กรณี เมื่อเวลา 9.30 น. วันที่ 12 มิ.ย. 67 หนุ่มไรเดอร์หัวร้อน ทำร้ายผู้โดยสารสาว หลังไม่ยอมจ่ายเงินตามที่ขอ โดยรับผู้โดยสารมาจากห้วยขวาง ประชาราษฎร์บำเพ็ญ 20 ไปยัง ซ.อ่อนนุช 41 ระยะทาง 15 กิโลเมตรนั้น
ล่าสุด วันนี้ (13 มิ.ย.) ทีมข่าวช่องแปด ลงพื้นที่ไปยัง ย่านห้วยขวาง บ้านพักของนายอานนท์ อายุ 28 ปี หรือ (นายนนท์) หนุ่มไรเดอร์หัวร้อน ทำร้ายผู้โดยสารสาวเจ็บ เมื่อได้เจอกับทีมข่าวก็ยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหายผ่านสื่อ
ทั้งนี้ ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายแบล็ค อายุ 28 ปี ไรเดอร์เหมือนกัน กล่าวว่า เมื่อสักครู่นี้เพื่อนของตนที่เป็นไรเดอร์เหมือนกันได้มีการเข้าไปพูดคุยกับฝ่ายผู้ก่อเหตุ เพื่อที่ต้องการจะปรับทัศนคติ เพราะหลังจากที่มีข่าวของผู้ก่อเหตุออกไปทำให้ไรเดอร์กลุ่มต่างๆ เสื่อมเสียชื่อเสียงไปด้วย และอาจจะส่งผลกระทบต่อการรับงานในอนาคต ภายหลังที่มีข่าวออกไปก็มีผู้โดยสารเรียกใช้บริการน้อยลง
ส่วน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เสียหายตนเองพอจะรู้จักอยู่บ้าง และตนคิดว่าผู้เสียหายเองก็เพิ่งจะใช้แอปพลิเคชั่นนี้เป็นครั้งแรก ตนเชื่อว่าน่าจะมีส่วนลดโปรโมชั่นแน่นอน ส่วนประเด็นเรื่องราคาที่ขึ้นในมือถือของผู้เสียหายและมือถือของคนขับไม่ตรงกัน ตนมองว่าน่าจะเป็นไปไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่ราคาจะตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย และไรเดอร์ผู้ก่อเหตุเอามือถือของผู้เสียหายไปกดยกเลิกเองก็เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม รวมถึงเรื่องการใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกายผู้หญิงด้วย
หลังจากนั้น ทีมข่าวขอให้นายแบล็คช่วยเปิดแอปพลิเคชั่นไรเดอร์ดังกล่าวให้ดูพร้อมกับแสดงให้เห็นว่าราคาของฝั่งผู้โดยสารและของฝั่งคนขับตรงกัน ส่วนเรื่องค่าส่วนต่าง 5 บาท 10 บาททางแอพพลิเคชั่นจะเป็นคนจ่ายให้กับทางไรเดอร์เอง
โดยนายนนท์ เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเมื่อวานนี้ช่วงเวลา 9 โมงเช้า ผู้บาดเจ็บ เรียกให้ตัวเองไปรับที่ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 18 แต่ความจริงแล้ว ปักหมุดผิด ต้องไปรับที่ซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 20 เพื่อไปส่งที่ซอยอ่อนนุช 41 ซึ่งในมือถือของตัวเองขึ้นว่า ค่าโดยสารทั้งหมด คือ 131 บาท ซึ่งพอใกล้ถึงจุดหมาย ตนมาเช็กในโทรศัพท์ของตัวเองอีกครั้งก็เห็นว่ายอดเงินลดลงตนจึงขอโทรศัพท์ของผู้โดยสารมากดยกเลิก
ต่อมา เมื่อมาถึงจุดหมาย ที่ ซ.อ่อนนุช 41 ผู้บาดเจ็บจะจ่ายเงินให้ตัวให้เองเพียงแค่ ใบยี่สิบสามใบ กับเหรียญ (70 บาท) ไม่มั่นใจว่าเท่าไหร่ เพราะได้ปฏิเสธไม่รับเงินผู้บาดเจ็บไป จนกว่าจะครบจำนวน “ตนจึงบอกว่าจ่ายแค่นี้ไม่ได้ เพราะในระบบมันแจ้ง 131 บาท ซึ่งผู้บาดเจ็บก็แย้งว่า มันจะเป็นคนละราคาได้ยังไง”
แล้วก็ไม่ยอมจ่ายในราคา 131 บาท พร้อมยื่นโทรศัพท์มาให้ดู แต่ตนเองไม่ได้ดู พร้อมผู้บาดเจ็บได้บอกว่าตนเองได้ส่วนลด ในราคาเพียง 60 กว่าบาท
หลังจากนั้นผู้บาดเจ็บ พยายามที่จะโทรหาแอปสังกัดว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมราคาถึงไม่ตรงกัน ซึ่งตอนนั้นตกลงกันไม่ได้ และขณะเดียวกันมีลูกค้าเรียกแอปรอใช้บริการรายต่อไป ที่ อ่อนนุช 54 เด้งเข้ามาในระบบ ตนจึงเสนอผู้บาดเจ็บให้ไปคุยกันที่ สน.พระโขนง แต่ผู้บาดเจ็บไม่ยอมไป พยายาม โทรหาแอปเหมือนเดิม ตนรออยู่นานเกือบ 10 นาที และบอกไปว่าให้รีบๆ ตนมีงานต่อ ให้จ่ายเงินให้เต็มจำนวน 131 บาท แล้วจะได้แยกย้ายกันไป เพราะผู้โดยสารที่ซอยอ่อนนุช 54 เริ่มต่อว่าแล้ว ว่าทำไมถึงมาช้า แต่ผู้บาดเจ็บก็ไม่ฟัง
ขณะนั้น ตนเองเครียดมาก เงินก็ไม่ได้เต็มจำนวน เสียลูกค้าที่อ่อนนุช 54 ทำให้ตัวเองโมโหมาก คุมตัวเองไม่ได้ จึงไปทำร้ายร่างกาย เข้าไปต่อยที่หน้าผู้บาดเจ็บถึง 2 ครั้ง เตะไปอีก 3 ครั้ง แล้วตัวเองก็ขับรถหนีออกไปเพื่อกลับบ้าน
หลังจากนั้นประมาณบ่ายโมง มีเบอร์แปลกโทรเข้ามา เป็น ตำรวจสน.พระโขนง แจ้งให้ตนเดินทางเข้าไปหา เพื่อทำบันทึกประจำวัน และรับทราบข้อกล่าวหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยเจตนา หลังจากนั้นตำรวจได้ปล่อยตัวออกมา และรอให้ฝ่ายผู้บาดเจ็บเข้ามาพูดคุยไกล่เกลี่ยในนัดครั้งต่อไป
เมื่อนักข่าวถามปกติเป็นคนใจร้อนหรือไม่ นายนนท์กล่าวว่า ปกติเป็นคนอารมณ์ร้อน และโผงผาง ยอมรับว่า รู้ตัวดีว่าทำให้เพื่อนๆพี่ๆในวงการไรเดอร์โมโห และทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์
ส่วนทางด้านผู้บาดเจ็บ ตนรู้สึกผิดและอยากจะขอโทษพร้อมยกมือไหว้ขอโทษผ่านสื่อ ซึ่งสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก ครั้งนี้คือบทเรียนสำคัญ
ล่าสุด วันนี้ (13 มิ.ย.) ทีมข่าวช่องแปด ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับ น.ส.สุนิษา หรือ ปิคนิค อายุ 36 ปี ผู้เสียหาย ที่ จุดผู้โดยสารเรียกใช้บริการ เพื่อขึ้นรถไปทำงาน ก่อนจะโดนทำร้าย
น.ส.สุนิษา หรือ (ปิคนิค) ผู้เสียหายเล่าให้ทีมข่าวฟังว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ช่วงเวลาประมาณ 09:30 น. ตอนนั้นตนเพิ่งจะใช้บริการแอปเป็นครั้งเเรก ยืนยันว่า ไม่ได้กดใช้ส่วนลด ตนได้เรียกไรเดอร์มารับจากห้วยขวาง ไปส่งที่อ่อนนุช 41 ใน ราคา 66 บาท เพื่อมาอบรมกับทางบริษัทฯ
ซึ่งขณะที่ไรเดอร์มารับตน ตนได้ปักหมุดระหว่างซอย ประชาราษฎร์บำเพ็ญ 18 และ 20 เป็นจุดที่รถผู้โดยสารมักมาขึ้นรถกันตามปกติ บริเวณหน้าที่พัก
หลังจากนั้น ในระหว่างทางไรเดอร์ มีพฤติกรรมขับรถหวาดเสียว ฝ่าทุกไฟแดง ก่อนจะหัวเราะนิดหน่อย และถามตนว่า “เป็นยังไงบ้าง ผมขับรถเวียนหัวไหม ” เราก็ปฏิเสธว่าไม่เป็นไร ซึ่งขณะนั้นขับเร็วมาก และก่อนถึงปลายทางอ่อนนุช 41 ประมาณ 300 เมตร คนขับได้ขอโทรศัพท์ตนไป เพื่อไปกดยกเลิกแอป ให้เหตุผลว่า “ลืมกดยืนยันรับลูกค้า”
เมื่อถึงที่หมาย บริเวณภายในซอยอ่อนนุช 41 ตนได้ยื่นเงินให้ 70 บาท โดยไม่ต้องทอน แต่ทางคนขับบอกว่าไม่รับ ไม่ใช่ราคานี้ ต้องเป็น 131 บาท ตนจึงยื่นแอป ให้ดูว่าหน้าแอปของตนยังค้างหลังจากยกเลิกไป เป็นราคา 66 บาท และตนได้กดแอปใหม่ไปพิกัดเดิม เพื่อยืนยันราคา โดยตนยังใช้บริการแอปเป็นครั้งแรก แต่ไรเดอร์ไม่ยอม เเละไม่ยื่นหน้าแอปให้ตนดู จะให้ตนจ่ายตามที่เขาเรียกเก็บเท่านั้น ตนจึงขอถ่ายรูปไรเดอร์ เพื่อร้องเรียนกับแอป และโทรสอบถาม แต่ไรเดอร์ก็อ้างว่าโทรไม่ติดเพราะเป็นแอปเถื่อน ไม่มีคนรับสาย ตนจึงบอกว่ารอก่อน พยายามยืนค้นหาเบอร์ วินาทีนั้น ไรเดอร์จึงแสดงท่าทีโมโห อ้างว่า “กูรีบ” เพราะมีลูกค้ารออยู่ และบอกตนว่าจะพาตนไปเคลียร์ที่ สน.พระโขนง แต่ตอนนั้นตนรู้สึกกลัว จึงไม่กล้าไปกับเขา ก่อนจะมีปากเสียงกันพักใหญ่
จากนั้นไรเดอร์ก็ลงจากรถ จยย.มาทำร้ายร่างกายตน ทั้งรัวหมัดต่อย ซ้ายขวา แบบไม่ยั้ง เตะ และเห็นตนไม่ล้ม จึงเตะท้องซ้ำอีกครั้ง จนตนลงไปนอนกองกับพื้น และจำเหตุการณ์หลังจากนั้นไม่ค่อยได้ เพราะถูกต่อยที่บริเวณศีรษะ หลังจากนั้นเพื่อนในบริษัทตนก็เข้ามาช่วยเหลือ ส่วน รปภ. ไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือ เนื่องจาดคิดว่าเป็นปัญหาการทะเลาะกันระหว่างผัวเมีย
ส่วนไรเดอร์หลังเกิดเหตุก็ขับรถหนีไป ส่วนตนก็เข้ารับการรักษา ที่รพ.วิภาราม โดยตนมีอาการเจ็บระบมไปทั่วทั้งตัว ขาเดินค่อนข้างลำบาก รอยแผลบริเวณนิ้วก้อยจากการหกล้ม รวมถึงบริเวณกล้องด้านหลังโทรศัพท์ iPhone มีรอยแตกเนื่องจากตนถูกทำร้ายร่างกาย ก่อนตนจะได้แจ้งความที่สน.พระโขนงแล้ว โดยวันเสาร์นี้ จะไปรับผลตรวจร่างกายอย่างละเอียดและนำไปยื่นให้กับ สน.พระโขนงเพื่อดำเนินคดีต่อไป
สุดท้ายนี้ตนอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการอย่างรัดกุม เพราะคู่กรณี ไม่ได้กระทำเป็นครั้งแรก น่าจะทำเช่นนี้ จนชิน ดูท่าทางไม่สลดกับการกระทำ แต่ตนยันให้อภัยได้ แต่จะดำเนินการถึงที่สุด เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ในด้านการบริการ ไม่อยากให้ใครต้องมาโดนแบบตน