ตำรวจร่วม 100 นาย เร่งปูพรมล่ากลุ่มคนร้ายยิง-เผานั่งยาง 3 ศพ กลางสวนปาล์ม อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุด พบโครงกระดูกถูกเผาและฝังมา 2-3 สัปดาห์แล้วอีก 1 ศพ คาดเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกัน

วันที่ 12 พ.ค. 2568 จากกรณีมีกลุ่มคนร้ายคาดว่าไม่ต่ำ 4-5 คน คาดว่ารู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี ใช้อาวุธปืนยิงนายสุรเชษฐ์ หรือโกเชษฐ์ อายุ 69 ปี ชาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ นายอนันต์ อายุ 49 ปี ชาว อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช และนายวีระยุทธ อายุ 41 ปี ชาว อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ซึ่งทั้ง 2 รายเป็นลูกน้องของโกเชษฐ์ โดยร่างทั้งหมดถูกนำไปเผานั่งยางในร่องคูน้ำภายในสวนปาล์มน้ำมัน พื้นที่ หมู่ 1 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง พร้อมทั้งได้นำรถยนต์ยี่ห้อ มิตซูบิชิ รุ่นไททัน และโทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตไปด้วย โดยมีคนไปพบและแจ้งเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา อีกทั้งยังไปพบโครงกระดูกพร้อมร่างมนุษย์บางส่วนถูกเผานั่งยางและฝังดินอยู่ในสวนปาล์มน้ำมันห่างจากจุดเกิดเหตุไปประมาณ 200 เมตร คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2-3 สัปดาห์

ความคืบหน้าวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาว อ.สิเกา จ.ตรัง ได้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีดีดังกล่าวนี้ เนื่องจากรู้จักกับนายสุรเชษฐ์ หรือโกเชษฐ์ อีกทั้ง นายศุภกรณ์ ยังเป็นผู้จัดการสวนปาล์มจำนวน 36 ไร่ ซึ่งอยู่ติดต่อกับสวนปาล์มจำนวน 100 กว่าไร่ ที่นายสุรเชษฐ์ หรือโกเชษฐ์ เป็นผู้จัดการและดูแลอยู่อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้ขอศาลอนุมัติออกหมายจับบุคคลใด

ในขณะนี้กำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจากกองปราบปราม (บก.ป.) ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.9 ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ตรัง ชุดสืบสวน สภ.สิเกา และที่เกี่ยวข้อง ร่วม 100 นาย ได้ปูพรมออกติดตามตัวผู้ก่อเหตุ พร้อมทั้งแสวงหาพยานหลักฐานทั้งหมด ทั้งกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนีของคนร้าย ที่อาจจะเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มของคนร้าย และช่วงใกล้ค่ำของวานนี้ (11 พ.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบร้านจำหน่ายล้อรถยนต์ซึ่งอยู่ในรัศมีใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ ริมถนนสายตรัง-สิเกา แต่อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มคนร้าย แต่สันนิษฐานไว้ว่า อาจจะเป็นแหล่งที่กลุ่มคนร้ายจะมาซื้อหรือนำเอายางล้อรถยนต์ไปก่อเหตุดังกล่าวขึ้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดในส่วนนี้ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกบุคคลใกล้ชิด และคนในครอบครัว มาสอบปากคำแล้วจำนวนกว่า 10 ปาก พร้อมประสานให้ญาติผู้เสียชีวิตเข้ามาตรวจดีเอ็นเอเพื่อยืนยันกับตัวบุคคลที่เสียชีวิต

ด้านเพื่อนสนิท กล่าวว่า โกเชษฐ์เป็นคนดี เป็นคนที่สังคมรักและยอมรับ เดิมเป็นคนอำเภอนาบอน จังหวัดนครศรีธรรมราช แต่ย้ายมาอยู่ใน อ.ทรายขาว จ.กระบี่ ซึ่งโกเชษฐ์เข้ามาเป็นผู้จัดการ มาดูแลสวนปาล์มแห่งนี้เป็นระยะเวลาหลายปีแล้ว

