กรณีเมื่อคืนที่ผ่านมา วันที่ 26 พ.ค. 67 ตำรวจสภ.เมืองนนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีถูกแทงผู้เสียชีวิต 1 ราย ภายในคอนโดแห่งหนึ่ง หลังกระทรวงสาธารณสุข ต.บางเขน อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ที่เกิดเหตุเป็นคอนโดสูง 8 ชั้น ภายในห้อง ชั้น 6 บริเวณห้องครัว พบศพชายเสียชีวิต 1 ราย อายุประมาณ 54 ปี สภาพศพนอนหงายเสียชีวิต ถูกปิดทับด้วยหมอน ผ้าห่ม จำนวนมาก สวมเสื้อยืด ใส่กางเกงขาสั้น พบบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคมบริเวณคอ และตามร่างกายหลายแห่ง ประมาณ 10 กว่าแผล นอนจมกองเลือดอยู่ ตรวจสอบภายในห้องคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 4-5 วัน และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทราบชื่อคนตายในเวลาต่อมาคือ นายไพศาลหรือโต๊ส และจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม พบว่าคนตายเข้าไปภายในคอนโดครั้งสุดท้ายวันที่ 20 พ.ค. เวลาประมาณ 22.26น. โดยเป็นภาพวงจรปิดสุดท้ายที่จะจับภาพคนตายเอาไว้ได้ก่อนที่จะพบเป็นศพ และกล้องวงจรปิดยังพบว่าในวันที่คนตายเข้ามาภายในคอนโด มีชายคนหนึ่ง สวมใส่เสื้อฮู้ดคลุมหัวใส่แว่นตา เข้ามาภายในคอนโดพร้อมกับคนตาย และหลังจากนั้นภาพจากกล้องวงจรปิดในคอนโด จับภาพว่าวันที่ 21 พ.ค. เวลาประมาณ 04.05น. ชายต้องสงสัยคนดังกล่าวมีการเดินออกจากลิฟต์คอนโดและเดินไปโบกแท็กซี่ ออกไป เจ้าหน้าที่จึงกำลังล่าติดตามตัวชายต้องสงสัยคนดังกล่าว ที่คาดว่าอาจเป็นคนก่อเหตุ เพราะเนื่องจากเป็นคนสุดท้ายที่อยู่กับคนตาย จนกระทั่งมีการสืบสวนเพิ่มเติม ทราบรูปพรรณสัณฐานของคนก่อเหตุเบื้องต้นสูงประมาณ 170 เซนติเมตร ผมหยิก ผิวขาวตี๋ อายุประมาณ 33 ปี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

และเมื่อเวลา 17:30 น. ที่ผ่านมา ภายหลังกลุ่มชาวบ้านซึ่งอาสารับเงินจำนวน 30,000 บาทจากญาติและนิติบุคคล ของคอนโดที่เกิด ในการเข้ามาเคลียร์ทรัพย์สินและรวมถึงสิ่งของที่เปื้อนน้ำหนอง และน้ำเหลือง และเลือดของคนตาย ออกจากห้องที่เกิดเหตุ เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการประสานเจ้าหน้าที่ ทำความสะอาดและแม่บ้านของคอนโด ไม่มีใครรับดำเนินการเพราะเนื่องจากไม่มีใครกล้าทำ จึงได้มีการว่าจ้างชาวบ้านที่ สนใจเข้ามาร่วมในการทำความสะอาดห้องที่เกิด

 

ซึ่งการทำความสะอาด มีการเก็บข้าวของและ สิ่งที่เปื้อนเลือดและน้ำหนองออกตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยเลือกที่จะนำสิ่งที่เปื้อนมากที่สุดและส่งกลิ่นมากที่สุดออกไปก่อน

 

ส่วนช่วงสายในวันนี้ ได้มีการเข้าทำความสะอาดอีกครั้งโดยมีการรื้อเฟอร์นิเจอร์ เตียงนอน แผ่นปาเก้ปูพื้น รวมถึงซิงค์ล้างจานล้าง โดยมีการรื้อออกทั้งหมด เพราะมีการเก็บกลิ่นเอาไว้ หากไม่เอาออกก็จะทำให้กลิ่นไม่หายเหม็น จึงได้มีการเก็บทำความสะอาดครั้งสุดท้ายและมีการยกลงมาด้านล่างของคอนโด ก่อนที่จะประสานรถบรรทุก เข้ามารับจ้างขนออกไปทิ้ง

 

หลังจากมีการทำความสะอาดเสร็จสิ้นแล้ว ทีมข่าวได้ขึ้นไปพร้อมกับชาวบ้านที่รับอาสา ในการเข้ามาทำความสะอาดและเก็บห้องที่เกิดเหตุ โดยพาไปดูหลังทำความสะอาด ซึ่งพบว่ายังคงมีกลิ่นสาบเล็กน้อย ยังหายไปไม่หมด แต่กลิ่นก็ดีขึ้นกว่าเมื่อวานนี้ เพราะเมื่อวานนี้กลิ่นพระคลุ้งทั่วบริเวณคอนโด ส่วนภายในห้องจะสังเกตว่าเฟอร์นิเจอร์ที่บิวท์อินรวมถึงพื้นไม้ได้มีการรื้อออกทั้งหมดแล้ว

 

ด้านนางสาวต้นตาล (นามสมมติ) ชาวบ้านที่อาสาเข้ามารับงานจากนิติคอนโดและญาติของคนตาย ในการทำความสะอาดห้องที่เกิด เปิดใจว่า กลุ่มของตนเองได้รับการติดต่อจากทางนิติบุคคลตั้งแต่คืนที่พบศพ หลังมีการย้ายศพออกจากที่เกิดเหตุแล้วทางนิติได้มีการประสานขอให้เข้ามาทำความสะอาดเพื่อดับกลิ่น แต่กลุ่มของตนเองยังรับงานไม่ได้เพราะเนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังตรวจสถานที่เกิดเหตุยังไม่แล้วเสร็จ จึงมีการปฏิเสธในช่วงวันแรก

 

และเมื่อคืนนี้หลังจากที่ทราบว่าชุดสืบชุดสุดท้ายเข้ามาทำการตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุ หลังจากที่มีการตรวจรอบสุดท้ายเสร็จ กลุ่มของตนเองจำนวน 7 คน ยอมรับงานเพื่อที่จะล้างทำความสะอาดทำความสะอาดให้ โดยรับค่าจ้างอยู่ที่ 30,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนหนึ่งได้รับจากญาติของคนตาย และอีกจำนวนหนึ่งได้รับจากนิติบุคคลคอนโด ซึ่งญาติจ่ายเกินกว่า 70% และหลังจากที่ตัดสินใจตกลงรับงานกันก็เลยมีการทำความสะอาดตั้งแต่เมื่อคืนนี้ โดยเอากลิ่นเหม็นและสิ่งของที่เปื้อนน้ำเหลืองออกก่อนทั้งหมด ก่อนที่จะเข้ามารื้อพื้นและเฟอร์นิเจอร์เพิ่มเติมในเช้าวันนี้

 

สำหรับแนวทางเรื่องของการจัดการและทำความสะอาดทำความสะอาดห้อง ยอมรับว่ากลุ่มของตนเองเคยผ่านงานประเภทนี้มาก่อน ซึ่งเคยเคยไปรับงานที่อื่นโดยเฉพาะการเข้าทำความสะอาดพื้นที่ที่เกี่ยวกับคดีและเป็นศพเน่า จึงมีวิธีการจัดการ ทั้งเรื่องของการใช้น้ำยาล้างห้องน้ำดับกลิ่น และรวมถึงการรื้อเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้หรือโซฟาที่เป็นผ้า ที่มีการเก็บกลิ่นเอาไว้ จะต้องมีการรื้อออกทั้งหมดไม่เช่นนั้นกลิ่นก็จะไม่หาย ดังนั้นจึงต้องมีการทำตามขั้นตอนและแนวทางที่เคยปฏิบัติ

 

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวในฐานะที่ขึ้นไปที่ห้องที่เกิดเหตุ และได้เข้าไปเคลียร์ทำความสะอาด ประกอบกับได้ขึ้นไปที่ห้องดังกล่าวเมื่อคืนนี้พร้อมกับชุดสืบ มีการคาดการณ์ว่า การเสียชีวิตของนายไพศาลหรือโต๊ส คนตาย จากลักษณะรอยเลือดและการต่อสู้เริ่มต้นจากประตูห้อง จนกระทั่งยาวไปจนถึงจุดที่พบศพ มีลักษณะคล้ายกับการต่อสู้ตั้งแต่ปากประตูจนถึงจุดเจอศพ จึงคาดการณ์กับชุดสืบสวนว่า หลังจากคุณตายเปิดประตูห้องเข้าไปคาดน่าจะโดนใช้อาวุธมีดช่วงแทงและฟันทำร้ายตั้งแต่เดินเข้าประตู จนกระทั่งเสียชีวิต และถูกรื้อค้นสิ่งของ เพราะเมื่อคืนนี้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพบกระเป๋าสะพายของคนตายที่ปรากฏภาพในลิฟต์ ถูกฟันลักษณะขาด ถูกทิ้งอยู่ภายในห้องน้ำ จึงคาดการณ์ว่าน่าจะถูกฟันและแทง ทั้งที่ยังไม่ทันตั้งตัว

 

วันเดียวกันนี้ ทีมข่าวช่องแปดยังได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแถวละแวกบ้านของนางจง แม่ของนายไพศาลหรือโต๊สคนตาย โดยทราบว่าปกติแล้วตัวของคนตายจะอาศัยอยู่กับแม่และพี่ชายที่บ้าน เว้นแต่ว่ามีธุระหรือทำธุรกิจจะเดินทางไปนอนอยู่ที่คอนโดที่เกิดเหตุ

