น้ำป่าหลาก ไหลแรงท่วมพื้นที่ อ.ฟากท่า จ.อุตรดิตถ์ เจ้าหน้าที่เร่งอพยพผู้คนออกมาอยู่ที่สูง เบื้องต้นได้รับผลกระทบ 200 หลังคาเรือน

วันที่ 11 ก.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ที่ 314 เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิอุตรดิตถ์สงเคราะห์อุตรดิตถ์ เร่งอพยพผู้คนที่บ้านเรือนที่ถูกน้ำป่าเข้าท่วม อพยพออกมาอยู่ที่สูง ณ กองอำนวยการของมูลนิธิกู้ภัยสว่าง เจ้าหน้าที่ของ รพ.ค่ายพิชัยดาบหัก และเจ้าหน้าที่อำเภอฟากท่าคอยให้ความช่วยเหลือ ทั้งนี้ หมู่บ้านที่ถูกกระแสน้ำท่วมบ้าน ตำบลฟากท่า หมู่ที่ 1 มี 30 หลังคาเรือน หมู่ 3 บ้านกกต้อง 100 หลังคาเรือน หมู่ 10 บ้านดงต้นผึ้ง 5 หลังคาเรือน รวมทั้งตำบลอื่นๆ รวมแล้วประมาณ 200 หลังคาเรือน ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจของแต่ละหมู่บ้านรวมทั้งพื้นที่การเกษตร

ส่วนที่ว่าการอำเภอฟากท่า บ้านพักข้าราชการ หน่วยงานต่างๆ จมอยู่ใต้น้ำ รวมทั้งบ้านพักนายอำเภอด้วย ขณะนี้กระแสน้ำป่ายังคงมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และแรง ส่วนถนนทางหลวงหมายเลข 117 ฟากท่า - บ้านโคก บริเวณหมู่บ้านกกต้อง ม.3 อ.ฟากท่า การสัญจรไม่สามารถใช้ได้ ยาวประมาณ 1 กม. ถูกน้ำท่ามและหมู่ดังกล่าวเมื่อ 9 ต.ค. 66 เกิดเหตุการณ์น้ำป่าหลาก ดินโคลนถล่มมาแล้ว

ส่วนที่หมู่ที่ 5 บ้านด่านแม่คำมัน ได้รับแจ้งจาก นส. สุภาพร จิ๋วจันทร์ เจ้าของบ่อปลา บอกว่า มีผู้เสียชีวิตจมน้ำ 2 ราย โดยกล่าวว่า ตนได้ว่าจ้างภรรยาผู้สูญหายรายหนึ่งให้ไปทำความสะอาดบริเวณโดยรอบๆ ขอบบ่อ แต่วันนี้สามีได้ชักชวนทีมงานมาช่วยอีกหนึ่งคน ขณะเกิดเหตุเรือซึ่งอยู่กลางบ่อ คาดว่าทั้ง 2 จะว่ายน้ำไปเอา แต่มีอยู่ 1 คน ที่ว่ายน้ำไม่เป็น คาดว่าทั้ง 2 จะกอดกันจึงจมน้ำไปทั้งคู่

ทราบชื่อคือนายบำรุง อายุ 55 ปี และนายนันต์ อายุ 58 ปี แต่หลังจากภรรยาตามหาและร้องเรียกไม่มีเสียงตอบ จึงเดินดูโดยรอบ พบรองเท้าแตะและเห็นเรืออยู่กลางบ่อลักษณะคว่ำ พบหมวกผ้าของผู้สูญหายลอยอยู่บนเรือ เจ้าของบ่อสอบถามเมียคนงานรับจ้างว่ามากี่คน บอกมา 5 แต่เหลือ 3 ที่กำลังทำความสะอาดอยู่ ซึ่งหายไป 2 คน สอบถามทีมงานภรรยาว่าหายไปไหน 2 คน หลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยดำค้นหา จึงพบทั้ง 2 รายจมอยู่ก้นบ่อ