ด้านนายเกษม อายุ 60 ปี เพื่อนร่วมงาน กล่าวว่า โกเชษฐ์เป็นคนอัธยาศัยดี ซึ่งเป็นผู้จัดการสวนปาล์มน้ำมันของทีมนาบอน โดยทำงานให้กับบริษัทฯ ในนามทีมนาบอน ซึ่งดูแลสวนปาล์มบางสวนบางแปลงรวมทั้งหมดที่ดูแลหลักหลายพันไร่ โดยจะเป็นผู้ดูแลให้ทั้งหมด จะนำคนงานมาตัดหญ้าและใส่ปุ๋ยให้ทั้งหมด อีกทั้งโกเชษฐ์เป็นกรรมการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนร่วมกับตน ซึ่งตนร่วมงานกับโกเชษฐ์มากว่า 10 ปีแล้ว นิสัยส่วนตัวของโกเชษฐ์เป็นคนตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม และเป็นคนที่จริงใจ ก่อนเกิดเหตุทราบว่า โกเชษฐ์ได้รับแจ้งว่ามีคนเข้ามาตัดไม้ภายในสวนปาล์มที่ดูแลอยู่จึงนำลูกน้องมาดู จนตนได้ทราบข่าวจากทีมงานว่า โกเชษฐ์ถูกฆ่าเผานั่งยางช่วงเวลาหัวรุ่ง 05.30 น. วานนี้ (11 พ.ค.) ส่วนคนงาน 2 คนที่ถูกฆ่าเผานั่งยางด้วยนั้น เป็นคนงานที่ประจำอยู่ในบริษัทฯ ส่วนสาเหตุต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบให้ละเอียด ที่ผ่านมาเท่าที่ทราบโกเชษฐ์ไม่เคยมีปัญหาหรือขัดแย้งกับใครมาก่อน ตอนนี้คนในพื้นที่ก็ขวัญผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะคนร้ายก่อเหตุอุกอาจ ซึ่งปัญหาที่มีการลักขโมยปาล์มน้ำมันนั้นมีมาก จนต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐให้เข้ามาแก้ปัญหาการลักปาล์ม

ส่วนนายมานิตย์ ท่าจีน นายอำเภอสิเกา กล่าวว่า ช่วงก่อนหน้านี้ในพื้นที่ ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง ได้รับเรื่องการขโมยผลปาล์มน้ำมัน จึงได้ดำเนินการป้องปรามร่วมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมประสานกับพื้นที่รับซื้อปาล์มน้ำมัน สำนักงานพาณิชย์จังหวัด ลงตรวจพื้นที่ บางส่วนก็แก้ปัญหาไปแล้ว จนประมาณ 1 เดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา เรื่องปัญหานี้ก็เงียบไป ส่วนการคัดกรองคนเข้าออกพื้นที่นั้นก็ได้สั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้รายงานข้อมูล

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นแนวทางการสอบสวนในประเด็นฆ่าเผานั่งยางจำนวน 3 ศพนั้น น่าจะมุ่งไปในประเด็นขัดแย้งผลประโยชน์ในเรื่องของการจัดเก็บปาล์มน้ำมัน ส่วนโครงกระดูกและร่างมนุษย์บางส่วนที่ถูกพบเพิ่มเติมหลังถูกฆาตกรรมมาแล้วประมาณ 2-3 สัปดาห์นั้นน่าจะไม่มีความเชื่อมโยงกันกับเหตุการณ์นี้ แต่บุคคลที่ก่อเหตุอาจจะเป็นกลุ่มเดียวกัน เนื่องจากมีพฤติการณ์ที่คล้ายกัน โดยทราบว่าทาง พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 จะได้เดินทางมาประชุมติดตามคดีที่ สภ.สิเกา อีกครั้ง