 

และตามข้อมูล ที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดคอนโดปรากฏว่าวันที่ 20 พ.ค. เวลาประมาณ 22:26 น. นายไพศาลคนตายได้ขับรถเก๋งสีน้ำเงินออกไปรับชายปริศนาอายุ 33 ปี ซึ่งสวมใส่แว่น 2 ชั้น ใส่เสื้อฮู้ดคลุมบางใบหน้า โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดคอนโดจับภาพเอาไว้ได้ว่ามีการขับเข้าคอนโดช่วงเวลาดังกล่าว

 

ทีมข่าวจึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดวันเดียวกันแต่เป็นกล้องชุดแถวละแวกบ้านของแม่คนตาย , โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดในวันวันเดียวกัน 20 พ.ค. ซึ่งจับภาพครั้งสุดท้ายของคนตายที่ออกจากบ้านแม่แล้วไม่ได้กลับเข้ามาอีก โดยนายไพศาลหรือโต๊ส ขับรถออกจากบ้านเวลาประมาณ 19:38 น. โดยจะเห็นเจ้าตัวเดินมาขึ้นรถที่จอดอยู่ ซึ่งตอนที่ขึ้นรถนั้นจะเห็นเพียงแค่เจ้าตัวเดินขึ้นไปเพียงคนเดียว หลังจากปลดล็อกรถแล้วก็ได้มีการถอยรถและขับออกจากลานจอด เพื่อมุ่งหน้าไปแถวกระทรวงสาธารณสุข

 

และมีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพเส้นทางว่าเจ้าตัวมีการขับออกจากซอยชุมชนในบ้านของแม่ เพื่อมุ่งหน้าไปแถวสาธารณสุข ก่อนจะไปนัดหมายและรับตัวของชายใส่เสื้อฮู้ด แถวพื้นที่งามวงศ์วาน

 

ขณะเดียวกันทีมข่าวช่องแปดจึงได้มีการย้อนไทม์ไลน์ของคนตาย ในวันที่มีการนัดหมายเจอกับชายเสื้อฮู้ด ซึ่ง นายไพศาลหรือโต๊สคนตาย มีการขับรถเก๋งสีน้ำเงิน ขับมุ่งหน้า ออกไปรับชายเสื้อฮู้ดที่อยู่รอแถวงามวงศ์วาน โดยเจ้าตัวขับออกจากถนนแถวคอนโดออกไปช่วงเวลาประมาณ 22.01 น. ของวันที่ 20 พ.ค. โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดหลายมุมจากภาพว่าเจ้าตัวขับออกจากแถวกระทรวงสาธารณสุข มุ่งหน้าไปแถวงามวงศ์วาน

 

จากนั้น ผ่านไปประมาณ 22 นาที เวลากล้องวงจรปิด 22:23 น. โดยประมาณ จับภาพรถเก๋งของนายไพศาลหรือโต๊ส คนตาย ขับกลับเข้ามาภายในซอยคอนโด เพื่อที่จะพาชายเสื้อฮู้ดกลับมาที่คอนโดที่เกิดเหตุ ก่อนถูกฆ่าตาย

 

ในวันนี้ ทีมข่าวได้เดินทางไป พูดคุยกับ นายภัทรพล อายุ 33 ปี หรือ แชมพู เพื่อนรุ่นน้องของผู้ตาย ที่รู้จักกันนับ 10 ปี ด้วยผู้ตายเคย หางานให้ตน เป็นงานแคสในสมัยก่อน และก็ห่างหายกันไป จนช่วงเมษาที่ผ่านมา มีการทักมาพูดคุย และชวนไปทานข้าว พร้อมทราบว่า ก่อนหน้านี้ เขาได้เสียคนรักไป เลยทำให้เศร้าใจมาก เลยมีการชวนคนรู้จักออกไป พูดคุยไม่ทำให้เหงา แชตสุดท้ายที่พูดคุยกับ เป็นช่วง วันที่ 26 เมษายนที่ผ่าน ซึ่งเป็นการคุย ถามไถ่ปกติ และก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย ตนพึ่งทราบข่าวว่าเขาเสียจากนักข่าว ตกใจมาก แต่ตนไม่เคยรู้จักกับคนรอบข้างเขาเลย ไม่ทราบว่า ใครเป็นเพื่อนบ้าง และจากภาพที่เป็นผู้ชายใส่ฮู้ด ตนยืนยันว่าไม่เคยรู้จัก

แม่บ้านใจเด็ด! อาสาล้างเลือดห้องสังหาร ชี้ สภาพเหมือนถูกไล่ฆ่าตั้งแต่หน้าห้อง