คัมแบ็กอีกรอบ! "ฮุน เซน" เปิดเฟซบุ๊กโพสต์รัวๆปลุกชาวใจเขมร ขณะที่ "ฮุน มาเนต" นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา โพสต์ไปเยี่ยมประชาชนที่ศูนย์ผู้อพยพ ในจังหวัดพระวิหาร ระบุ "กัมพูชาไม่ต้องการให้เกิดสงคราม แต่จะไม่นิ่งเฉยหากถูกรุกราน"

หลังจากก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊ก Samdech Hun Sen of Cambodia ของ "สมเด็จ ฮุน เซน" ประธานวุฒิสภา และอดีตผู้นำของกัมพูชา ปิดกั้นไอพีประเทศไทย ทำให้คนไทยไม่สามารถเห็นเนื้อหาในเฟซบุ๊กดังกล่าวได้

ล่าสุด เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 2568 คนไทยสามารถเข้าดูเนื้อหาในเฟซบุ๊กดังกล่าวได้อีกแล้ว โดยพบว่า สมเด็จ ฮุน เซน เริ่มจากโพสต์ภาพพลเอกโมริชิตะ ยาสุโนริ หัวหน้าเสนาธิการกองกำลังภาคพื้นดิน ของกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น เข้าพบระหว่างการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ

ซึ่งรายงานของ ขแมร์ไทมส์ ระบุว่า ระหว่างการหารือ พลเอกโมริชิตะ ได้แสดงความพึงพอใจ และชื่นชมความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น และความร่วมมือที่เพิ่มพูนขึ้นระหว่างกองทัพของกัมพูชาและญี่ปุ่น โดยระบุว่า การเดินทางเยือนครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้าง และขยายความร่วมมือ โดยเฉพาะในด้านการฝึกอบรมทรัพยากรบุคคล ของกองทัพกัมพูชา

จากนั้น สมเด็จ ฮุน เซน ได้โพสต์คลิปวิดิโอ ความยาว 03.45 นาที เป็นเพลงพร้อมภาพกองทัพกัมพูชา พร้อมข้อความประกอบว่า "เยี่ยมชมเพลง ความเป็นชาติของกัมพูชา" และมีการโพสต์คลิปภาพการทำงานของตัวเอง และนายฮุนมาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ประกอบเพลง "นครราชสีห์" และยังมีการโพสต์คลิปวีดิโอ พร้อมข้อความว่าขอเชิญรับชมเพลง "ทำลายล้างผู้รุกรานเขมร"

นอกจากนี้ สมเด็จ ฮุน เซน ยังโพสต์ภาพจังหวัดไพลิน โดยระบุว่า จังหวัดไพลิน เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศกัมพูชา แต่เต็มไปด้วยศักยภาพด้านการท่องเที่ยว / การเกษตร / อาหาร / การทำเหมืองแร่ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ และประชากรในประเทศกัมพูชา ซึ่งแทบทุกโพสต์ของ สมเด็จ ฮุน เซน มีชาวไทยเข้าไปเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก จนสมเด็จ ฮุน เซน ถึงกับต้องปิดคอมเมนต์ และยังไม่มีการบล็อกไอพีไทย

ส่วนทางด้าน นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ยังได้โพสต์คลิปขณะไปเยี่ยมประชาชนที่ศูนย์ผู้อพยพ ในจังหวัดพระวิหาร ระบุ "กัมพูชาไม่ต้องการให้เกิดสงคราม แต่จะไม่นิ่งเฉยหากถูกรุกราน" นอกจากนี้ นายฮุน มาเนต ยังระบุว่า กระแสชาตินิยมในกัมพูชาเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช่เพราะรัฐบาลปลุกปั่น แต่เป็นเพราะประเทศไทยยั่วยุ

โดยบอกว่า ลูกธนู 3 ดอก ที่ไทยยิงเข้ามาที่กัมพูชา ดอกแรกคือ การใช้ความรู้สึกชาตินิยมสุดโต่ง เพื่อแสวงหาประโยชน์ทางการเมืองในประเทศ ดอกที่ 2 คือ การใช้มาตรการเศรษฐกิจเพื่อกดดันกัมพูชา และดอกที่ 3 คือ การระดมกองกำลังกองทัพมาคุกคามกัมพูชา