จากกรณีเมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ และตำรวจสภ.เมืองอุดรธานี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุหลังได้รับแจ้งมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบชายหนึ่งคนทราบชื่อต่อมา คือ นายขวัญเมือง อินทนงค์ อายุ 30 ปี ถูกยิงด้วยปืนแก๊ปนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณถนน ในหมู่บ้านหนองไผ่ หมู่ 5 ตำบล หนองนาคำ อำเภอเมืองอุดรธานี ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายจักรี อายุ 26 ปี ถูกตำรวจควบคุมตัวได้พร้อมปืนไทยประดิษฐ์ที่ใช้ก่อเหตุ

 

ล่าสุดวันนี้ (10 พ.ค.67) ทีมข่าวช่อง 8 ยังคงเดินทางไปติดตามความคืบหน้ากรณีดังกล่าว ที่ สภ.เมืองอุดรธานี โดยเมื่อเวลา 10.30 น. ตำรวจได้มีการคุมตัวนายจักรี ออกจากห้องสืบสวน เพื่อนำตัวไปแถลงข่าวที่ห้องสืบสวน

 

โดยทันทีที่ตำรวจนำตัวออกมา ทีมข่าวพยายามสอบถามกับนายจักรี ผู้ต้องหา อีกครั้ง เนื่องจากเชื่อว่าถ้านายจักรี หมดฤทธิ์ยาอาจจะพูดอะไรมากขึ้น แต่ปรากฏว่าเจ้าตัวมีอาการนิ่งเงียบ เดินก้มหน้าตอบบางคำถาม ไม่ยิ้มและหัวเราะ ต่างกับเมื่อคืน ที่เจ้าตัวมีการยิ้มและหัวเราะในขณะที่ตำรวจคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งเมื่อทีมข่าวถามว่าเสพยาหรือไม่ เจ้าตัวรับว่าเสพ ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุยอมรับว่าเป็นคนประดิษฐ์ขึ้นมาเอง และไม่ได้ประดิษฐ์ขาย แต่ไม่ยอมบอกว่าศึกษาเรื่องประดิษฐ์ปืนจากช่องยูธูปช่องไหน ส่วนเรื่องยาที่แม่ให้ข้อมูลกับนักข่าวว่าจะซื้อยามาเสพวันละ 5 เม็ด ยอมรับก็ซื้อมาเพื่อเสพเอง แต่ไม่ยอมตอบว่าทำไมต้องซื้อยาครั้งละ 5 เม็ด แต่ไม่ยอมตอบว่าซื้อยามาเม็ดละเท่าไหร่

 

จากนั้นในเมื่อนายจักรี ตอบคำถามกับสื่อแค่บางคำ ทาง พ.ต.อ.พัฒนวงค์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี จึงมีการเดินไปสอบถามกับเจ้าตัว ซึ่งนายจักรี ก็ยอมพูดกับทางผู้กำกับ โดยบอกว่า เรื่องปืนที่ประดิษฐ์ใช้เอง ศึกษามาตั้งแต่ตอนเด็ก ซึ่งปืนที่ประดิษฐ์ขึ้นมา เป็นการประดิษฐ์เอาไว้เพื่อป้องกันตัว เนื่องจากก่อนหน้านี้ระแวงว่าจะมีคนมาทำร้าย ซึ่งตนเองไม่รู้ว่าจะมีคนมาทำร้ายตอนไหน แต่ยืนยันว่าไม่ได้คิดไปเอง

 

