จากกรณีชุดสืบนครบาลรับแจ้ง นายโร อึย จง ( ROH EUI JONG ) อายุ 34 ปี สัญชาติเกาหลีใต้ เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 30 เมษายน และปรากฏว่าในวันที่ 7 พฤษภาคม แม่ของนายโร อึย จงได้รับโทรศัพท์ปริศนา พร้อมบอกว่า ลูกชายของตนได้นำยาเสพติดไปทิ้งน้ำ ทำให้ได้รับความเสียหาย แม่ต้องเอาเงินมาให้จำนวน 3 ล้านบาท ไม่เช่นนั้นลูกชายจะถูกฆ่าตาย แม่ของนายโร ไม่สบายใจจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความกับสถานทูตเกาหลีเพื่อประสานมาทางตำรวจสน.คลองตัน ให้ทำการเร่งติดตามตัว

 

ต่อมาทำการสืบสวนสอบสวนจนกระทั่งทราบว่านายโร อึย จง หายไป น่าจะหายไปบริเวณบ่อน้ำที่บริเวณ อ่างเก็บน้ำมาบประชัน หมู่ 3 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จากนั้นก็ได้ดำน้ำจนพบถังน้ำโดยมีผู้เสียชีวิตถูกฆ่าโบกปูนถ่วงน้ำ คาดว่าจะเป็นศพของนายโร อึย จง ที่ถูกเรียกค่าไถ่นั้น

 

วันนี้ (13 พ.ค.67) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. เปิดเผยว่า ล่าสุดได้รับการประสานงาน จากตำรวจเกาหลี ได้มีการออกหมายแดงผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย ซึ่งล่าสุดสามารถควบคุมตัวได้แล้ว 1 ราย คือ Lee Roun ซึ่งอาศัยอยู่ประเทศเกาหลี หลังก่อเหตุก็เดินทางกลับประเทศ ขณะนี้ตำรวจเกาหลีอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผล

 

ทั้งนี้ผู้ที่ถูกจับกลุ่มรายนี้เบื้องต้นจากข้อมูลการสืบสวนพบว่าเป็นเพียง ระหว่าง สมรู้ร่วมคิด ส่วนจะมีส่วนร่วมในการฆาตกรรมด้วยหรือไม่นั้นยังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลขณะที่ผู้ต้องหาอีกสองรายทราบว่าได้หลบหนีออกไปที่ประเทศเพื่อนบ้านแล้ว

 

ทีมข่าวช่องแปดลงพื้นที่พูดคุยกับพนักงาน บริษัทรถเช่า  ซึ่งเป็นคนส่งรถให้กับนายคิมและนายลีซึ่งมาเช่ารถที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เพื่อใช้ในการก่อเหตุ

 

นางสาวโบว์ นามสมมติ คนที่ให้เช่ารถกับนายคิม เปิดเผยว่า นายคิมและหญิงคนไทยโทรเข้ามาติดต่อขอเช่ารถแบบเจ็ดที่นั่งเป็นระยะเวลาหนึ่งเดือนโดยเช่าตั้งแต่วันที่ 29 เมษายนจนถึง 29 พฤษภาคม

 

หลังจากเจรจาทางโทรศัพท์แล้วได้มีการแอดไลน์กับทางบริษัท ส่งหลักฐาน โดย นายคิมได้แจ้งว่าบัตรประชาชนจะเป็นของคนไทยส่วนใบขับขี่เป็นของชาวเกาหลีซึ่งได้รับใบขับขี่ของไทยแล้ว ซึ่งเงื่อนไขของการเช่ารถต้องมีใบขับขี่ เป็นเอกสารสำคัญในการเช่า

 

นายคิมมีใบขับขี่ของไทย ก็ได้ส่งภาพใบขับขี่มาให้ในแชตไลน์ จากนั้นตกลงราคาค่าเช่าอยู่ที่ 29,000 บาทต่อ 30 วันและมีค่ามัดจำรวมไปถึงค่าบริการอื่นๆ รวมราคากว่า 30,000 บาท

