ภายหลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีหญิงสาวสวยซึ่งเป็นเด็กเอนเตอร์เทน ผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อเข้าร้องเรียนกับสายไหมต้องรอดว่าถูก นายกิตติกร หรือ มีนพระราม 3 อายุ 33 ปี ก่อเหตุปลอมตัวเป็นโมเดลลิ่งเข้าไปแฝงตัวอยู่ในกลุ่มสาวเอนเตอร์เทนก่อนจะล่อลวงชิงทรัพย์และล่วงละเมิดทางเพศ ทำให้มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก

 

โดยต่อมา สืบสวนนครบาล มีการโพสต์ข้อความ ระบุถึงการติดตามตัว มีนพระราม 3 ว่าก่อนหน้านี้มีการขยายผลไปจนถึงแหล่งกบดานแห่งหนึ่งในพื้นที่สน. วัดพระยาไกร แต่เจ้าตัวไหวตัวทันหลบหนีออกไปก่อนพร้อมทิ้งข้อความเยาะเย้ยสืบสวนนครบาล โดยเจาะจงมาที่สารวัตรแจ๊ะ ว่า “ต่อให้เป็นสารวัตรแจ๊ะก็ไม่สามารถจับกุมตัวตนเองได้

 

ความคืบหน้าล่าสุดหลังมีการพยายามติดตามตัวนานกว่าสามวัน สารวัตรแจ๊ะ หนึ่งในชุดไล่ล่าตัวมีน พระราม 3 สามารถจับกุมตัวนายมีน พระราม 3 ได้ ในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อช่วงกลางดึกของที่ผ่านมา ขณะหลบหนีไปกบดานอยู่ พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา

 

นายมีนพระราม 3 ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป และเพื่อให้พ้นการจับกุม นำตัวเพื่อมาสอบสวนขยายผลและส่งพนักงานสอบสวน สน. ทุ่งมหาเมฆ เพื่อดำเนินคดี

 

ขณะที่ต่อมาวันนี้ ทีมข่าว ก็ลงพื้นที่ไปยัง ซอยเจริญราษฎร์ 7 ย่านพระราม3 ซึ่งเป็นจุดที่ ตำรวจสืบสวนนครบาล ได้ขยายพบว่านายมีน ชอบมานั่งรวมกลุ่มกันที่บริเวณนี้ และเป็นสถานที่ที่ตำรวจเข้าตรวจค้นแล้วพบน้ำกระท่อมอยู่หลังบ้าน

 

โดยเมื่อไปถึงหน้าร้านพบเป็นร้านขายขนม ทีมข่าวได้สอบถามเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นแม่ของเพื่อนนายมีน เปิดเผยว่า นายมีนไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่เป็นเพื่อนของเพื่อนลูก พึ่งจะรู้จักกันได้ประมาณ 3-4 เดือน และเพื่อนของเพื่อนลูก พามา ส่วนมากนายมีนจะมานั่งรอหน้าร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ติดกับร้านตนเอง เพื่อมารอกดรับงาน เพราะนายมีน วิ่งไรเดอร์ สัปดาห์หนึ่งมาประมาณ 3-4 วัน ไปๆมาๆเพื่อรอรับงานแบบนี้

 

ส่วนตัวที่รู้จักนายมีนมา 3-4 เดือน นายมีน เคยคุยให้ฟังเรื่องว่าบ้านของเขาอยู่นนทบุรี มีแม่มีพี่สาว และพี่สาวมีร้านอาหาร ไม่ได้บอกว่าตัวเองรวย แต่บอกว่าแม่จะแบ่งที่ดินให้ เพื่อเอาไปขาย แต่ก็ไม่เชิงโอ้อวด เพราะเท่าที่เห็นนายมีนก็ดูเป็นคนไม่ค่อยมีเงิน และที่ผ่านมาเขาก็ดูไม่มีพฤติกรรมอะไรที่ดูหลอกลวง แต่ก็ไม่ได้สนิทกันมาก

 

ส่วนเรื่องผู้หญิงตนเองไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่เคยเห็นช่วงสงกรานต์ นายมีน พาผู้หญิงมาหนึ่งคนไม่ได้สวยอะไรมากมาย และรู้มาว่าเขาคุยกัน ตนเองก็ไล่ไป บอกมึงไปให้ไกลบ้านกู เพราะตนเองไม่ชอบ ผู้หญิงที่แต่งตัวโป๊ๆ แต่ส่วนตัวรู้สึกว่าช่วงหลังๆ นายมีนดูแปลกๆ ตรงที่นิสัยกะล่อน เพราะนายมีน เวลาเล่าอะไรให้ฟังเริ่มจะพูดไม่ค่อยตรงกัน ทั้งนี้ตนเองก็ไม่เคยรู้เรื่องเกี่ยวกับโมเดลลิ่งอะไรด้วย

