กรณีเวลา 08.00 น. วันนี้ เจอที่ตำรวจรับแจ้งเหตุบุคคลถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือนายศรศักดิ์ อายุ 62 ปี นอนเสียชีวิตบนที่นอน ถูกทำร้ายร่างกาย บริเวณศรีษะ,ชายโครง แขน และนิ้วก้อยซ้ายหวิดขาด ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายไกรศร หรือปาล์ม อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของผู้เสียชีวิต หลังจากก่อเหตุได้นั่งเฝ้าศพพ่อ ก่อนที่จะเดินหลบหนีไปบ้านญาติและถูกเจ้าที่ตำรวจจับกุมตัวเอาไว้ได้

 

วันนี้ 20 มิถุนายน 2567 หลังจากเกิดเหตุ ทีมข่าวช่อง 8 เดินทางมายัง สภ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช ได้พูดคุยกับนายไกรศร หรือปาล์ม อายุ 33 ปี ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมตัวมาสอบปากคำ 

 

เมื่อนายไกรศรเจอหน้าทีมข่าวครั้งแรก ก็บอกว่าอยากกินน้ำโค้ก และยิ้มแย้ม ทีมข่าวก็ถามผู้ก่อเหตุว่า เมื่อคืนพี่ทำอะไรลงไปพี่จำเหตุการณ์ได้ไหม นายไกรศร ก็ตอบว่า “ผมไม่ได้ทำอะไรเลยครับ ตอนนี้พ่อผมก็อยู่บ้านปกติ ไม่รู้ว่าพ่อตื่นนอนหรือยัง” 

 

นายไกรศรเล่าต่อว่า เมื่อคืนตัวเองก็นอนอยู่ด้วยกันกับพ่อตามปกติ จนตอนเช้าตัวเองตื่นขึ้นมา ก็เดินไปตัดยางพาราที่บ้านแม่ ตัวเองยากบอกว่า ”ตัวเองรักพ่อที่สุดในโลกเลยครับ ตัวเองคิดถึงพ่อมากเพราะพ่อเลี้ยงตัวเองมาตั้งแต่เด็ก”

 

ทีมข่าวจึงบอกกับนายไกรศรว่า “ตอนนี้พ่อของพี่เสียชีวิตแล้วนะ” นายไกรศร ก็อึ้ง แล้วถามทีมข่าวกลับว่า “พ่อเสียแล้วหรอครับ ผมไม่ได้ทำอะไรพ่อเลยครับ เมื่อคืนนี้ ตัวเองเห็นกลุ่มชาวบ้านประมาณ 10 คน รุมทำร้ายพ่อ รุมตีพ่อด้วยไม้ ซึ่งตัวเองนั่งแอบอยู่ ไม่กล้าเข้าไปช่วยพ่อ เพราะกลัวโดนทำร้ายอีกคน เพราะมีชาวบ้านหลายแก๊งเหลือเกิน 

 

นายไกรศร ยังบอกทีมข่าวอีกว่า ตัวเองทำงานรับจ้างที่ภูเก็ตกับพี่นุ้ย เนื่องจากที่บ้านมีปัญหาเรื่องเงิน ตัวเองจึงไปทำงานหาเงินมาให้พ่อ และตัวเองอยากไปร่วมงานศพพ่อ ตัวเองคิดถึงพ่อมากๆ ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ทำร้ายพ่อ 

ทีมข่าวช่อง 8 ได้กล้องวงจรปิดหลังจากเกิดเหตุมาจำนวน 3 คลิป 

 

กล้องวงจรปิดเวลา 06.38 น. จับภาพนายไกรศร เดินออกจากบ้านหลังเกิดเหตุ หลังจากที่ คนในครอบครัวและชาวบ้านเริ่มรู้ ว่านายศรศักดิ์ ผู้เป็นพ่อ ได้ถูกในไกรศร ทำร้ายจนเสียชีวิตคาบ้าน ทำให้นายไกรศรเดินหลบหนีออกจากบ้านประมาณ 1 กิโลเมตร กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ในภายหลัง

 

ทีมข่าวช่องแปดเดินทางมายังจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว พบว่าบริเวณด้านนอกบ้านหลังดังกล่าวมีการจัดเตรียมเต็นท์ และจัดเตรีนมอาหาร เพื่อจัดงานศพผู้ตาย 

 

ส่วนจุดเกิดเหตุนั้นจุดแรก เป็นบริเวณด้านหลังบ้าน ซึ่งคาดว่าจุดนี้ผู้เสียชีวิตน่าจะถูกทำร้ายจนเสียชีวิต ก่อนที่จะถูกลูกชายลากร่างไปไว้บนที่นอน ที่เป็นจุดเกิดเหตุจุดที่สอง ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะนำผ้าห่มมาคลุมร่างของผู้เสียชีวิตให้ดูเหมือนคนนอนตายปกติ 

 

นอกจากนี้ญาติของผู้เสียชีวิตยังให้ทีมข่าวดูเสร็จของไม้ตะบองที่หักออกมาหนึ่งท่อน จาก 4 ท่อน ซึ่งอีก 3 ท่อน ตำรวจได้นำไปประกอบหลักฐานที่โรงพักแล้ว 

 