 

และนำรถไปส่งให้กับนายคิมที่คอนโดแห่งหนึ่งในซอยสุขุมวิท 93 เมื่อไปถึงก็มอบรถให้พร้อมทั้งสัญญาโดยจากการสังเกตนายคิมและภรรยาไม่มีพิรุธ ภรรยานายคิมบอกว่าจะนำรถมาใช้สัญจรไปมาในกรุงเทพฯและพัทยาเพื่อทำงานโดยจะไปพัทยาสัปดาห์ละสองครั้งนอกนั้นก็จะอยู่กรุงเทพ เมื่อส่งรถให้เสร็จแล้วก็กลับ

 

จากนั้นก็พบว่ารถมีปัญหาจึงนำรถคันที่ก่อเหตุซิตี้สีเทามาเปลี่ยนให้กับนายคิม แทน และจะนำรถเจ็ดที่นั่งมาเปลี่ยนให้ใหม่แต่นายคิมบอกว่าไม่เป็นไรจะใช้คันนี้ จากนั้นก็ไม่พบความผิดปกติอะไรก็เป็นเหมือนลูกค้าที่มาเช่ารถทั่วไป

 

จนกระทั่ง ช่วงต้นเดือนพฤษภาคม มีการตรวจสอบ ทางร้านตรวจสอบ พบความผิดปกติของการใช้รถ พบว่ามีการใช้รถในช่วงกลางดึกเป็นเวลานานและขับวนอยู่ในพื้นที่บางจุดที่พัทยาโดยจะขับวนอยู่จุดเดิมๆไปมาหลายครั้งตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรและแจ้งข้อมูลให้กับหัวหน้ารับทราบ

 

จนกระทั่งมาทราบข่าวว่า มีการนำรถไปใช้ในการก่อเหตุอุ้มฆ่าชาวเกาหลีก็ตกใจและตอนนี้รถก็อยู่กับตำรวจคาดว่าน่าจะ รอตรวจพิสูจน์หลักฐานต่างๆให้เสร็จสิ้นจึงจะคืนมาให้กับบริษัท

 

วันนี้ (13 พ.ค.67) ช่วงเวลา 15.20 น. หญิงคนสนิทของนายโร ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาที่ สน.มักกะสัน หลังจากตำรวจเรียกสอบปากคำ โดยพบว่า หญิงรายนี้ อยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย โดยเกิดเหตุหญิงรายนี้ได้ไปเที่ยวสถานบันเทิงกับผู้เสียชีวิตจากนั้นมีการตกลงกันว่าจะเดินทางกลับที่พักด้วยกันแต่ก็มาเกิดเหตุการณ์กลุ่มผู้ต้องหามาล็อกตัวและ ก่อเหตุฆาตกรรม

 

โดยวันนี้หญิงได้ดังกล่าวเดินทางมาเพียงคนเดียว ทีมข่าวสอบถามขณะที่เจ้าตัวเดินขึ้นบันไดมาเพื่อเข้าห้องสอบสวน เจ้าตัวไม่ตอบคำถามใดๆ เมื่อนักข่าวพยายามถามว่าได้เจอกับนายโรครั้งสุดท้ายตอนไหน หรือนายโรเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทาหรือไม่  เจ้าตัวไม่ตอบได้แต่ก้มหน้าและเดิน เข้าห้องพนักงานสอบสวน

 

สำหรับการเดินทางเข้าให้ปากคำของหญิงสาวคนสนิทนายโร ผู้เสียชีวิตนั้นครั้งนี้ เป็นครั้งที่สองโดยก่อนหน้านี้ได้เข้าให้ปากคำสน. คลองตันพื้นที่ที่หายตัวไป วันนี้พนักงานสอบสวนสน. มักกะสัน จึงนัดมาสอบปากคำประเด็นการเข้าไปเที่ยวที่สถานบันเทิงย่านอาร์ซีเอ

 