ซึ่งทางผู้กำกับและสื่อ ก็พยายามช่วยกันถามว่า คนที่จะมาทำร้ายเขามาในรูปแบบไหน มีพยานหลักฐานหรือไม่ กลุ่มคนพวกนั้นเขามาตอนกลางคืนหรือกลางวัน ถ้ามีจริงทางผู้กำกับจะส่งตำรวจไปตรวจสอบ แต่ปรากฏว่า นายจักรี ก็ตอบไม่ได้และยังบอกว่าจริงๆแล้วกลุ่มคนพวกนั้นไม่เกี่ยวกับผู้ตาย ยืนยันมั่นใจว่ามีคนจะมาทำร้าย ไม่ได้หลอนไปเอง ส่วนเรื่องที่ก่อเหตุกับผู้ตาย ยืนยันว่าก่อนยิงบอกกับผู้ตายแล้วว่าอย่าวิ่งเข้ามา เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นห่วงแม่ และอยากจะขอโทษแม่ผู้ตาย ยืนยันถ้าพ้นโทษออกมาจะเลิกยุ่งกับยาเสพติดและจะกลับตัวเป็นคนดี

 

ส่วนเรื่องยาเสพติดที่ซื้อมาเสพครั้งละ 5 เม็ด เพราะถ้าซื้อครั้งละเม็ดเขาจะขายให้ในราคาเม็ดละ 50 บาท แต่ถ้าซื้อครั้งละ 5 เม็ดคนขายจะขายให้ในราคา 5 เม็ด 200 บาท เท่าได้ลดราคาลงมาเม็ดละ 10 บาท ทำให้เวลาไปซื้อยา จึงต้องซื้อยาครั้งละ 5 เม็ด

 

จากนั้นทาง พ.ต.อ.พัฒนวงค์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี มีการแถลงสรุปคดีว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุมีการลองปืนอยู่ที่หลังบ้าน ซึ่งปืนดังกล่าวผู้ต้องหา รับสารภาพว่าเป็นคนประดิษฐ์ขึ้นมาเองโดยการเรียนรู้มาจากยูทูบ

 

ส่วนพฤติกรรมการก่อเหตุ นายจักรี ผู้ต้องหาให้การว่า ในขณะที่กำลังซ้อมยิงปืนอยู่ เห็นนายขวัญเมือ ผู้ตายขี่รถจยย.ผ่านมาหน้าบ้านก็เลยมีการตะโกนด่าและท้าทายกัน กระทั่งผู้ตายจอดรถและวิ่งเข้าไปหาในบ้าน ทำให้นายจักรี ผู้ต้องหา จึงตัดสินใจยิงใส่นายขวัญเมือง ผู้ตายเข้าที่บริเวณท้อง 1 นัด แต่ผู้ตายไม่ล้มลงและมีการวิ่งเข้ามาแย่งปืนจนด้ามปืนหัก จากนั้นนายจักรี จึงใช้ด้ามปืนที่หักทุบตีผู้ตาย จนกระทั่งเมื่อผู้ตายสู้ไม่ได้จึงวิ่งหนีออกจากบ้านของนายจักรี เพื่อวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากแม่ของเขา แต่ปรากฏว่าล้มลงกับพื้นก่อนจะถึงบ้านของแม่ ประมาณ 50 เมตร

 

ซึ่งจากการสืบสวนพบว่านายจักรี ผู้ต้องหาและนายขวัญเมือง ผู้ตาย มีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยที่ผ่านมาทางตำรวจเคยรับแจ้งจากชาวบ้านให้เข้าไประงับเหตุที่ทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันเป็นประจำ ส่วนเรื่องปัญหายาเสพติดที่ทั้งสองฝ่ายยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ทางแม่ของทั้งสองฝ่ายเคยมาปรึกษากับตำรวจหลายครั้ง แต่ด้วยข้อกฎหมายผู้ครอบครองยา 5 เม็ดเป็นผู้ป่วย ทางตำรวจจึงทำได้แค่จับส่งไปบำบัดเท่านั้น

 

