ฆาตกรรมสะเทือนขวัญกลางเมืองพิษณุโลก! หนุ่มใหญ่นักร้องร้านอาหาร วัย 50 ปี บุกกระหน่ำแทงนักร้องสาวรุ่นน้อง 31 แผล ดับสยองคาบ้านพัก หลังรู้ความจริงว่าฝ่ายหญิงมีครอบครัวอยู่แล้ว อ้างคบหากันลับๆ นาน 3 ปี ก่อนความรักผิดหวังบวกโรคร้ายกลายเป็นชนวนเลือด ลูกชายผู้ตายร่ำไห้ปรี่เข้าหาตัวคนร้ายขณะทำแผนฯ

วันที่ 10 มิ.ย. 2568 มีรายงานว่า เมื่อเวลา 08.30 น. พ.ต.ท.สมหมาย รักป้อม สว.(สอบสวน) สภ.วังทอง จ.พิษณุโลก รับแจ้งเหตุมีผู้หญิงถูกทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดเสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง ใกล้เคียงร้านขายของชำข้างโรงเรียน ต.วังทอง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชารับทราบ แล้วรุดตรวจสอบพร้อมด้วยตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลวังทอง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบูรพา

ที่เกิดเหตุบ้านไม้ครึ่งปูน 2 ชั้น บริเวณโรงจอดรถชั้นล่างพบศพหญิงสาว 1 ราย ทราบชื่อคือ นางรัชดา หรือ “มด” อายุ 43 ปี แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพพบสภาพถูกแทงด้วยของมีคมมากถึง 31 แผล บริเวณราวนมข้างขวา 1 แผล ด้านหลังอีก 30 แผล นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่อย่างน่าสยดสยอง ก่อนให้กู้ภัยช่วยกันนำร่างส่งแผนกนิติเวชโรงพยาบาลพุทธชินราช ซึ่งในเวลาต่อมา นายต่าย อายุ 50 ปี สามีของผู้เสียชีวิต หลังทราบข่าวได้เดินทางมาดูร่างภรรยาถึงกับร้องไห้ฟูมฟายก่อนจะเป็นลมล้มพับไม่ได้สติ จนกู้ภัยต้องเข้ามาช่วยปฐมพยาบาล โดยมีเพื่อนๆ คอยปลอบใจให้คลายเศร้ากับเรื่องราวที่เกิดขึ้น

ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายวุฒิพงษ์ อายุ 50 ปี อาชีพนักร้องในร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองพิษณุโลก หลังก่อเหตุยังพยายามไล่ทำร้ายชาวบ้านที่เข้าไปช่วยเหลือ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจะเข้าระงับเหตุและควบคุมตัวไว้ได้ พร้อมของกลางอาวุธมีดทำครัวยาวประมาณ 30 ซม. ก่อนนำตัวไปสอบปากคำที่ห้องสืบสวน สภ.วังทอง

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายวุฒิพงษ์ ให้การว่า ตนมีความสัมพันธ์แอบคบหากับผู้เสียชีวิตในฐานะแฟนมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว แต่ภายหลังเพิ่งมาทราบว่าฝ่ายหญิงมีครอบครัวอยู่แล้ว ซึ่งอยู่กินกับสามีมาเป็นเวลา 10 ปี ประกอบกับเพิ่งทราบว่าตนเองป่วยเป็นโรคร้ายแรงจึงเกิดความเครียดและบันดาลโทสะก่อเหตุดังกล่าว

โดยก่อนเกิดเหตุนายวุฒิพงษ์ได้ขี่รถจักรยานยนต์จากที่พักบริเวณบ้านท่าตะเคียน ต.จอมทอง อ.เมืองพิษณุโลก มุ่งหน้ามาที่ อ.วังทอง ซึ่งเป็นร้านขายของชำที่ผู้ตายเปิดขายของอยู่ใกล้กับโรงเรียนทุกๆ เช้า เมื่อมาถึงจึงลงมือใช้อาวุธมีดที่เตรียมมาแต่ฝ่ายหญิงสาววิ่งหนีไปขอความช่วยเหลือกับเพื่อนบ้านข้างเคียง ตนจึงวิ่งติดตามไปและลงมือกระหน่ำแทงจนเสียชีวิต

จากนั้นนายจุติ อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านอยู่ติดกับร้านขายของผู้ตาย ให้การว่าได้ยินเสียงโวยวาย จึงรีบออกมาดูและพบเหตุการณ์อันน่าสะเทือนใจดังกล่าว แต่ผู้ก่อเหตุยังตามมาทำร้ายไล่แทงตนอีกด้วย ก่อนจะมีตำรวจสายตรวจเข้ามาระงับเหตุและจับกุมตัวเอาไว้ได้ในที่สุด

ขณะที่นายต้น อายุ 18 ปี ลูกชายคนตาย กล่าวว่า นายวุฒิพงษ์ ผู้ก่อเหตุ มาหาแม่ของตนที่บ้านหลายครั้งเพื่อขอหยิบยืมเงินจำนวนหลายหมื่นบาท แต่ที่ผู้ก่อเหตุอ้างว่าแอบคบหากับแม่ตนนั้นเรื่องนี้ไม่เคยทราบเรื่องมาก่อนว่าจริงหรือไม่ หรือเป็นแค่คำกล่าวอ้างที่มายืมเงินแล้วแม่ตนไม่ให้จึงเกิดความคับแค้นใจมาลงมือก่อเหตุในวันนี้

ด้านนายคุณากร อายุ 33 ปี เจ้าของวงดนตรีเพื่อนผู้ตาย กล่าวว่า เรื่องปัญหาของผู้ก่อเหตุกับคนตายนั้นตนไม่ทราบ แต่ผู้ตายเป็นคนดีขยันทำงานดูแลลูก ๆ ทั้งลูกชาย ลูกสาว ทำงานกับวงดนตรีของตนมานานแล้ว จนมาทราบข่าวร้ายในวันนี้ ผู้ก่อเหตุใจคอโหดเหี้ยมมาก ถ้าเจออยากจะถามว่ามาทำพี่สาวของตนทำไม ส่วนชาวบ้านที่ทราบข่าวต่างเดินทางมามุงดู พร้อมอยากให้ตำรวจนำผู้ก่อเหตุมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันนี้ เพราะผู้ตายเป็นคนอัธยาศัยดีไม่มีพิษภัยกับใครเลย แต่ต้องมาตายอย่างทารุณขนาดนี้

ต่อมาในเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้นำตัวผู้ก่อเหตุมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่มามุ่งดูเหตุการณ์พร้อมประณามผู้ก่อเหตุว่าทำไมใจร้ายและโหดเหี้ยมขนาดนี้ ขณะที่ลูกชายของผู้เสียชีวิตได้พุ่งตัวเข้าไปหาผู้ก่อเหตุด้วยความโกรธแค้น ที่ลงมือฆ่าแม่ของตนอย่างโหดเหี้ยมทารุณ แต่ถูกเจ้าหน้าที่กันตัวไว้ได้

เบื้องต้นผู้ก่อเหตุเป็นมะเร็งและเป็น HIV อยู่ระหว่างทานยาต้าน ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเอาไว้ก่อน และอยู่ระหว่างสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุการลงมือก่อเหตุที่แท้จริงเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป