จากกรณีคู่อริต่างสถาบัน ย่านหัวหมาก และ ย่านบางจาก ยกพวกทะเลาะวิวาทก่อนเปิดศึกยิงกัน ภายในซอยวชิรธรรมสาธิต 14 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กทม. เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. เป็นเหตุให้ นายพีรพงษ์ อายุ 19 ปี หรือ บอล ปวช. ปี 2 วิทยาลัยช่างกล ย่านบางจาก ถูกยิงกระสุนเข้าที่หน้าอก 1 นัด บาดเจ็บสาหัส ก่อนไปเสียชีวิตที่ รพ.ร่วมใจรักษ์ และมีผู้บาดเจ็บ 1 รายคือ นายพีรพัฒน์ อายุ 15 ปี ปวช. ปี 1 สถาบันเดียวกัน ถูกยิงเข้าที่ขา ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ต่อมาตำรวจจับได้ 3 ราย จากผู้ก่อเหตุทั้งหมด 14 ราย นั้น






ล่าสุด (15 มิ.ย. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ได้ภาพกล้องวงจรปิดตัวใหม่เพิ่มเติม บริเวณซอยวชิรธรรมสาธิต 14 ในเวลา 15.26 น. จะเห็นว่าเด็กช่างกล ซึ่งเป็นกลุ่มของผู้เสียชีวิต มีปากเสียงกับ กลุ่มของช่างอุตฯ ผู้ก่อเหตุ จากนั้น ภาพจะเห็นกลุ่มช่างอุตฯ วิ่งเข้ามา ตะโกนด่าทอ ก่อนจะมีเสียงปืนดังขึ้น 4 นัด หลังเสียงปืน เวลา 15.27 น. จะเห็นภาพของกลุ่มเด็กช่างกล คนหนึ่งล้มลง นั่นคือ นายพีรพงษ์ หรือบอล ที่เป็นผู้เสียชีวิต ก่อนที่เพื่อน ๆ จะเข้าไปช่วยเหลือ และตะโกนเรียกบอลโดนยิง จากนั้นกลุ่มเด็กช่างอุตฯ จะวิ่งกลับไปขี่รถจักรยานยนต์ และหลบหนีไปจากพื้นที่




ขณะที่ห้องปฏิบัติการสืบสวน สน.บางนา ตำรวจคุมตัวผู้ก่อเหตุเข้ามาเพิ่มเติม ซึ่งมีทั้งผู้ชายและผู้หญิงจำนวนหลายราย เพื่อสอบปากคำ ก่อนที่ชุดสืบสวนจะนำเยาวชนบางส่วนขึ้นรถออกไปเพื่อไปค้นหาของกลางที่ใช้ก่อเหตุ หลังจากที่ 4 คนในกลุ่มเยาวชนช่างกลอุตฯ ที่ถูกนำตัวมาสอบสวนจะยอมเปิดปากยอมรับอ้างว่าทั้ง 4 คน ใช้ปืนจำนวน 4 กระบอก ยิงใส่คู่อริต่างสถาบัน


จากนั้น พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญขาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการส่บสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมประชุมกับชุดสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดี เพื่อตรวจดูพยานหลักฐาน และพิจารณาขอศาลออกหมายจับ และวางแนวทางการป้องกันเหตุคงจะนำเคสนี้ไปสู่แนวทางการปฏิบัติต่อไป




ขณะที่ พล.ต.ต.นพศิลป์ บอกถึงความคืบหน้าทางคดี ว่า จากการรวบรวมพยานหลักฐานสามารถพิสูจน์ตัวบุคคลผู้ที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุได้แล้ว 14 ราย เป็นผู้ใหญ่ 5 ราย เป็นเด็กเยาวชน 9 ราย และวันนี้มีเยาวชนเข้ามาพบพนักงานสอบสวน 2 ราย ซึ่งคนที่มาพบพนักงานสอบสวนแล้ว ก็ยอมรับว่าเป็นบุคคลตามภาพวงจรปิดจริง ชุดสืบสวนจึงได้พาตัวไปนำตรวจยึดอาวุธปืนบริเวณบ้านพัก ย่านวัดบางนาใน ได้ 1 กระบอก ขนาด .38 ส่วนอีก 1 ราย ที่เข้ามาพบตำรวจให้การ ยอมรับว่า เป็นคนร่วมยิงในขณะเกิดเหตุ ซึ่งใน 2 รายนี้ พนักงานสอบสวนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาในวันนี้ ขณะนี้ผู้เกี่ยวข้องที่เหลือ วันนี้พนักงานสอบสวนจะขอศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง และศาลพระโขนงออกหมายจับต่อไป


