แก๊งคอลฯ อาละวาด อ้างเป็นดีเอสไอ หลอกด็อกเตอร์หนุ่ม บังคับคุย 7 วัน 7 คืน โอนเงินกว่า 8 ล้านบาท เผยอยู่ต่างประเทศ 9 ปีไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้

วันที่ 1 พฤษภาคม 68 ที่สำนักงานสายไหมต้องรอด เขตสายไหม ดร.ศิวัช อายุ 32 ปี อาชีพวิศวกร เดินทางเข้าร้องทุกข์หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์บังคับให้โอนเงินกว่า 8 ล้านบาท ในห้วงเวลา 7 วันโดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ

นายศิวัช เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา ตนได้รับสายจากบุคคลที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากดีเอสไอ แจ้งว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเปิดบัญชีม้า ต่อมาได้ให้แอดไลน์พร้อมเปิดกล้องในการสื่อสาร ก่อนจะส่งเอกสารการอายัด พร้อมบอกว่าให้โอนเงินไปเพื่อตรวจสอบเส้นทางการเงิน โดยให้อยู่ภายในห้องหรือในพื้นที่ที่ไม่มีบุคคลอื่นเข้ามาร่วมรับฟัง ทำให้ตนรู้สึกตกใจ เพราะปลายสายบอกว่าหากไม่ทำตามจะถูกอายัดทรัพย์สินทั้งตนและคนในครอบครัวทั้งหมด จึงยอมกระทำตามคำสั่งของปลายสาย ซึ่งพฤติการณ์คือ ได้ให้ตนคุยกับบุคคลแรกที่เป็นผู้หญิง หลังจากนั้นก็จะต่อสายให้สายต่อไปเรื่อยๆ

การถือสายในการพูดคุยครั้งนี้ ใช้ระยะเวลาไปถึงเจ็ดวันเจ็ดคืนโดยห้ามวางสายและให้โอนเงินออกไปเรื่อยๆ ในบัญชีที่แตกต่างกัน ซึ่งนายศิวัชบอกว่า ตนได้โอนเงินไปทั้งหมดรวม 8,465,084 บาท จากทั้งหมด 5 บัญชี 4 ธนาคาร รวม 11 ครั้ง นอกจากนี้ยังบอกให้นายศิวัชเดินทางไปที่หาดใหญ่เพื่อนำสลากออมสินมาแปลงเป็นเงินโอนให้อีกด้วย โดยตลอดการเดินทางก็ยังคงให้ค้างสายตลอด แต่จะมีช่วงที่ขึ้นเครื่องบินเท่านั้นที่สายจะถูกตัดไป แต่ก็ให้รายงานทุกครั้งที่เดินทาง

เมื่อสอบถามว่า ทำไมถึงไม่เอะใจถึงพฤติกรรมดังกล่าว นายศิวัช บอกว่า ตนไปอาศัยอยู่ที่ต่างประเทศเป็นเวลา 9 ปี ซึ่งไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน กระทั่งกลับมามาถึงที่ประเทศไทยและอาศัยอยู่ที่นี่ประมาณ 1 ปี ก็พบว่าตลอดระยะเวลาที่อาศัยในประเทศไทยนั้น ก็มีเบอร์มิจฉาชีพโทรเข้ามาอยู่บ่อยครั้ง แต่ตนก็จับได้ทุกครั้ง แต่ในครั้งนี้กลับมีความแนบเนียนในการหลอกลวง และด้วยความกลัวตนจึงต้องทำตามอีกฝ่ายที่ได้ข่มขู่มา

นายศิวัช ยังบอกว่า ยังโชคดีที่คอลเซ็นเตอร์กลุ่มนี้พยายามจะให้ตนนำโฉนดคอนโดมูลค่ากว่า 7 ล้านบาทไปจำนองเพื่อนำเงินโอนไปให้ แต่การจำนองไม่ผ่าน ปลายทางจึงไม่ต้องการอีกต่อไป

ด้านนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้เปิดเผยหลังจากที่รับฟังเรื่องราวดังกล่าวว่า ทางเพจฯ จะประสานไปยังผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้ติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษต่อไป ซึ่งอยากจะฝากเตือนไปถึงพี่น้องประชาชนว่า ตอนนี้ไม่ใช่แค่ประชาชนทั่วไปที่ถูกกลุ่มมิจฉาชีพหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง ยังมีบุคคลที่เป็นทั้งด็อกเตอร์และผู้คุมกฎหมายโดนด้วยเช่นเดียวกัน จึงอยากฝากถึงรัฐบาลกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์พวกนี้ให้หมดไปโดยเร็วที่สุด