ผลสอบคาดน็อต 2 ตัว ยึดใบพัดหางหลุดเสียการทรงตัว ต้นเหตุทำ ฮ.ตำรวจตก
วันนี้ (30 พ.ค.) ที่กองบินตำรวจ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) เรียกประชุมติดตามความคืบหน้าคลี่คลายกรณีเหตุเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบล 212 ประสบเหตุตกในพื้นที่จ.ประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้มีนักบินและช่างเครื่องเสียชีวิตรวม 3 นาย โดยเปิดเผยว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจาก ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มาตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเฮลิคอปเตอร์ตก และร่วมประชุมกับผู้บังคับการกองบิน นักบินและช่างเครื่องทั้งหมด เพื่อให้ทราบสาเหตุที่แน่ชัด โดยจะมีผู้แทนจากบริษัทผู้ผลิตเฮลิคอปเตอร์รุ่นดังกล่าว เข้ามาร่วมตรวจสอบ ทั้งนี้จะดูไปถึงเรื่องของงบประมาณที่ใช้ในการซ่อมบำรุงด้วย
เบื้องต้นจะรายงานให้ ผบ.ตร.ทราบ ตามที่พบสาเหตุเบื้องต้น คือใบพัดใหญ่ส่วนหางขาด เนื่องจากน็อต 2 ตัวยึดใบพัดด้านหลังหลุด ทำให้ใบพัดเสียการทรงตัว และไปตัดกับตัวชุดหางของเฮลิคอปเตอร์ขาด โดยชุดใบหางมีหน้าที่ควบคุมทิศทาง จึงทำให้เครื่องเสียการทรงตัวและตกลงในที่สุด ส่วนสาเหตุที่น็อตหลุดต้องมีการตรวจสอบ ว่าหลุดจากการใช้งาน หรือหลุดจากการซ่อมบำรุง แต่น็อตดังกล่าวยังอยู่ในอายุการใช้งานอีกกว่า 600 ชั่วโมง
ส่วนการซ่อมบำรุงที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการบินไทยเป็นคู่สัญญาในการซ่อมบำรุง ตำรวจจะซ่อมเองกรณีเสียหายเล็กน้อย สำหรับน็อตก็จะต้องไปดูว่าเป็นที่โรงงานผลิตหรืออยู่ในส่วนของการซ่อมบำรุงซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบรายละเอียด ยืนยันว่าจะต้องมีคำตอบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะต้องมีคนรับผิดชอบทั้งทางอาญาและทางแพ่ง
พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ในการสืบสวนข้อเท็จจริงจะดำเนินการตามพยานหลักฐาน อาจเกิดจากวัสดุที่หมดอายุ หรือเกิดจากความผิดพลาดของการผลิต หรือจากการซ่อมแซมที่นำไปสู่วัสดุที่ไม่ได้คุณภาพทำให้เกิดเหตุเครื่องบินตก หรือเกิดความผิดพลาดของนักบิน ซึ่งประเด็นเหล่านี้ตนได้วางกรอบไว้ชัดเจนว่าจะต้องพิสูจน์ให้ได้ข้อเท็จจริง ยืนยันว่างานนี้ไม่มีมวยล้มต้มคนดูเพราะเป็นเรื่องใหญ่และเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
อย่างไรก็ตาม สำหรับการตรวจสอบหาสาเหตุเครื่องบินตก ในพื้นที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ที่มีนักบินและช่างเครื่องเสียชีวิตจำนวน 6 นาย จากการตรวจสอบพบว่าเกิดความผิดพลาดของเครื่อง ทำให้เครื่องบินเสียการทรงตัว แต่สาเหตุที่แท้จริงยังต้องรอสรุปผลจากการตรวจสอบกล่องดำจากบริษัทผู้ผลิต