ขณะเดียวกันวันนี้ทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักของนายขวัญเมือง (ผู้ตาย) โดยบ้านพักดังกล่าว มีลักษณะเป็นบ้านปูนชั้นเดียว และจะอยู่ติดกับบ้านน้าของนายขวัญเมือง ซึ่งที่ผนังหน้าบ้าน พบว่านายขวัญเมือง มีการเขียนข้อความเอาไว้หลายข้อความ โดยข้อความด้านซ้าย นายขวัญเมือง มีการเขียนชื่อนายคุมเพชร ชื่อเล่นบอย รร.คลองไผ่ และมีการวาดรูปปืนเอาไว้คล้ายกับปืนที่นายจักรี ใช้เป็นอาวุธยิงนายขวัญเมือง

 

ส่วนข้อความถัดมา นายขวัญเมือง ก็วาดรูปปืนเอาไว้ โดยกำกับภาพปืนไว้ว่า ชุ่ม มือ ขอ ส่วนข้อความด้านล่างลงมา เขียนไว้ว่า คนในห้ามบอกคนนอกบอกได้ = งงงงงง "รักแรกมันแยกยาก รักเธอเป็นแรกถ้าจะแยกมันคงยาก" โดยใต้ข้อความดังกล่าวก็จะมีการวาดรูปหน้าผู้หญิงเอาไว้ ส่วนข้อความตรงขอบประตู มีการเขียนเอาไว้ว่า "อย่านอนตื่นสาย อย่าอายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อยอย่าคอยวาสนา"

 

ส่วนขอบด้านบนประตูเขียนว่า มั่งมีศรีสุข / ส่วนผนังอีกด้าน เขียนว่า จ.อุดรธานี / รูปวาด / ภาลัย / น.ช.ก้องฟ้า / 2499 โตโต้ / Aเสกสรร / ขวัญเมือง = ภาคำร์ / บุญเกิด = อินทนงค์ /

 

ส่วนด้านฝั่งหน้าต่าง เขียนไว้ว่า เปา = บ้านไทยY ใบเด๋น // เอก โท ตรี WY ขอบคุณพระเจ้า.../ โกโก้ HV / ปัตานี นะราธิวาส = ยะลา //// ส่วนที่เสาเขียนว่า จำคุก+ทุ่งออส พุทธ 5486 //

 

ส่วนภายในบ้าน ทีมข่าวพบว่า นายขวัญเมือง มีการใช้ปากกาเมจิกวาดแต่งเติมรูปภาพของพ่อที่ตายไปแล้วและรูปของตัวเองในตอนเด็กเอาไว้ และยังมีภาพของน้าชาย ที่ตายไปแล้วถูกแกะออกจากกรอบรูป

 

ส่วนภายในห้องนอนของนายขวัญเมือง เจ้าตัวมีการวาดภาพเอาไว้ทุกด้านของผนังห้อง

ขณะเดียวกันวันนี้ทีมข่าวได้ย้อนกลับไปสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับ นางติ่ง อายุ 60 ปี ซึ่งเป็นแม่บุญธรรมของนายขวัญเมืองผู้ตาย เปิดเผยว่า จริงๆแล้วก่อนหน้านี้แม่ อาศัยอยู่บ้านในหมู่บ้านกับลูก แต่ที่ต้องหนีมาใช้ชีวิตอยู่ท้ายหมู่บ้านก็เป็นเพราะว่าเวลาลูกเมามักจะอาละวาดแม่ทุกครั้ง และทุกครั้งที่ลูกเมายา ลูกจะจำตัวเองไม่ได้ว่าเป็นใครและก็มักจะด่าแม่ด้วยคำหยาบคาย แต่ถ้าไม่เมาไม่เสพยา ก็จะเป็นคนไม่ค่อยพูด

 

ซึ่งลูกคนนี้ จริงๆไม่ใช่ลูกแท้ๆของแม่ แต่เป็นลูกที่แม่ขอจากญาติมาเลี้ยงตั้งแต่เขาเกิดมาได้แค่ 19 วัน และที่แม่ ต้องรับลูกคนนี้มาเลี้ยง จริงๆแล้วไม่ใช่การไปเจอและถูกชะตากัน แต่มันเป็นความสงสาร เพราะตอนที่แม่ไปเจอ แม่เจอเขาอยู่ในสภาพที่ทางญาติปล่อยทิ้งไว้พร้อมที่จะฝั่งทันทีถ้าเขาตาย