สำหรับมือปืนที่ใช้อาวุธในการร่วมก่อเหตุ พบว่า มีทั้งหมด 4 ราย ซึ่งขณะนี้ ยังรอผลจากการชันสูตรร่างของผู้เสียชีวิต และการตรวจสอบของพิสูจน์หลักฐานก่อนว่า หัวกระสุนที่ถูกผู้เสียชีวิตเป็น ปืนกระบอกไหน ทั้งนี้ ลักษณะการใช้ปืนยิงของผู้ก่อเหตุ บางคน ยิง 1 นัด และบางคนก็ยิง 2 นัด ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมด โดยใน 4 คนที่มีอาวุธปืน มีทั้งที่เป็นผู้ใหญ่ คือนายบูม อายุ 20 ปี และนายโชกุน อายุ 18 ปี ส่วนอีก 2 คนเป็นเยาวชน คือนายที อายุ 16 ปี และนายต้า อายุ 17 ปี ทั้งหมดยังเรียนหนังสืออยู่ในสถาบันช่างอุตฯ




พล.ต.ต.นพศิลป์ เชื่อว่า พฤติการณ์ในการก่อเหตุ กลุ่มผู้ก่อเหตุได้นัดแนะกันวางแผน สมคบกัน และมีอาวุธปืนไปก่อเหตุกับกลุ่มผู้ตาย โดยเชื่อว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุ รู้สถานที่ รู้ว่ากลุ่มผู้เสียหายรวมตัวกันอยู่จุดใดจากนั้นจึงยกพวกกันมา และจากการสืบสวนพบว่า เป็นสายอุดมสุขและสายอ่อนนุช เมื่อนัดรวมตัวกัน แล้วขี่รถมา ตามภาพทั้ง 14 คนในกล้องวงจรปิด ซึ่งการรวมตัวของกลุ่มเด็กเหล่านี้ จะมีหัวโจกใหญ่ เป็นรุ่นพี่ ปี 2 และปี 3 ที่จะมีหน้าที่คอยปกป้องดูแลรุ่นน้อง โดยจะมีการรวมตัวตอนเช้า ไปเรียนหนังสือและตอนเย็นก็จะรวมตัวมาเอารถจักรยานยนต์ที่จอดไว้ และการก่อเหตุ สืบเนื่องจาก เป็นคู่อริ แล้วให้ความรู้สึกที่อุปโลกกันขึ้นมา เป็นโลกเสมือนจริง อยากมีตัวตนเพื่อสร้างกลุ่งแก๊ง สร้างการยอมรับของกลุ่มวัยรุ่น และมีการก่อเหตุมาหลายครั้ง ซึ่งที่ผ่านมา บช.น. ก็เร่งระดมป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้น เพื่อป้องปรามอาชญากรรมมาโดยตลอด


ต่อมา หลังจากเจ้าหน้าที่คุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุไปค้นหาหลักฐานในการก่อเหตุคืออาวุธปืน ที่อ้างว่านำไปทิ้งไว้ในเขตพื้นที่ต่างจังหวัด และในพื้นที่กรุงเทพ เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุกลับมาที่ห้องสืบสวนของ สน.บางนา อีกครั้ง เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม โดยหลังจากไปตรวจค้นเจ้าหน้าที่สามารถยืดรถจักรยานยนต์มาได้ 1 คัน ส่วนอาวุธปืนยังไม่มีรายงานว่าพบหรือไม่


โดยทันทีที่เจ้าหน้าที่คุมตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาถึงโรงพัก ทั้งหมดได้รีบวิ่งลงจากรถและเข้าไปในห้องสืบสวนทันที ต่อมาได้มีเจ้าหน้าที่ กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าไปทำการตรวจ คราบเขม่าดินปืนของกลุ่มผู้ก่อเหตุเพื่อนำมาประกอบในสำนวนคดีและเตรียมออกหมายจับและแจ้งข้อกล่าวหา