 

พร้อมยืนยันว่า ร้านแห่งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดใดๆ ทั้งสิ้น และไม่ใช่แหล่งมั่วสุม แต่จะเป็นเพื่อนๆที่อยู่บริเวณนี้แวะเวียนกันมา 3-5 คนแล้วแต่ละวัน มานั่งพูดคุยกันตามประสา บางทีตนเองก็ทำกับข้าวกินก็เรียกเพื่อนๆ ชวนมากินข้าวปกติ ส่วนที่เจอน้ำกระท่อมหลังบ้าน เป็นแค่เพื่อนๆ ลูกเด็กต้มกินกันเอง ไม่ได้ต้มขายใดๆ ทั้งสิ้น

 

และพอตนเองเห็นข่าว ว่านายมีนไปก่อเหตุ ก็เชื่อว่ามันคงทำ แต่จะทำถึงร้อยคนหรือไม่นั้น ตนเองไม่รู้ และไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามันจะทำแบบนี้ ถ้าได้เจออีก ก็อยากจะกระทืบมัน เพราะตนเองไม่ชอบที่ไปทำกับผู้หญิงแบบนั้น

 

ขณะที่ทีมข่าวยังได้พบกับ นายโก้ อายุ 34 เพื่อนของเพื่อนนายมีน ที่มักจะมานั่งรวมกลุ่มที่บริเวณหน้าร้านนี้เช่นกัน นายโก้เล่าให้ฟังว่า ปกตินายมีน เข้ามาอยู่ตรงนี้ เพราะมีเพื่อนของตนเองพาเข้ามา ซึ่งตนเองก็ไม่เคยรู้ว่านายมีนมีพฤติกรรมแบบไหน เพราะนายมีนก็ดีกับทุกคนที่นี่ ไม่ได้มีอะไรผิดปกติ และเมื่อวันสงกรานต์ก็ยังขายของด้วยกันเหมือนกันปกติทั่วไป และปกติที่เจอกันมารวมกลุ่มพูดคุยกัน ก็จะแยกย้ายกันกลับบ้านช่วง 4-5 ทุ่ม ส่วนเขาจะไปไหนต่อตนเองไม่ทราบ แต่เขาจะชอบบอกว่าจะไปวิ่งงานต่อ

 

ทั้งนี้ นายมีน ยังชอบคุยเรื่องผู้หญิงให้ฟัง ในลักษณะอวดแฟน แต่ไม่เคยเอารูปให้ดู เคยแค่เอาแชตไลน์ที่มีผู้หญิงให้ดู ซึ่งตนเองก็ยังแซวว่า ‘หญิงเยอะนะ’ แต่ก็คุยเฮฮากันทั่วไป

 

ก่อนหน้านี้ นายมีน ยังเคยชวนตนเองไปเที่ยวด้วย แต่ไม่ได้อ้างว่ามีผู้หญิงหรือไม่ ส่วนเงินของนายมีน เท่าที่ตนเองทราบ ก็มีเงินเรื่อยๆ แต่ไม่รู้รวยหรือไม่ และไม่รู้ว่าได้เงินมาจากไหน ส่วนมากนายมีน จะอวด โชว์แค่ว่าวิ่งไรเดอร์ได้วันละพัน วันละพันกว่า เท่านั้น

 

ส่วนนิสัยใจคอ มองว่า นายมีนเป็นคนพูดจาดูพลิ้ว หัวไว และแกล้งโง่ในบางเรื่อง พร้อมยืนยันว่า ตนเองไม่เคยรู้เรื่องที่นายมีนไปอ้างตัวเป็นโมเดลลิ่ง เพื่อหลอกผู้หญิง เพราะถ้ารู้ตนเองก็คงจะด่าแล้ว ตอนได้ยินข่าวก็ยัง งง เพราะนายมีนไม่เคยแสดงอาการ ไม่ได้ทำนิสัยเลวตอนอยู่ที่นี่

 

ซึ่งตอนที่ตำรวจมาค้นที่ร้าน ตนเองก็ยังพูดคุยกับนายมีน ต่อหน้าตำรวจ ด้วยการโทรไลน์ ซึ่งนายมีน บอกว่าจะมามอบตัวเอง หลังวางสายจากนายมีน ไลน์ที่ใช้คุยกันก็หายไปเลย และถูกตำรวจจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา

"สารวัตรแจ๊ะ" จัดให้! เมื่อ "มีนพระราม3" ท้าทายระบบเจอจุดจบถูกบุกจับคาที่นอน