สืบนครบาลรวบโจรนินจา ตระเวนชิงทรัพย์และฉ้อโกง 13 ท้องที่ แม่ไม่ประกันตัวชี้ลูกเป็นภัยสังคม เพื่อนแฉติดพนันออนไลน์ เตือนแล้วไม่ฟัง

วันที่ 29 เม.ย. 2568 จากกรณีที่กัน จอมพลัง ช่วยเหลือผู้เสียหายหลายรายที่ถูกคนร้ายสวมรอยเป็นไรเดอร์ ออกอุบายติดต่อซื้อผ่านทางออนไลน์แล้วชิงทรัพย์ เปรียบเสมือนเป็นโจรนินจาที่ก่อเหตุมาแล้วในพื้นที่กว่า 13 สถานีตำรวจ ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จ.ปทุมธานี และ จ.นนทบุรี

ล่าสุด ตำรวจสืบสวนนครบาลสามารถจับกุมโจรนินจาคนดังกล่าวได้แล้ว ชื่อนายกรภัค หรือโอ๊ค วัย 22 ปี โดยจับได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ท้องที่ สน.ตลิ่งชัน ในข้อหาฉ้อโกง ซึ่งจับกุมได้ที่หอพักย่านคลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา โดยรายละเอียดของการจับกุมในครั้งนี้ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า หลังจากได้รับมอบหมายจากทางผู้บังคับบัญชาให้สืบสวนเพื่อไล่ล่าโจรนินจา จนขออำนาจศาลอาญาตลิ่งชันออกหมายจับได้เมื่อวานนี้

วันนี้ได้แกะรอยจนพบว่า โจรนินจากบดานอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งย่านคลองหลวง โดยมาเช่าหลบหนีตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา ตำรวจจึงเข้าไปปิดล้อมเพื่อจับกุม แต่ปรากฏว่า นายโอ๊คไม่ยอมมอบตัว เก็บตัวอยู่แต่ในห้องพัก

ผ่านไป 2 ชั่วโมง ทางตำรวจจึงได้ตามช่างมาไขประตูเพื่อบุกเข้าจับกุม แต่ปรากฏเมื่อเข้าไปในห้องแล้ว กลับไม่พบเจอตัวนายโอ๊คแต่อย่างใด จึงได้ค่อยๆ ค้นและเปิดใต้เตียงขึ้นมาดู ก็พบว่า นายโอ๊คนอนหลบซ่อนอยู่ใต้เตียง โดยใช้วิธีการยกหัวเตียงขึ้นมาแล้วค่อยๆ คลานเพื่อเข้าไปหลบใต้เตียง

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายโอ๊คให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าที่ก่อเหตุดังกล่าวก็เพราะต้องการนำเงินไปเล่นพนันออนไลน์ เมื่อเงินหมดในแต่ละครั้งก็จะเริ่มก่อเหตุใหม่ โดยมีพฤติการณ์ซ้ำกันในหลายเคส มีทั้งข้อหาฉ้อโกงและลักทรัพย์แตกต่างกันไปในแต่ละท้องที่

ทั้งนี้ในส่วนของพื้นที่นครบาล นายโอ๊คมีคดีอยู่ที่ สน.ตลิ่งชัน สน.พหลโยธิน และ สน.พญาไท ส่วนที่เหลือเป็นพื้นที่ภูธรภาค 1 ซึ่งหลังจากนี้ จะส่งตัวนายโอ๊คให้พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ดำเนินคดีตามหมายจับที่จับกุม แล้วแต่ละท้องที่ก็จะมาอายัดตัวนายโอ๊คตามหมายจับเพื่อไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำหรับของกลางที่ตรวจยึดได้ในห้องพักของนายโอ๊ค พบเป็นกระเป๋าแบรนด์เนม สายสะพายกล้อง และชุดที่สวมใส่ขณะทำความผิด นอกจากนี้ยังพบแมว 2 ตัวที่นายโอ๊คซื้อมาในราคาตัวละ 6,000 บาท และอาหารแมว ซึ่งตอนนี้ได้ส่งมอบแมวทั้ง 2 ตัวให้แฟนของนายโอ๊คไปแล้ว

