สืบนครบาล 3 แฝงตัวเป็นเด็กวัด เข้าสำนักสงฆ์ย่านมีนบุรี หาหลักฐานรวบ "นักบิณฑ์" ไทย-ต่างด้าว ไม่รับกิจนิมนต์ บิณฑบาตอย่างเดียวสวดให้ศีลให้พรมั่วๆ พบยาเสพติดคากุฏิ

วันที่ 28 พ.ค. 2568 พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สส.บก.น.3 สั่งการให้ พ.ต.ท.จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี รอง ผกก.สส.บก.น.3 พ.ต.ท.สุริยา กุญแจกล สว.กก.สส.บก.น.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนครบาล 3 เข้าไปตรวจค้นสำนักสงฆ์ธรรมรัตน์ ย่านคลองแสนแสบ มีนบุรี

สืบเนื่องจากชาวบ้านในย่านบึงขวาง ทนไม่ไหวเห็นพระในสำนักสงฆ์ธรรมรัตน์ ถ.บึงขวาง แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร มีพระอยู่ประมาณ 7 - 8 รูป แต่ไม่เคยเห็นมีกิจนิมนต์ ไม่เคยมีญาติโยม เข้าไปทำบุญมาร่วม 2 ปีแล้ว เห็นมีแต่ลูกศิษย์วัยรุ่นคล้ายคนติดยาเข้าออก

ส่วนพระมีกิจที่ชาวบ้านเรียกว่า “บิณฑ์” อย่างเดียว คือทำหน้าที่ออกบิณฑบาตอย่างเดียว เช้าตั้งแต่ตี 5 พระจะขับรถเก๋งส่วนตัวออก “บิณฑ์” เดี่ยว ส่วนที่ไม่มีรถส่วนตัวจะไปกระบะ กับซาเล้งของสำนักสงฆ์ กลับเข้ามาอีกทีประมาณ 9 โมงเช้า แล้วก็หายเข้ากุฏิของใครของมัน ไม่ออกมาอีกเลย

จึงได้มอบหมายให้ ร.ต.ต.อนุพงษ์ ปัตถาวโร รอง สว.สืบสวน บก.น.3 แฝงตัวเข้าไปทำทีว่าถูกไล่ออก ถูกโกงค่าแรง เพื่อขอไปเป็นเด็กวัด ทำงานรับใช้ในสำนักสงฆ์ แลกข้าวและแกงถุง กินประทังชีวิต โดยทางหลวงปู่ขาว เจ้าสำนักสงฆ์ ซึ่งอาพาตป่วยเป็นอัมพฤกษ์ ต้องนั่งรถเข็นตลอด เสนอว่าจ้างให้เป็นคนขับรถซาเล้ง เพื่อพาออกไปบิณฑบาตตอนเช้าวันละ 100 บาท จนทราบ และเห็นพฤติการณ์ทั้งหมดในสำนักสงฆ์ดังกล่าว

ในสำนักสงฆ์แห่งนี้ พบว่า มีพระสัญชาติกัมพูชาอยู่ 4 รูป ส่วนพระไทยติดยาอยู่หลายรูป ไม่รับกิจนิมนต์ ออก “บิณฑ์” อย่างเดียว ตามที่ชาวบ้านเขาว่า เมื่อออกติดตามไปดูพระกัมพูชาที่ไปบิณฑบาต เน้นไปที่ตลาดแหล่งชุมชนอย่างเดียว เวลาญาติโยมใส่บาตรให้ศีลให้พร ท่องส่งไปแบบมั่ว ๆ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 สั่งการวางแผนเข้าไปทำการจับกุม

สืบนครบาล 3 ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญามีนบุรี ก่อนนำกำลังเข้าไปตรวจค้นสำนักสงฆ์ เหมือนร้างไม่มีใครอยู่ พบเพียงรถเก๋งจอดอยู่ 3 คัน จึงได้ออกไปเคาะตามห้องพักต่าง ๆ พบพระจำวัดอยู่ภายในห้อง จึงนิมนต์ออกมาขอตรวจสอบ พบพระในสำนักสงฆ์เป็นพระไทย 3 รูป มีใบสุทธิเรียบร้อย

พบพระกัมพูชาจำวัดอยู่ 2 รูป ตรวจสอบแล้วไม่มีใบสุทธิของสงฆ์ ส่วนหนังสือเดินทางไม่มีการประทับตราเข้า-ออกในประเทศไทย ทางหลวงปู่ขาว เจ้าสำนักสงฆ์ แจ้งว่าปกติมีพระกัมพูชาจำวัดอยู่ 4 รูป เมื่อเช้าออกไปบิณฑบาตยังไม่กลับ ได้แจ้งเข้ามาว่าถูกตำรวจจับกุมตัวเมื่อเช้าที่ผ่านมาขณะบิณฑบาตที่ สน.ลาดกระบัง

และพบพระโอ อายุ 50 ปี บวชมา 13 พรรษา อยู่ในกุฏิ ตรวจค้นพบ ยาไอซ์ 4 ถุง หนักประมาณ 3 กรัม ยาบ้า 12 เม็ด พร้อมอุปกรณ์การเสพยาอีก 3 รายการ จึงเชิญตัวมาสอบสวน

ต่อมาทาง พระครูอุดมจารุวรรณ หรือหลวงพ่อคำไล้ เจ้าอาวาสวัดบำเพ็ญเหนือ/เจ้าคณะเขตมีนบุรี และ พระครูถาวรธรรมานุสิฐ เจ้าอาวาสวัดบางเพ็งใต้/เจ้าคณะแขวงมีนบุรี พระผู้ปกครองในพื้นที่ และพระวินยาธิการ ได้มาร่วมสอบสวนและจัดทำพิธีลาสิกขาให้เรียบร้อย ก่อนที่จะให้นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้จับกุมตัวนายปรัชญา หรือพระโอ ในข้อหามียาไอซ์และยาบ้า ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสพยาเสพติด ฯ พร้อมจับกุมตัวนายสาน หรือพระสาน สัญชาติกัมพูชา และนายกิต หรือพระกิต สัญชาติกัมพูชา ในข้อหาเป็นคนต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ และแต่งกายเป็นพระภิกษุในพุทธศาสนา โดยผิดกฎหมาย