ขณะที่เมื่อเวลา 14.30 น. นางอ้อยทิพย์ แม่ของนายพีรพงษ์ หรือ บอล อายุ 19 ปี (ผู้เสียชีวิต) ได้นิมนต์พระสงฆ์จำนวน 1 รูป พร้อมกับพาเพื่อนของผู้เสียชีวิตที่อยู่ในเหตุการณ์มาชี้จุดที่นายบอลเสียชีวิต เพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ


โดยเมื่อนางอ้อยทิพย์มาถึง ได้นำถาดมาวางเพื่อตั้งสำรับอาหารคาวหวาน ประกอบด้วยข้าวเปล่า ต้มแซ่บกระดูกหมู ขนมเอแคร์ น้ำเปล่า และน้ำอัดลม จากนั้นทุกคนได้จุดธูปคนละ 1 ดอก ปักไปที่ถาดอาหาร ก่อนที่พระสงฆ์จะได้ทำการสวดเพื่อเชิญดวงวิญญาณกลับไปที่วัดที่ประกอบพิธีทางศาสนา และพระสงฆ์ได้พรมน้ำมนต์บริเวณโดยรอบจุดที่เกิดเหตุ พร้อมกับเรียกชื่อผู้เสียชีวิต กลับวัดเป็นอันเสร็จสิ้นพิธี


จากนั้นนางอ้อยทิพย์ ได้ให้เปิดเผยกับทีมข่าว หลังจากทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว ระบุว่า รู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่จับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุได้แล้ว อยากจะให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการลงโทษตามกฎหมายให้ถึงที่สุด และยืนยันว่าแม่จะไม่ยอมความเด็ดขาด




ส่วนสภาพจิตใจตอนนี้ ยังคงรู้สึกเสียใจจนไม่สามารถบรรยายออกมาได้ แต่ตนพยายามเข้มแข็งและไม่ร้องไห้ เพื่อไม่อยากให้ลูกเป็นห่วง และแม่ให้ลูกไปสบาย ตนมองว่าพฤติกรรมที่กลุ่มผู้ก่อเหตุทำ มันอุกอาจและโหดร้ายเกินไป ถ้าคนเราไม่ถูกกัน ต่อยตีกันซะยังดีกว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้อาวุธมาทำร้ายกันแบบนี้ และตนเชื่อว่าหากเจ้าหน้าที่ยังจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ได้ จะมีการแก้แค้นกันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นดีแล้วที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุมาได้ เพื่อที่จะได้รับโทษตามกฎหมาย


โดยในวันนี้ตนได้เรียกลูกเพื่อให้กลับวัดไปฟังพระสวดและเรียกกลับบ้าน ซึ่งตนอยากจะบอกลูกเป็นครั้งสุดท้ายว่า ที่ผ่านมาลูกอาจจะเข้าใจว่าแม่ไม่รัก แต่ตนอยากจะบอกว่ารักลูกทุกคน และเมื่อเหตุการณ์แบบนี้ตนก็คงจะลืมไม่ได้ ลูกทั้งคนเลี้ยงมากว่าจะโต ลูกยังมีอนาคตอีกไกล และตนหลังพึ่งพาลูก แต่ในเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร


เรื่องทางคดีตนกังวลว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุจะได้รับโทษไม่เท่ากับสิ่งที่กระทำไว้ ด้วยกรอบคำว่าเยาวชน และกังวลว่าจะมีการจับแพะ เพราะตนไม่รู้ว่าคนที่ยิงจริง ๆ อายุเท่าไร กลัวว่าจะเอาเยาวชนมารับโทษแทน เพราะสิทธิ์คุ้มครองเยาวชนมันเยอะ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตามตัวผู้ที่ลงมือก่อเหตุจริง ๆ มาลงโทษไม่อยากให้จับแพะ และจนวันนี้ทางครอบครัวของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ยังไม่มีใครเคยติดต่อมาพูดคุย หรือแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย

 

จับแล้ว 4 มือยิงเด็กช่างกล พร้อมของกลาง