"หลวงพ่ออลงกต" เผยหากพิสูจน์ได้ว่า หมอดูชื่อดังยักยอกเงินวัดหรือทำผิด จะดำเนินการแน่นอน ยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากความประมาทเลินเล่อ แต่ต้องรอเจ้าตัวชี้แจง
วันที่ 6 ส.ค. 2568 เมื่อเวลา 17.00 น. พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน กรณีของหมอดูคนดัง ที่อ้างกับหลวงพ่ออลงกตว่าได้นำเงินบริจาคไปซื้อรถเพื่อเตรียมถวายให้วัด แต่กลับนำไปใช้งานก่อน จึงยังไม่ได้ถวายตามที่ตั้งใจไว้
หลวงพ่ออลงกต กล่าวว่า หมอดูคนดังกล่าวได้มาขออนุญาตหลวงพ่อเปิดบัญชีใช้ชื่อตัวเอง เพื่อนำไปทำกิจกรรมอาสาให้กับวัดพระบาทน้ำพุ ตั้งแต่เมื่อปี 62 ซึ่งที่ผ่านมา ทางเลขาฯ ของหมอคนดังกล่าวได้รายงานการเบิกจ่ายทุกครั้ง แต่ลักษณะการทำงานของหมอ ตัวอย่างเช่น หากมีเงินบริจาค 1 ล้าน ก็จะนำเงินสดมามอบให้ทางวัด 9 แสน ซึ่งเงินจำนวนนี้นำใส่ถุงมาอย่างดี ทางเจ้าอาวาสก็ไม่ได้เปิดดู แต่จะส่งให้กับทางคณะกรรมการดำเนินการต่อ ส่วนจำนวนเงินอีก 1 แสน ทราบว่าหมอจะนำไปทำโครงการจิตอาสา เช่น ไถ่ชีวิตโคกระบือ ตรงส่วนนั้นไม่สามารถตรวจสอบได้ เพราะเงินจะเข้าไปที่โครงการโดยตรง ซึ่งที่ผ่านทางเจ้าอาวาสไม่เคยทราบว่ามีเงิน 1 แสน ถูกนำไปใช้โครงการ เพิ่งมาทราบเมื่อปีที่แล้ว เลขาฯ มาบอก เบื้องต้นแจ้งมาว่าทำไปแล้วประมาณ 10 ครั้ง
อีกทั้งทางชาวบ้านที่บริจาคเงินก็ได้ตั้งข้อสงสัยถึงเรื่องรถและบ้านที่หมอแจ้งว่า จะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม รวมถึงกระเป๋าแบรนด์เนม แต่เจ้าอาวาสขอตัดประเด็นแบรนด์เนมทิ้ง เพราะมองว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคลและเจ้าอาวาสไม่ทราบรายละเอียด อย่างไรก็ตาม เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้น ยังไม่สามารถปรักปรำได้เลย เพราะบ้านหลังนี้เจ้าอาวาสก็ยังไม่ได้เข้าไปดู มาทราบตอนที่สร้างเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งหมอแจ้งว่า เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมที่มีที่พักอาศัย ห้องนอน และห้องทำกิจกรรมต่างๆ แต่เรื่องที่ดินคาดว่าน่าจะเป็นชื่อของหมอเอง ต้องรอเจ้าตัวชี้แจงอีกครั้ง
สำหรับเรื่องราวดังกล่าว เจ้าอาวาสรู้สึกว่า “หมอมีความประมาทเลินเล่อ จึงมองว่าตรงนี้เป็นข้อบกพร่อง หมอไม่รายงาน ไม่มาเล่าให้หลวงพ่อฟัง อาจจะมองว่าหลวงพ่อไม่มีเวลาฟังหรือไม่ เวลาหลวงพ่อถามอะไร หมอก็ตอบไม่ลงลึก แต่ก็จะไปพูดว่าโกงไม่ได้ ตอนนี้ไม่มีการติดต่อกันเนื่องจากเจ้าตัวป่วย และรูปแบบการทำงานของหมอเป็นแบบนี้มานานแล้ว จึงทำให้ทางเจ้าอาวาสและหมอไม่สามารถลงรายละเอียดในบางกรณีได้ เพราะเจ้าอาวาสเองก็มีภารกิจเยอะกว่าหมอ จึงไม่มีเวลามาสอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าวที่เกิดขึ้น มีเพียงเลขาฯ ของหมอที่เป็นตัวแทนมาชี้แจงเท่านั้น”
ส่วนประเด็นที่มีหลายคนตั้งข้อสงสัยว่า เจ้าอาวาสจะนำหลานหรือญาติมาควบคุมกำกับโครงการภายในวัดนั้น ยืนยันว่า ไม่จริง เพราะตั้งมั่นอยู่แล้วว่า หากมีญาติหรือครอบครัวเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องจะมีความวุ่นวายแน่นอน นอกจากนี้ทางตำรวจเคยเข้ามาที่วัดเพื่อขอข้อมูลเมื่อ 1-2 เดือนที่แล้ว เรื่องของเส้นทางการเงิน จนทราบว่าบัญชีหมอที่เปิดรับบริจาคมีความผิดปกติ เจ้าอาวาสจึงได้เรียกหมอคุยไปแล้วก่อนหน้านี้ หมอก็บอกว่าจะกลับไปรวบรวมนำเอกสารหลักฐานของโครงการต่างๆ และกลับมาจริงพร้อมกับเอกสารกองโต ซึ่งทางกรรมการวัดก็เป็นคนตรวจสอบ
ส่วนที่ตำรวจจะตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดหรือแม้เเต่ตัวเจ้าอาวาส ก็ไม่ได้กังวลอะไร พร้อมบอกว่า กรณีนี้คนที่เป็นเจ้าทุกข์คือชาวบ้านที่ทำบุญบริจาค และหมอตกเป็นจำเลยสังคม ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของหมอต้องชี้แจง ซึ่งปัจจุบันนี้บัญชีดังกล่าวถูกระงับไปแล้วเมื่อ 1 เดือนที่แล้วหลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น การระงับในครั้งนี้ไม่ได้หมายถึงการปิดบัญชี แต่หมายถึงหมอไม่สามารถเบิกจ่ายเงินจากบัญชีดังกล่าวได้ เนื่องจากนำกลับมาดูแลซึ่งมันก็สามารถที่จะโอนเงินบริจาคได้ตามปกติ
"เมื่อไรก็ตามที่เราสามารถพิสูจน์ได้ว่า หมอมีการทุจริตหรือยักยอกเงินวัด หลวงพ่อดำเนินการแน่นอน เพราะหลวงพ่อสอนเขาด้วยปากตัวเอง“ หลวงพ่ออลงกต กล่าว
ทั้งนี้ ในวันพรุ่งนี้ทางคณะกรรมการวัดทั้งหมดจะมีการประชุมหารือกันถึงเรื่องนี้ และจะแถลงข่าวให้สื่อมวลชนได้รับทราบอีกครั้ง ที่วัดพระบาทน้ำพุ