ด้าน พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า นายโอ๊คได้ก่อเหตุมาแล้ว 13 ท้องที่ ทั้งนครบาลและตำรวจภูธรภาค 1 ซึ่งทุกท้องที่ขณะนี้ได้ดำเนินการออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยแผนประทุษกรรมของนายโอ๊คนั้นถือเป็นภัยต่อสังคม โดยทำทีหลอกผู้เสียหายตามเพจซื้อขายสินค้าไอทีต่างๆ ว่าจะขอดูสินค้า แล้วอ้างว่าเรียกให้ไรเดอร์ไปรับสินค้า แต่ตนเองก็ปลอมตัวเป็นไรเดอร์เพื่อไปรับสินค้าแล้วเชิดสินค้าหนีไปโดยไม่ได้จ่ายเงิน เท่าที่สืบสวนเบื้องต้น นายโอ๊คอ้างว่าก่อเหตุเพียงคนเดียวและไม่มีใครให้การช่วยเหลือหรือรู้เรื่องด้วย

ขณะที่ พล.ต.ท.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้ชี้แจงว่า ที่ทางตำรวจเพิ่งมารับทราบคดีดังกล่าวก็เป็นเพราะก่อนหน้านี้คดีส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 1 และไม่ได้มีการแจ้งความในลักษณะของรวมกลุ่มผู้เสียหายกัน อีกทั้งผู้เสียหายในพื้นที่นครบาลก็ไม่ได้เข้าแจ้งความ เพราะอาจมองว่ามีมูลค่าความเสียหายน้อย

พอเป็นต่างคนต่างคดีต่างท้องที่ เลยไม่ได้มีการรวมศูนย์เพื่อตรวจสอบกันว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร ก่อนที่จะมาทราบจากการร้องเรียนของกัน จอมพลัง ว่า ผู้ก่อเหตุคือโจรนินจาที่ก่อเหตุมามากถึง 13 ครั้ง จึงได้สืบสวนจนขออำนาจศาลอาญาตลิ่งชันออกหมายจับและนำมาสู่การจับกุมได้ในวันนี้

ทั้งนี้ ตนจึงขอเตือนพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังโจรคนร้ายที่อาจจะสวมรอยเป็นไรเดอร์ไปรับสินค้า แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นโจรที่เชิดของหนีไปเอง ดังนั้นถ้าจะซื้อขายสินค้า ต้องดูว่าคนที่ซื้อมีตัวตนอยู่จริง เวลาลูกค้าจะดูของก่อนซื้อก็ต้องระมัดระวังไม่ให้คนร้ายฉวยโอกาสวิ่งราวทรัพย์ไปได้ อย่างในกรณีนี้ที่คนร้ายนั่งบนรถจักรยานยนต์ เมื่อได้ของมาก็ขี่หนีไปเลย แนะนำว่าให้ผู้ซื้อลงจากยานพาหนะหรืออยู่กับผู้ขายอย่างใกล้ชิดก่อน ถึงค่อยให้ดูสินค้าแล้วซื้อต่อไป

ต่อมา กัน จอมพลัง ติดต่อทางโทรศัพท์ไปยังแม่และครอบครัวของจอมโจรนินจา เปิดเผยว่า ยืนยันจะไม่ประกันตัวเพราะรู้ว่าลูกเป็นภัยของสังคม ไม่อยากให้ออกมาก่อเหตุแบบนี้อีก และสิ่งที่อยากถามคือพระของแม่ไปอยู่ที่ไหน เพราะก่อนหน้านี้เคยเข้ามาขโมยของที่บ้าน โดยเอาไปทั้งพระ เงินสด และเงินในบัญชี ซึ่งพ่อก็เคยไปแจ้งความแล้ว แต่สิ่งที่อยากได้คืนคือพระ จึงอยากจะถามว่านำไปขายที่ไหนจะไปไถ่คืนเอง

