หลังทหารเขมรเข้าตรึงกำลังบริเวณตรงจุดที่ทหารไทยเข้าไปยึดคืนและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออก ซึ่งเป็น 1 ใน 4 จุด ที่กัมพูชาละเมิด MOU 43 พื้นที่ จ.สระแก้ว ล่าสุด ทหารไทยได้นำลวดหนามหีบเพลงและรั้วไปปิดกั้นเส้นทางดังกล่าว ซึ่งมีชาวกัมพูชาออกมาแสดงความไม่พอใจ และเจรจากันไม่เป็นผล

ภายหลังจากวันที่ 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ทางกองกำลังบูรพา กองทัพภาคที่ 1 เปิดเผยภาพการเข้าดำเนินการใช้กำลังทหาร เพื่อผลักดันและรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างของฝ่ายกัมพูชาที่รุกล้ำเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทย อันเป็นการละเมิดบันทึกความเข้าใจ MOU ปี 2543 (MOU 43) จำนวน 4 พื้นที่ บริเวณชายแดนจังหวัดสระแก้ว ได้แก่ อำเภอตาพระยา 2 พื้นที่ และ อำเภอโคกสูง 2 พื้นที่






ซึ่งการปฏิบัติการวันนั้น กองทัพภาคที่ 1 รายงานว่า ผลการปฏิบัติสามารถผลักดันกำลังฝ่ายกัมพูชาออกจากทั้ง 4 พื้นที่ได้เรียบร้อยแล้ว ปัจจุบันได้ดำเนินการวางกำลังตรึงพื้นที่ตลอดแนวชายแดนในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อรักษาอธิปไตย และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย





กระทั่ง เมื่อวันที่่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา ชาวบ้านในพื้นที่ชายแดนบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง แจ้งว่า สถานการณ์บริเวณจุดดังกล่าวไม่น่าไว้วางใจ เพราะมีเรื่องเกิดขึ้นแล้ว ตอนนี้ทหารเขมรตรึงกำลังเยอะมาก ตรงที่กองกำลังบูรพาบุกรื้อถอนเขตพื้นที่ติดกับกัมพูชา และชาวบ้านบอกว่า ตอนนี้เขมรเข้ามายึดพื้นที่คืนแล้ว ขณะเดียวกัน ชาวบ้านที่มีที่ดินใกล้กับบริเวณดังกล่าวไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ ซึ่งมีชาวบ้านที่มีที่ดินอยู่จุดนั้นโดนทหารเขมรไล่ระหว่างเข้าไปทำการเกษตร ซึ่งชาวบ้านได้แจ้งให้กับฝ่ายทหารไทยรับทราบ




ล่าสุดช่วงเย็นวันที่ 12 ส.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากทหารฝ่ายไทยได้นำลวดหนามหีบเพลงมาปิดกั้นจุดผ่านแดนบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อสกัดกั้นชาวเขมรรุกล้ำอธิปไตยของไทย ต่อมามีชาวเขมรที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านตรงข้าม (ฝั่งกัมพูชา) เกิดแสดงความไม่พอใจ และขอให้ทหารไทยเปิดทางและนำรั้วออกแต่การเจรจาไม่เป็นผลสำเร็จ