ได้พูดคุยกับนางดวงใจ อายุ 65 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต และเป็นแม่ของผู้ก่อเหตุ ให้สัมภาษณ์ว่า สำหรับลูกชายตัวเองติดยาเสพติดมาหลายปีแล้ว แล้วจะมีอาการหลอนยามาโดยตลอด ที่ผ่านมาตัวเองได้แต่จะถูกลูกชายคนนี้ทำร้ายร่างกายเป็นประจำ ทั้งถูกตบตีและถูกเตะ จนหลายครั้งที่ตัวเองต้องขนข้าวของไปนอนที่บ้านของลูกชายอีกคน 

 

โดยเมื่อคืนนี้ตัวเองเห็นว่านายไกรศร ผู้ก่อเหตุนั้น เค้ามองตัวเองตาขวางผิดปกติ เหมือนจ้องจะทำร้ายตัวเอง ตัวเองจึงขอไปนอนที่บ้านลูกอีกคน ส่วนสามีเค้ารักลูกชายคนก่อเหตุคนนี้มาก เค้าถึงตัดสินใจนอนที่บ้าน 

 

ทั้งตอนเช้าตัวเองกลับมาบ้านก็เห็นสามีนอนห่มผ้า ตั้งแต่หัวจรดเท้า แล้วเห็นว่านายไกรศร ผู้ก่อเหตุ นั่งเฝ้าข้างที่นอน ตัวเองจึงเข้าไปปลุกสามีให้ตื่น ก็ถูกไกรศร ตะโกนห้ามว่า “อย่าไปรบกวนพ่อ พ่อหลับอยู่” ซึ่งท่าทีของลูกชายเมื่อเช้านี้เค้าก็ค่อนข้างที่จะโมโห ตอนนั้นตัวเองเริ่มกลัว และคิดว่าสามีน่าจะไม่ปลอดภัยแล้ว จึงไปตามญาติญาติมาดูกระทั่งพบว่าสามีถูกทำร้ายจนเสียชีวิตจากนั้นลูกชายได้เดินออกจากบ้านไปที่บ้านญาติอีกหลังห่างกันประมาณ 1 กิโลเมตร จนกระทั่งถูกเจ้าที่ตำรวจจับกุมตัวได้ ตัวเองพูดไม่ออกว่าจะสามารถให้อภัยลูกชายคนนี้ได้หรือไม่ และอยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับลูกชายคนนี้ตามกฎหมายได้เลย ส่วนเรื่องประกันตัวตัวเองก็คงไม่ประกันตัวเขาออกมา เพราะกลัวเขาจะมาทำร้ายคนในครอบครัวอีก

 

ด้านนายพูลลาภ อาสาสมัครของมูลนิธิประชาร่วมใจ ให้สัมภาษณ์ว่า เวลาที่ผู้ก่อเหตุมีอาการหลอนยาเสพติดเค้าก็จะชอบทำร้ายร่างกายผู้เป็นพ่อเป็นประจำ ซึ่งเคยพาเค้าไปบำบัดมาแล้วเขาก็หลบหนีออกจากศูนย์บำบัดมาและกลับมาที่บ้าน

 

โดยก่อนหน้านี้ ผู้เสียชีวิตเคยถูกลูกชายทำร้ายร่างกายมาแล้วสามครั้ง และก็เคยประสานให้กู้ภัยของตัวเองไปรับตัวส่งโรงพยาบาล แต่สามเหตุการณ์ก่อนหน้านี้เค้าจะอ้างว่าเค้าขับรถประสบอุบัติเหตุบ้าง ลื่นล้มในห้องน้ำบ้าง ไม่ยอมบอกว่าถูกลูกชายทำร้าย เนื่องจากผู้เสียชีวิตรายนี้เค้าเป็นคนที่รักลูกมาก เพราะเขามีลูกชายคนเดียว เขาถึงปกป้องลูก แต่จะมีญาติญาติของผู้เสียชีวิตที่จะคอยกระซิบตัวเองมาตลอดว่า ที่จริงแล้วผู้เสียชีวิตตอนนั้นเค้าไม่ได้ประสบอุบัติเหตุจนเกิดบาดแผลหรอก แต่เขาถูกนายไกรศร ลูกชายที่เขารักทำร้าย

 

ซึ่งเมื่อเช้าวันนี้หลังจากที่ตัวเองได้รับแจ้งว่าเจอศพผู้เสียชีวิตอยู่ ตัวเองจึงไปยังที่เกิดเหตุ ก็พบว่าศพผู้เสียชีวิต นอนบนที่นอนและมีผ้าห่มคลุมทั้งตัวเอาไว้ คาดว่า คนก่อเหตุ น่าจะเป็นคนห่มผ้าให้พ่อหลังจากที่ก่อเหตุทำร้ายพ่อจนเสียชีวิตแล้ว 

 

ซึ่งในที่เกิดเหตุก็พบว่ามีไม้ตะบองหักจำนวนหลายท่อน คาดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะโดนทำร้ายบริเวณหลังบ้านแล้วถูกลากร่างมาไว้บนที่นอน 

 

ซึ่งสภาพศพผู้เสียชีวิตนั้นก็มีรอยแตกที่ศีรษะ,หู จากการโดนทุบ ซี่โครงด้านขวาหัก จากการถูกกระทืบ นิ้วก้อยซ้ายหวิดขาด (เกือบขาด) และรอยช้ำที่แขน คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6 ถึง 8 ชั่วโมง

 

ลูกเพี้ยนกระบองกระหน่ำทุบพ่อตายคาที่ แม่รอดถูกฆ่าหนีนอนบ้านญาติ