ตะลึง! จับสาวบัญชีร้านทอง ทยอยลักแหวน ค้นบ้านพบซุกในตู้เซฟอื้อ รวม 48 วง มูลค่าเฉียดล้าน

เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2567 พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6 พ.ต.อ.ภาวัต วรรธสุภัทร ผกก.สน.พระราชวัง พ.ต.ท.ไพศาล เดชกัลยา รอง ผกก.สส.สน.พระราชวัง พ.ต.ต.พลาวัสถ์ คนกล้า สว.สส.สน.พระราชวัง พร้อมกำลังลังเจ้าหน้าที่ สส.สน.พระราชวัง ได้ร่วมกันจับกุมตัว นางสาวณัฐธิดา หรือ อิ๋ว อายุ 38 ปี พร้อมด้วยของกลางในคดี คือ แหวนทองคำรูปพรรณ ลายหัวมังกร โลโก้ตรางู มีอักษรจีน จำนวน 1 วง น้ำหนัก 2 สลึง มูลค่า 22,000 บาท

พร้อมทั้งขยายผลเพิ่ม พบแหวนทองรูปพรรณต่างๆ ที่ได้เคยลักไปจากร้านทองจำนวน 48 วง มีมูลค่ารวม 950,000 บาท ซึ่งอยู่ในถาด บรรจุอยู่ภายในตู้เซฟนิรภัย ห้องนอนชั้น 2 ของบ้านผู้ถูกจับ ภายในร้านทองดังกล่าว ถนนพาหุรัด แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร โดยจับกุมเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. เวลาประมาณ 16.20 น. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. เวลาประมาณ 16.20 น. ชุดสืบสวนสน.พระราชวัง ได้รับแจ้งจากผู้เสียหายว่า มีเหตุลักทรัพย์แหวนทองคำรูปพรรณ ลายหัวมังกร โลโก้ตรางู มีอักษรจีนแปลเป็นไทยจำนวน 1 วง น้ำหนัก 2 สลึง มูลค่า 22,000 บาท ภายในร้านทอง และได้ควบคุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์ดังกล่าวได้ คือ น.ส.ณัฐธิดา หรือ อิ๋ว พนักงานแผนกเสมียนประจำร้าน

จากนั้น ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.พระราชวัง จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้ง เมื่อไปถึง พบเจ้าของร้านและเป็นผู้แจ้ง ได้แจ้งแสดงบุคคลที่ก่อเหตุลักทรัพย์ พร้อมของกลางแหวนทองคำรูปพรรณ ลายดังกล่าว 1 วง น้ำหนัก 2 สลึง จากการตรวจสอบได้ขโมยแหวนทั้งหมด 47 วง โดยมี ขนาดน้ำหนัก 1 บาท จำนวน 5 วง , ขนาดน้ำหนัก 2 สลึง จำนวน 29 วง และขนาดน้ำหนัก 1 สลึง จำนวน 13 วง รวมน้ำหนักได้ 22 บาท 3 สลึง มูลค่า 930,000 บาท

ชุดสืบสวน สน.พระราชวัง จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและเข้าตรวจ สอบถามนางสาวณัฐธิดา หรืออิ๋ว อีกครั้ง ซึ่งนางสาวณัฐธิดา หรืออิ๋ว ได้ยอมรับสารภาพโดยสมัครใจว่า ได้ลักทรัพย์ คือ แหวนทองคำรูปพรรณจำนวน 1 วง น้ำหนัก 2 สลึง มูลค่า 22,000 บาท ซึ่งเป็นของนายอภิรักษ์ ผู้เป็นนายจ้างจริง โดยได้อาศัยช่วงจังหวะร้านปิด พนักงานจะต้องช่วยกันย้ายถาดใส่แหวนทองรูปพรรณเข้ามาเก็บภายในตู้เซฟ ซึ่งตนจะเป็นคนแรกที่อยู่ใกล้ช่องส่งถาดทอง และเมื่อตนได้รับถาดใส่แหวนทองรูปพรรณถาดสุดท้าย แล้วตนจะใช้นิ้วเกี่ยวแหวนทองเอามากำไว้ภายในมือ แล้วกลับมานั่งที่โต๊ะทำงาน ก่อนจะเอาแหวนทองรูปพรรณมาใส่ไว้ในกางเกง แต่ถูกจับได้เสียก่อน

ตนได้ก่อเหตุลักทรัพย์เป็นแหวนทองรูปพรรณ ขนาดน้ำหนักต่างๆ ของร้านทองซึ่งตนทำงานอยู่เป็นพนักงานเสมียนประจำร้าน มาแล้วหลายครั้งแล้ว โดยครั้งแรกได้ก่อเหตุต้นเดือน เม.ย. 2567 ซึ่งในแต่ละครั้ง ตนจะกระทำในลักษณะดังกล่าว และซุกซ่อนแหวนออกจากร้านตามปกติ ซึ่งตนในฐานะที่เป็นพนักงานเสมียนประจำร้านจะไม่ถูกตรวจค้นตัวก่อนออกนอกร้าน เพราะตนมีหน้าที่ในการทำบัญชีของร้านเท่านั้น ไม่ได้ทำหน้าที่ในการขายทอง

จากนั้นจะนำแหวนทองรูปพรรณที่ตนได้ลักทรัพย์มาทั้งหมดเก็บไว้ภายในตู้เซฟภายในบ้านของตนเองย่านรามอินทรา เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้าง” ก่อนนำตัวส่ง สน.พระราชวัง ดำเนินคดีตามกฎหมาย