"เพื่อนรุ่นน้อง" เข้าเยี่ยม "ผัวโหด" ฆ่าเมียหมกรถ เผยสาเหตุ และพิรุธก่อนก่อเหตุ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 มิ.ย. 68 ที่สถานีตำรวจนครบาลเพชรเกษม ภายหลังจากที่ ตำรวจได้ควบคุมตัว นายมีพาพัฒน์ หรือ วุฒิ อายุ 40 ปี ที่ก่อเหตุ ยิง แฟนสาว เสียชีวิต แล้วนำศพมาใส่ไว้ภายในรถเก๋งฮอนด้า เอชอาร์วี สีขาว ทะเบียน 1 ขช 186 กรุงเทพมหานคร ก่อนที่จะหลบอยู่ภายในบ้านพัก จนสุดท้าย ทางตำรวจ ได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำได้สำเร็จ

จากการสอบถามตำรวจที่ดูแลห้องขัง ทราบว่านายมีพาพัฒน์ ผู้ต้องหาในคดียิงแฟนสาวฆ่าหมกรถยนต์ ภายในซอยเพชรเกษม 67 แยก 8 ยังคงมีอาการเครียดตลอดทั้งคืน เดินกอดอกวนไปวนมาภายในห้องขัง สลับกับการนั่งและนอนตลอดทั้งคืน

ผู้สื่อข่าวได้พบ นางสาวออย นามสมมุติ และ นางสาวนก นามสมมุติ ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้องของ นายมีพาพัฒน์ ได้นำข้าวผัดและกาแฟมาเยี่ยม รวมทั้งอยากให้ช่วยขอโทรศัพท์มือถือของนายมีพาพัฒน์จากตำรวจที่ถูกยึดไว้เป็นของกลางมาให้ เพื่อที่เจ้าตัวจะได้ติดต่อญาติ จากนั้นเพื่อนรุ่นน้องของนายมีพาพัฒน์ ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนว่า จากการพูดคุยนายมีพาพัฒน์ ยังคงมีอาการเครียด เหม่อลอย ตนเองจึงไม่กล้าสอบถามอะไรมากนัก

แต่เมื่อวานนี้ ช่วงประมาณ 11.00 น. นายมีพาพัฒน์ ได้โทรมาหาตนเองถึง 3 สาย แต่ตนเองไม่ได้รับสาย เนื่องจากกำลังทำงานอยู่ เมื่อตนเองโทร กลับไป นายมีพาพัฒน์พูดกลับมาด้วยน้ำเสียงเหม่อลอย ว่า “อยากให้มารับไปแสมดำ” ตนเองก็ปฏิเสธไป เพราะติดงาน ก่อนจะถามกลับไปว่าเกิดอะไรขึ้น นายมีพาพัฒน์ หัวเราะในลำคอด้วยเสียงแห้งๆ แล้วก็ตัดสายไปไม่ได้ตอบอะไร ตอนนั้นตนเองก็เริ่มเอะใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่ได้โทรกลับไปใหม่ จนกระทั่งมาทราบข่าวที่เกิดขึ้น

นอกจากนี้เพื่อนรุ่นน้องนายมีพาพัฒน์ เปิดเผยอีกว่า ตนเองรู้สึกตกใจ เพราะปกตินายมีพาพัฒน์เป็นคนเงียบ ๆ ไม่ได้มีท่าทีเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่ช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมานายมีพาพัฒน์เริ่มเปลี่ยนไป พูดจาไม่รู้เรื่อง จับใจความไม่ได้ เท่าที่ทราบนายมีพาพัฒน์มีปัญหาหลายด้าน ทั้งเรื่องการเงิน ภาระครอบครัวที่ต้องดูแลลูกถึง 4 คน รวมทั้งปัญหาส่วนตัวอื่น ๆ ที่นายมีพาพัฒน์ไม่ได้เล่าให้ฟัง

อย่างไรก็ตาม ตนเองทราบมาว่านายมีพาพัฒน์คบหากับภรรยาอยู่ และมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน ขณะเดียวกันนายมีพาพัฒน์ก็มาคบหากับนางสาวเอ (นามสมมุติ) ผู้เสียชีวิต และมีลูกชายด้วยกันอีก 3 คน ซึ่งต่างฝ่ายต่างก็รู้ว่านายมีพาพัฒน์มีโลก 2 ใบ และก็มักมีปัญหาทะเลาะกระทบกระทั่งกันมาตลอดกับนายมีนาพัฒน์

นอกจากนี้ นายมีพาพัฒน์เคยเล่าให้ฟังว่า นางสาวเอ (นามสมมุติ) ผู้เสียชีวิต มายืมเงินนายมีพาพัฒน์ไปหลักล้านบาท และนายมีพาพัฒน์ต้องการได้เงินก้อนนี้คืน เนื่องจากกำลังมีปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ถึงขนาดเคยคิดจะขายรถขายบ้าน นายมีพาพัฒน์พยายามทวงเงินไปแล้วหลายครั้ง แต่ นางสาวเอ (นามสมมุติ) ผู้เสียชีวิต ก็ไม่เคยให้คำตอบที่ชัดเจน จึงคาดว่าน่าจะเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้นายมีพาพัฒน์ ก่อเหตุดังกล่าว