จากการสอบปากคำพบว่าหญิงคนสนิทรายนี้มาเที่ยวกับนายโร ผู้เสียชีวิต 2คนจากนั้น ก็โทรเรียก นายลี มาที่สถานบันเทิงและร่วมกินดื่มด้วยกันที่โต๊ะ

 

ใช้เวลาสักพักจากนั้นหญิงสาวรายนี้ก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำเมื่อออกมาก็พบว่านายโร เดินออกไปข้างนอกแล้วจากนั้นก็มีรถยนต์มารับและดันตัวนายโร ขึ้นรถไปโดยที่ไม่รู้ว่าไปที่ไหน โดยหญิงสาวรายนี้เข้าใจว่านายโร คงไปเที่ยวต่อกับเพื่อนไม่คิดว่าเป็นการมาล็อกตัวไป ฆ่า พอทราบข่าว ตกใจและเสียใจมาก

ช่วงบ่ายที่ผ่านมาที่ สถานีตำรวจนครบาลมักกะสัน ตำรวจชุดสืบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้นำหลักฐานข้อมูล วัตถุพยาน // ดีเอ็นเอ ของพี่สาว และญาติ ของนายนายโร อึย จอง ผู้เสียชีวิต มาส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อนำเข้าสู่สำนวน หลังจากเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บดีเอ็นเอและนำส่งตรวจเทียบเคียงกับนายโร ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจไปแล้วเมื่อวานนี้ 

 

พันตำรวจเอกภูมิยศ เหล็กกล้า รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยก่อนเข้าประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดีว่า ได้เชิญพี่สาวและญาติของผู้เสียชีวิตให้เข้ามาให้ปากคำเพิ่มเติม

 

ส่วนผู้ก่อเหตุขณะนี้ ตำรวจเกาหลีใต้คุมตัว นายลีโรอุน ไว้แล้ว เบื้องจากการซักถามยังให้การปฏิเสธ และขณะนี้ทางตำรวจไทยได้ส่งหลักฐานและข้อมูลให้กับตำรวจเกาหลีใต้ไปแล้ว เพื่อยืนยันว่านายลีโรอุนเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุ

 

ส่วนตำรวจไทย ขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและรอผลตรวจดีเอ็นเอ เพื่อนำขอศาลให้ศาลพิจารณาออกหมายจับ และขอหมายแดงจากตำรวจสากล เพื่อให้ทางการเกาหลีใต้ส่งตัวนายลีโรอุลกลับมาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนซึ่งต้อง เร่งรวบรวมสำนวนและหลักฐานทางคดีเพื่อขอหมายจับผู้ก่อเหตุทั้งหมดเนื่องจากว่าตามกฎหมายของเกาหลี ยังไม่มีหมายจับก็จะควบคุมตัวได้เพียง 48 ชั่วโมงเหมือนกับประเทศไทยดังนั้นทางพนักงานสอบสวนจึงต้องเร่งรวบรวมหลักฐานเพื่อยืนยันว่าผู้เสียชีวิตคือนายโร อึย จอง และขอหมายจับตามขั้นตอนกฎหมาย ของไทยและส่งให้ทางเกาหลีดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน

 

ขณะที่ทีมข่าวได้สอบถาม พันตำรวจเอกคิม ดูซอง กงสุลตำรวจและเลขานุการเอกประจำสถานทูตเกาหลีใต้ เปิดเผยสั้นๆ ว่า ตอนนี้กระบวนการทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เจ้าหน้าที่กำลังเร่งดำเนินการเพื่อที่จะให้คดีนี้เกิดความกระจ่าง ในส่วนของญาติของผู้เสียชีวิต ตอนนี้ยังมีคำถามและข้อสงสัยมากมาย แต่ว่าไม่สามารถที่จะเปิดเผยต่อสื่อได้

ชำแหละแผนเหี้ยม! แก๊งกิมจิโหดฆ่าหนุ่มเกาหลีโบกปูนยัดถัง