จากกรณีคนร้ายมาซุ่มยิง น.ส.ชวินญาน์ หรือ ออย อายุ 37 ปี แม่ค้าขายฟักทอง เสียชีวิตขณะกำลังทำอาหารอยู่ด้านหล้งร้าน ริมถนนเพชรเกษมอ่าวลึก-กระบี่ หมู่ 4 ต.เขาคราม อ.เมืองกระบี่ เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 3 พ.ค. ที่ผ่านมา เบื้องต้นตำรวจตั้งประเด็นสังหารไว้ 2-3 เรื่อง ทั้งเรื่องปัญหากับกลุ่มยาเสพติด เนื่องจากสามีผู้ตาย คือนายสมพร อายุ 45 ปี ถูกจับติดคุกในคดียาเสพติด รวมทั้งเรื่องชู้สาว และปัญหาส่วนตัว ต่อมาญาติฝ่ายสามีผู้ตายนิมนต์พระจากสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ใกล้จุดเกิดเหตุ มาทำพิธีเชิญวิญญาณ ซึ่งเป็นพิธีเชิญวิญญาณลงหม้อดินเผา แล้วปิดผนึกหม้อไว้ก่อนนำไปลอยน้ำ นั้น

ล่าสุด (14 พ.ค. 2567) ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่วัดหนองจิก ซึ่งหม้อที่ญาติฝ่ายสามีผู้ตายได้ปล่อยลงคลองได้ไหลมาติดที่บริเวณท้ายวัดแห่งนี้ ต่อมาทีมข่าวได้พูดคุยกับ พระโป้ง (นามสมมติ) พระที่เป็นคนเจอหม้อสะกดวิญญาณ เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ก่อนหน้าที่จะเจอหม้อดังกล่าว ตำรวจได้เข้ามาที่วัดและมาประชาสัมพันธ์ให้ช่วยติดตามหากเจอหม้อสะกดวิญญาณให้ช่วยแจ้งตำรวจด้วย เพราะต้องการหาเบาะแสคดียิงแม่ค้าฟักทองบางอย่างจากหม้อดังกล่าว

.

จากนั้นช่วงเวลาประมาณบ่ายโมง ของวันที่ 8 พ.ค. ตนเองได้ยืนอยู่บริเวณหลังวัดและเหลือบไปเห็นหม้อสะกดวิญญาณดังกล่าว ลอยไปติดบริเวณโขดหิน เนินทราย จากนั้นจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบ พบว่าหม้อดินสะกดวิญญาณดังกล่าวนั้นมีผ้ายันต์ ซึ่งเป็นรูปท้าวเวสสุวรรณติดอยู่ คาดว่าเอาไว้ใช้สะกดวิญญาณคนตายที่อยู่ในหม้อ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ปรึกษาตนเอง ว่าสามารถเปิดดูได้หรือไม่ เพราะสงสัยว่าอาจจะมีหลักฐานอื่นเชื่อมโยงไปถึงคดีก็ได้ เนื่องจากแปลกที่ญาติฝ่ายผัวของคนตาย ได้ให้พระทำพิธีเอาวิญญาณลงหม้อ

ตนเองจึงได้เปิดหม้อออกและทำพิธีปลดปล่อยดวงวิญญาณออกจากหม้อ โดยได้พรมน้ำมนต์กรวดน้ำ อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับดวงวิญญาณที่ถูกกักขังอยู่ ยอมรับว่า ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเคยเห็น เคสนี้เป็นเคสแรก รู้สึกตกใจเพราะเคยเห็นแต่ในละคร แล้วไม่คิดว่าจะมีพระรูปไหนรับทำพิธีแบบนี้ เพราะเหมือนเป็นการไปกักขังดวงวิญญาณคนตายเอาไว้ ซึ่งเขาไม่ทำกัน

ขณะเดียวกันทีมข่าวได้เดินทางไปที่สำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ญาติฝ่ายผัวของผู้ตาย ได้นิมนต์พระสงฆ์รูปหนึ่ง ชื่อ หลวงพ่อฤทธิ์ ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณสะกดลงหม้อดินก่อนนำไปลอยน้ำ เมื่อไปถึงพบว่า หลวงพ่อฤทธิ์ ซึ่งท่านเป็นหลวงพ่อเจ้าอาวาส ได้ปฏิเสธที่จะให้คำตอบกับผู้สื่อข่าว โดยบอกกับผู้สื่อข่าวสั้น ๆ ว่า “กลับไปเถอะ เรื่องมันจบไปนานแล้ว เรื่องไร้สาระ” จากนั้นหลวงพ่อได้ปิดไฟกุฏิและเข้านอนทันที

จากนั้นทีมข่าวได้สอบถาม พระลูกวัดของหลวงพ่อฤทธิ์ ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตนเองก็ไม่เคยเห็นหลวงพ่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณคนตายในลักษณะแบบนี้มาก่อน เพราะปกติแกจะทำพิธีเชิญดวงวิญญาณตามหลักทั่วไป ก็รู้สึกแปลกใจเหมือนกันที่ครั้งนี้แกได้เชิญวิญญาณลงหม้อและปิดด้วยผ้ายันต์ ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าเป็นความต้องการของญาติผู้ตายหรือไม่