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนสบายใจจะไม่ประกันตัวแน่นอน ก่อนหน้านี้เคยไม่อยากให้เป็นที่เดือดร้อนของสังคมถึงขั้นล่ามโซ่ติดกับบันได แต่สุดท้ายก็หนีออกมาและไม่มีความสำนึก กลับออกไปขโมยของและก่อเหตุอีก อย่างไรก็ตาม ขอความอนุเคราะห์ว่า เรื่องนี้ครอบครัวไม่เกี่ยวข้องและไม่อยากให้สื่อไปที่บ้าน และมีการไปสัมภาษณ์บุคคลรอบๆ บ้าน เพราะจะทำให้เกิดความอับอาย จึงขอความร่วมมือ

ด้านกัน จอมพลัง เปิดเผยว่า ล่าสุดมีผู้เสียหายติดต่อมาเพิ่มอีก 2 ราย จนตอนนี้มีผู้เสียหายโดยรวมแล้วกว่า 15 ราย หรือ 15 ท้องที่ ซึ่งตนเองจะช่วยประสานให้ตำรวจขอออกหมายจับมาอายัดตัวนายโอ๊คให้

เท่าที่ตนดูพฤติการณ์ของนายโอ๊คนั้น ถือว่าเป็นโจรที่ไม่มีความเกรงกลัวใดๆ ขนาดเมื่อวานนี้ที่เป็นข่าว นายโอ๊คก็ยังคงโพสต์ซื้อขายสินค้าไอทีลงใน Facebook ซึ่งตัวนายโอ๊คเป็นที่โจษจันของกลุ่มซื้อขายสินค้าไอที เพราะนายโอ๊คจะเลือกเป้าหมาย สินค้าพวก Notebook มือถือหรือสินค้าไอทีอื่น ๆ นอกจากนี้ กัน จอมพลัง ยังยกตัวอย่างผู้เสียหายบางรายที่ถึงขนาดจับมอเตอร์ไซค์ของโจรนินจาไม่ให้ขี่หนีไป แต่นายโอ๊คก็ขี่ลากจนผู้เสียหายฟาดกับพื้นได้รับบาดเจ็บ

ขณะเดียวกัน นายโด้ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นพี่ของนายโอ๊ค และเป็นคนที่ถูกนายโอ๊คขโมยกระเป๋าไรเดอร์ไปก่อเหตุ มาพบตำรวจเพื่อให้ปากคำ โดยนายโด้ได้กล่าวว่า ตนเองรู้จักกับนายโอ๊คมาหลายปีแล้ว ตั้งแต่เรียนวิทยาลัยช่างเทคนิคด้วยกัน โดยนายโอ๊คมีนิสัยติดการพนันและชอบขโมยเงินทองของแม่ ตนเองเคยเตือนนายโอ๊คหลายครั้งว่าอย่ามีนิสัยดังกล่าว แต่นายโอ๊คไม่เคยเชื่อฟัง จนเมื่อเรียนจบต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกัน

ภายหลังนายโอ๊คได้มาขอพักอาศัยอยู่ด้วย เพราะต้องการจะทำงานและไม่มีที่ไป ด้วยความสงสารตนจึงยอมให้นายโอ๊ตไปอยู่ด้วยและหารค่าเช่ากัน ที่ผ่านมานายโอ๊คเคยถูกทำร้ายร่างกายมาแล้ว 2 ครั้ง แต่ตนก็ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร อีกทั้งยังเคยให้นายโอ๊คใช้บัญชีธนาคารร่วมกัน เพราะนายโอ๊คไม่มีบัญชีธนาคาร แต่ตนเห็นว่านายโอ๊คมักจะถอนเงินตัวเองออกจนหมด แทบไม่มีเงินเก็บเลย

กระทั่งก่อนหน้านี้ ตนเองได้ไปเป็นทหารเกณฑ์และได้ฝากให้นายโอ๊คไปอยู่กับรุ่นพี่อีกคน พร้อมรถจักรยานยนต์ของตนเอง แต่ปรากฏว่านายโอ๊คกับขโมยรถจักรยานยนต์ของตน ซึ่งมีกล่องอาหารไรเดอร์ติดอยู่ด้วย แล้วหลังจากนั้นตนก็ไม่ได้ติดต่อนายโอ๊คอีกเลยมาปีกว่า จนมาทราบข่าวว่า นายโอ๊คกลายเป็นโจรก่อเหตุเช่นนี้