถซึ่งอยู่ด้านหลังฌาปนสถานของวัดโดยพบรถยนต์โบราณจำนวน 4 คันจอดรวมอยู่กับรถที่ใช้งานของวัด โดยเป็นรถเชฟโรเลตสีน้ำตาลหนึ่งคัน สีเขียวหนึ่งคัน สีส้มหนึ่งคัน ส่วนอีกคันหนึ่งเป็นรถแพนเทอร์เปิดประทุนสีดำ จอดอยู่ในห้องกระจกถัดไปประมาณ 20 เมตร ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบสงบ
ขณะที่ บริเวณด้านหน้าวัดได้มีญาติโยมผู้สูงวัยได้เดินทางเข้ามาเจาะเลือดและตรวจอาการป่วย ซึ่งเปิดให้เป็นสถานที่ในการดูแลผู้ป่วยของโรงพยาบาลนครปฐมสาขาวัดไผ่ล้อม อย่างต่อเนื่องซึ่งมีเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล มาดำเนินการตั้งแต่ช่วงเช้า โดยเหตุการณ์ก็เป็นไปอย่างปกติ
สอบถามเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลว่า รถโบราณทั้งหมดที่มีกระแสในโลกโซเชียล ยังคงอยู่ที่เดิมในโรงจอดรถ ซึ่งเมื่อวานนี้ได้มีลูกศิษย์ของหลวงพี่น้ำฝนได้เข้ามาขอถ่ายรูปเก็บไว้ เนื่องจากเป็นคนที่ชื่นชอบรถโบราณ หลวงพี่ท่านจึงอนุญาตให้นำมาจอดถ่ายได้ที่ลานน้ำตกตรงด้านหน้าของวัด จากนั้นก็ได้เคลื่อนไปถ่ายที่บริเวณหน้าอาคารศูนย์ไตเทียม ซึ่งอยู่ตรงข้ามฝั่งของวัดโดยมีภาพวงจรปิดประกอบว่า ได้ขับออกไปไม่นานแล้วก็ขับเคลื่อนกลับมาจอดไว้ที่เดิม หลังจากมีการถ่ายภาพเสร็จแล้วไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายไปไหน
ส่วนกรณีที่มีคนพูดในโซเชียลว่า มีการขนของใส่ลังเหล้าจำนวน 30 ลัง เรื่องนี้น่าจะเป็นความเข้าใจผิด เพราะจากที่ปรากฏลังที่ขนน่าจะเป็นภาพคณะสงฆ์ของวัดไผ่ล้อมที่ทำความสะอาดวัดทุกวัน และมีการเก็บขยะรวมถึงเศษใบไม้ในพื้นที่รวมของวัดซึ่งจะมีพื้นที่จุดที่เป็นโรงพยาบาลนครปฐมสาขาวัดไผ่ล้อมอยู่ตรงนั้น โดยจะนำเอาขยะใส่ถังสีเขียวแล้วใส่รถพ่วงหลังจักรยานยนต์ขับขี่นำไปทิ้งไว้บริเวณตรงกันข้ามวัดหน้าอาคารศูนย์ ไตเทียมเช่นกัน ก็น่าจะเป็นช่วงระยะเวลาเดียวกันกับที่มีการเคลื่อนออกไปถ่ายภาพ ซึ่งกิจกรรมนี้ก็จะเป็นภารกิจหลักที่มีการทำงานกันอยู่ทุกวันแล้ว
นอกจากนี้ รถโบราณทั้ง 4 คันก็เป็นรถคันเดิมที่เคยเป็นข่าวและมีกระแสพูดถึงวัดไผ่ล้อมมาหลายครั้ง โดยรถทั้งสี่คันปกติจะจอดอยู่ที่โรงจอดรถซึ่งก็จะมีบ่อยครั้งที่ลูกศิษย์ลูกค้าและญาติโยมจะขอมายืมไปใช้ในขบวนแห่นาคเข้าโบสถ์ให้เกิดความสวยงาม หรือบางครั้งถ้าวัดมีงานก็จะมีการนำมาจอดโชว์ให้ญาติโยมได้ถ่ายภาพ เนื่องจากวัดไผ่ล้อมได้ถูกจัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนาก็จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวอีกจำนวน จึงได้นำรถเหล่านี้มาเปิดให้ญาติโยมได้ถ่ายภาพเป็นครั้งคราว ซึ่งก่อนหน้านี้ทุกปีรถเหล่านี้ก็จะมีการนำรูปหล่อของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล อดีตเจ้าอาวาสแห่ไปรอบตัวเมืองในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เพื่อให้ญาติโยมได้สรงน้ำพระ แต่ช่วงหลังที่มีการเกิดวิกฤตการณ์แพร่ระบาดโควิดจึงได้ยุติกิจกรรมไป แต่ก็จะมีคนมาหยิบยืมรถดังกล่าวไปจากกิจกรรม เช่น เรื่องการท่องเที่ยวของจังหวัดนครปฐมบ้าง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เกิดขึ้น และได้มีการแถลงข่าวชี้แจงทุกข้อไปหมดแล้ว ไม่ทราบว่าคนที่มีการโพสต์ข้อความและพูดถึงกระแสดังกล่าวมีนัยยะหรือมีข้อสงสัยอะไร
ซึ่งวันนี้ทางหลวงพี่น้ำฝน ได้แจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ว่า ให้เปิดโอกาสให้กับสื่อมวลชนได้บันทึกภาพทุกมุมของวัด โดยเฉพาะโรงจอดรถและตัวรถที่จอดอยู่ รวมถึงข้อสงสัยต่างๆ ซึ่งแม้ท่านจะติดภารกิจอยู่แต่ให้เจ้าหน้าที่พร้อมให้ข้อมูลได้ตลอด หากมีข้อสงสัยซึ่งอาจจะมีการเข้าใจผิดระหว่างคำว่ารถหรู ซึ่งหมายถึงรถสปอร์ตรถราคาแพง หรือรถซูเปอร์คาร์ แต่รถที่วัดไผ่ล้อมเป็นรถโบราณ ซึ่งปกติก็จะไม่ค่อยมีใครได้ใช้แล้ว แต่ได้มีลูกศิษย์ลูกค้าไปบูรณะและซ่อมแซมให้ใช้งานได้ แต่ก็ถูกจอดเอาไว้เพิ่งจะเริ่มมีการขยับมาถ่ายรูปเมื่อวานก็เป็นประเด็นขึ้นมานั่นเอง