ผู้การอู๊ด ตม.3 นำทีมบุกทลายคอมเพล็กซ์กลางพัทยา รวบต่างด้าว 47 ราย เปิดบ่อน-คอลเซนเตอร์-ค้ากาม เผยความแตกเพราะผู้ต้องหายิงกันห้วยใหญ่ ซัดทอดมาเล่นบ่อนที่นี่ประจำ
วันที่ 17 มิ.ย. 2568 พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ อนุฤทธิ์ ผู้การ ตม.3 นำกำลังกว่า 50 นาย สนธิกำลังร่วม ตม.ชลบุรี สภ.เมืองพัทยา และฝ่ายปกครอง บุกทลายอพาร์ตเมนต์หรู สูง 8 ชั้น กลางซอยสุขุมวิทพัทยากลาง 36 อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้เบาะแสชัดเจนว่าเป็นแหล่งกบดาน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เถื่อน” ครบวงจร นับว่าเป็นการจับกุมครั้งประวัติศาสตร์ของเมืองพัทยา
ตรวจค้นพบห้องพักกว่า 50 ห้อง ถูกแบ่งพื้นที่ออกเป็นโซนต่างๆ ทั้งล็อบบี้รับแขก ห้องบ่อนพนันพร้อมโต๊ะไพ่นกกระจอก-ชิป-อุปกรณ์ครบเซ็ต ห้องปฏิบัติการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และห้องคาราโอเกะลับใช้ค้าบริการทางเพศแบบเจาะกลุ่มลูกค้าชาวจีนโดยเฉพาะ
เจ้าหน้าที่ยืนยันผลการปฏิบัติการ สามารถรวบผู้ต้องหาได้รวม 47 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ คือ สายพนัน เล่นไพ่นกกระจอก 20 ราย ทีมคอลเซนเตอร์ 7 ราย ฝ่าฝืนกฎหมายคนเข้าเมืองอีก 20 ราย (ไม่แจ้งตำรวจเมื่อเดินทางข้ามจังหวัด) ผู้ต้องหาส่วนใหญ่เป็นชาว จีน เวียดนาม เมียนมา และสิงคโปร์ พร้อมของกลางแน่นห้อง ทั้งอุปกรณ์พนัน คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หนังสือเดินทาง
พล.ต.ต.ชัยฤทธิ์ เผยเบื้องหลังการบุกครั้งนี้ว่า สืบเนื่องจากเหตุยิงกันภายในซอยเดียวกันเมื่อ 2 มิ.ย. ที่ผ่านมา กลุ่มชาวจีนพยายามลากตัวผู้บาดเจ็บเข้าบ้าน ก่อนรีบล้างเลือดอย่างลุกลี้ลุกลน ตำรวจขยายผลตรวจรถที่ใช้ก่อเหตุ เจอยาเสพติดหลากหลายชนิด และส่วนผสมของยาเสพติดประเภทพ็อดเคที่กำลังระบาดอยู่ในสถานบันเทิง จึงลากไส้ขบวนการนี้จนถึงอพาร์ตเมนต์ดังกล่าว
ผู้ต้องหาเปิดปากรับสารภาพว่า เคยเข้าไปเล่นการพนันที่นี่เป็นประจำ ตม.3 จคงไม่รอช้า ลุยตรวจสอบเชิงลึกจนพบความจริงชัดว่า ที่นี่คือรังใหญ่ทุนจีน เปิดกิจการผิดกฎหมายครบสูตร ทั้งบ่อน คอลเซนเตอร์ ค้าบริการ ทำกันเป็นล่ำเป็นสัน โดยจากการตรวจสอบกลุ่มนักพนันชาวต่างชาติ พบว่าเข้ามาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว
เบื้องต้น แจ้งข้อหาทั้งลักลอบเล่นการพนัน ทำงานโดยไม่รับอนุญาต รวมถึงรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะเอาผิดในข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร และความผิดอื่นๆ เพิ่มเติม ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี และเตรียมส่งฟ้องศาลทุกข้อหาไม่เว้นรายใด และหากคดีถึงที่สุดจะผลักดันกลับประเทศต้นทางทันที พร้อมขึ้นแบล็กลิสต์ถาวร ห้ามกลับเข้าแผ่นดินไทยอีก