เกิดอุบัติเหตุรถพ่วง 18 ล้อ ขนเหล็กม้วน 2 ลูกหนักกว่า 30 ตันของบริษัทดังบางสะพาน เสียหลักชนท้ายรถบรรทุก ทำเหล็กม้วนหล่นขวางถนน ทำผิวถนนได้รับความเสียหายเป็นหลุมลึก โชคดีไม่มีคนเจ็บ

วันที่ 14 ส.ค. 2568 มีรายงานว่า ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา นายสุพจน์ เสริมทรัพย์ หัวหน้าหมวดทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงเหล็กของบริษัทดังใน อ.บางสะพาน เสียหลักชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อเป็นเหตุทำให้เหล็กม้วนที่บรรทุกมาน้ำหนักกว่า 30 ตัน จำนวน 2 ลูก หล่นกีดขวางถนนจำนวน 2 จุด มีรถชาวบ้านได้รับความเสียหาย

เหตุเกิดบนถนนเพชรเกษม ฝั่งขาขึ้น กทม. หลักกิโลเมตรที่ 282 + 300 หมู่ 5 บ้านหนองตาเสือ ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งจึงเดินทางพร้อมด้วย นายสุวิทย์ จิ้มลิ้ม นำเจ้าหน้าที่กรมทางร่วมกับตำรวจทางหลวง และอาสากู้ภัยตำรวจทางหลวงจุดอำเภอเมืองและจุดอำเภอกุยบุรี ร่วมอำนวยความสะดวกด้านการจราจร เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน

ที่เกิดเหตุบนถนนเพชรเกษม พบรถพ่วง 18 ล้อ บรรทุกเหล็กม้วน สภาพหน้ารถและท้ายรถได้รับความเสียหาย เหล็กม้วนที่บรรทุกมาจำนวน 2 ลูก หล่นจากรถร่วงลงพื้น ทำผิวถนนได้รับความเสียหายเป็นหลุมลึก และมีการ์ดเลนข้างทางเสียหาย จุดที่ 1 หลักกิโลเมตรที่ 282 +175 แผ่นเหล็กม้วนกลิ้งตกไปอยู่ในป่าหญ้าข้างทาง และจุดที่ 2 หลักกิโลเมตรที่ 282+276 แผ่นเหล็กม้วนกลิ้งตกไปชนกับการ์ดเลนข้างทาง และมีแผ่นเหล็กกีดขวางถนน โชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และไม่มีรถที่วิ่งตามหลังมาประสบเหตุชนซ้ำ

ส่วนผู้ขับขี่ทราบชื่อ นายเทพพิทักษ์ อายุ 47 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ใกล้กันมีรถที่ถูกชนท้ายจอดอยู่ได้รับความเสียหาย เป็นรถบรรทุก 6 ล้อ คลุมผ้าใบ สภาพท้ายรถได้รับความเสียหาย ผู้ขับขี่ทราบชื่อ นายสหัส อายุ53 ปี ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

สาเหตุเบื้องต้น รถบรรทุกเหล็กคันดังกล่าวได้ออกเดินทางมาจากบริษัทในอำเภอบางสะพาน กำลังมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ระหว่างทางถึงจุดเกิดเหตุได้ชนท้ายเข้ากับรถบรรทุก 6 ล้อจากนั้นเสียหลักไปชนเข้ากับการ์ดเลนเป็นเหตุทำให้สายรัดเหล็กขาด และเหล็กม้วนที่บรรทุกมาจำนวน 2 ลูกน้ำหนักกว่า 21 ตัน กลิ้งหล่นจากรถลงกระแทกกับพื้นทำให้ได้รับความเสียหายดังกล่าว โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

ส่วนคนขับเจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวไปโรงพักเพื่อตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดและสารเสพติด พร้อมกับประสานให้บริษัทประกันเข้ามาดำเนินการสำรวจความเสียหาย และชดใช้ค่าเสียหายให้กับของหลวงและคู่กรณีต่อไป