ผัวเพิ่งสู่ขอเมียคนที่ 3 เข้าบ้าน พอตกดึกยิงดับ ก่อนยิงตัวเองตาม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวานนี้เมื่อเวลา 22.15 น. วานนี้ (18 ก.ค. 68) ร.ต.อ. สำเริง มนฑนม รองสาวรวัตรสอบสวน สภ. แม่แจ่ม ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีผู้ยิงกันเสียชีวิต ที่โรงเพาะกล้าไม้ไม่มีเลขที่ บ้านแม่หมุม ต.กองแขก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพ น.ส.ทิพย์รดา อายุ 36 ปี ชาว อ.จอมทอง ถูกอาวุธปืน 9 ม.ม. ยิงเข้าที่ศีรษะ เสียชีวิตภายในโรงปุ๋ยหมักของโรงเพาะกล้า ใกล้กันกับศพของนายภักค์ อายุ 43 ปี ชาว อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะเหมือนกัน
จากการสอบสวน นางสุนีย์ อายุ 40 ปี (ภรรยาคนที่ 2 ของผู้เสียชีวิต) ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ หลังจากกินข้าวเสร็จ ตนและลูก พร้อมกับภรรยา คนที่ 1 คือนางใส อายุ 43 ปี ได้เข้าไปในห้องพัก ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้งสองคนได้อยู่ที่โรงหมักปุ๋ย คุยกันสองคนแต่ไม่ได้ยินเสียงทะเลาะกัน
จากนั้น ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ตนเองตกใจและได้วิ่งออกมาดู แต่ไม่กล้าเข้าไปที่เกิดเหตุ จึงได้โทรหาน้องชาย ให้เข้ามาดูแทน เมื่อน้องชายเข้าไปดูจึงพบว่ามีการยิงกัน โดยเห็นสภาพของฝ่ายหญิงยังหายใจโรยรินอยู่ แต่ฝ่ายชายนั้นนอนแน่นิ่งแล้ว จึงได้โทรแจ้งรถพยาบาลและโทรแจ้งตำรวจ สภ.แม่แจ่ม เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อช่วงเข้าวันที่ 18 ก.ค. สามีได้ชวนภรรยาทั้งสองคน คือนางใส และนางสุนีย์ นั่งรถกระบะ ไปสู่ขอ น.ส.ทิพย์รดา (ภรรยาคนที่ 3) ที่บ้านขุนกลาง ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง เมื่อสู่ขอเสร็จแล้ว เวลา 11.00 น. ทั้งหมดก็ได้พากันไปกินข้าวที่ห้วยตึงเฒ่า อ.แม่ริม เพื่อฉลองการแต่งงานใหม่ ซึ่งก่อนหน้าที่กินข้าวกันที่ห้วยตึงเฒ่านั้น ทั้งสี่คนได้คุยกันและตกลงกันว่าจะนอนร่วมกันสี่คนผัวเมีย ก่อนจะเดินทางกลับบ้านในพื้นที่ อ.แม่แจ่ม มาที่โรงเพาะบ้านพักและช่วงเย็นได้กินข้าวเย็นร่วมกัน หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันละทิศละทาง ส่วนสามีและภรรยาคนที่ 3 ก็ได้พากันไปคุยกันที่โรงหมักปุ๋ยคาดว่าทะเลาะกัน และภรรยาคนที่ 3 จะหนีกลับบ้าน สามีจึงได้บันดาลโทสะยิงภรรยาคนที่สามตายและยิงตัวเองตามเพื่อหนีความผิด
ทั้งนี้ หลังจากนำตัวส่งโรงพยาบาลแพทย์ได้ทำการชันสูตรศพเรียบร้อยแล้วทางครอบครัวของ น.ส.ทิพย์รดา ถึงกับร่ำไห้ที่เห็นศพลูกสาวตัวเอง ทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าการออกจากบ้านเกิด เพื่อมาเป็นภรรยาของนายภักค์ จะมาเสียชีวิตอย่างไม่มีวันกลับ
ล่าสุดเช้าวันนี้(19 ก.ค.) ร.ต.อ. สำเริง มนฑนม รองสาวรวัตรสอบสวน สภ. แม่แจ่ม ได้เรียกตัวภรรยาคนที่ 1 และ 2 มาสอบปากคำที่ สภ.แม่แจ่ม อย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อประกอบสำนวนคดี ส่วนศพของนายภักค์ อายุ 43 ปี และน.ส.ทิพย์รดา นั้น หลังเสร็จคดี ทางครอบครัวจะนำไปฝัง เพราะทั้งสองคนเป็นชาวเขาเผาม้ง ซึ่งทางครอบครัวฝ่ายหญิงถือว่าได้ยกให้มาเป็นเมียฝ่ายชายแล้ว ทางฝ่ายชายต้องเป็นผู้รับผิดชอบและประกอบพิธีให้ศพให้กับฝ่ายหญิงตามประเพณีต่อไป