 

ส่วนช่วงที่เขาโตขึ้นมา ถามว่าเขาแสดงความรักกับแม่หรือไม่ แม่ยอมรับว่าเขารักแม่ตั้งแต่เด็กจนถึงเข้าเรียนชั้น ป.6 ซึ่งหลังจากเขาจบ ป.6 เขาก็เริ่มเปลี่ยนไปเพราะเขาสงสัยว่า ทำไมนามสกุลของเขากับแม่ถึงไม่เหมือนกัน กระทั่งเมื่อเขารู้ว่าเขาไม่ใช่ลูกของแม่ เขาก็เริ่มเปลี่ยนไปโดยการหันไปดมกาว ต่อมาก็มาติดกัญชาและติดยาบ้า ซึ่งที่ผ่านมา ยืนยันว่าลูกชายไม่เคยถามหาพ่อและแม่แท้ๆของเขา แต่ตอนที่ไปทำงานที่กรุงเทพฯ ลูกชายมีการไปขอดูรูปพ่อรูปแม่ของเขาในขณะที่ไปทำบัตรประชาชน

 

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ขณะเกิดเหตุแม่ กำลังโทรศัพท์อยู่กับญาติ จู่ๆก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 3 นัด เมื่อหันไปดูก็เห็นลูกชายกำลังวิ่งตรงเข้ามา จากทางบ้านของนายจักรี ผู้ก่อเหตุ แล้วร้องขอให้แม่ช่วย โดยร้องออกมาว่า "แม่ช่วยผมด้วย ผมถูกยิง" แต่ยังมาไม่ถึงบ้านก็ล้มลงฟุบลงกับพื้น เมื่อแม่วิ่งไปถึงลูกชายก็ยังมีสติและกอดขาบอกแม่ว่าขอน้ำหน่อย ก่อนที่จะแน่นิ่งไป ยอมรับตอนที่แม่มายืนอยู่ตรงศพลูก แม่ก็กลัวที่จะถูกนายจักรี ยิง เพราะก่อนหน้านี้ถ้าใครผ่านมาใกล้บ้านของเขา ก็จะถูกเขายิงปืนขู่ ส่วนปมเหตุที่ลูก เป็นอริกับนายจักรี เท่าที่รู้เขาทั้งสองคนทะเลาะกันในงานศพ จากนั้นพอเจอหน้ากันก็จะตะโกนด่ากันทุครั้ง ซึ่งก่อนจะเกิดเหตุ ลูกชายขี่รถเข้ามาหาแม่ ก่อน 1 รอบเพื่อจะขอเงินแม่ไปจ่ายค่าเหล้า แต่ไม่เจอแม่ จึงขี่รถเขามาหาแม่รอบ 2 กระทั่งถูกยิง

 

ส่วนลางสังหรณ์ก่อนที่ลูกชายจะถูกฆ่า ส่วนตัวแม่เชื่อว่า เป็นเพราะลูก แกะรูปของน้องชายแม่ที่ตายไปแล้ว โดยนำกระดาษที่เขียนวันเวลาเกิดและตายของน้องชายแม่ มาเผา แม่จึงเชื่อว่า วิญญาณของน้องชายแม่ ไม่พอใจลูกชายก็เลยถูกยิงตาย ส่วนศพของลูก แม่ขอมอบให้ทางมูลนิธิเป็นคนจัดการเรื่องนำศพออกมาเผา เพราะแม่ไม่มีเงิน ซึ่งหลังจากนี้ แม่จะทำหน้าที่ของแม่ ก็คือการหมั่นทำบุญไปให้ลูก

แก๊ง 5 เม็ด! หลอนหนักดักยิงอริหนังเหนียวดับ สยอง! ยิ้มร่าชี้จุดสังหาร