จากกรณี นางแคทเธอรีน เดลาคอท อายุ 59 ปี แหม่มสาวนักธุรกิจชาวฝรั่งเศส เจ้าของวิลล่าให้เช่าบนเกาะสมุย ใช้ปืนจ่อขมับปลิดชีพตัวเองตายริมสระน้ำในวิลล่าหรู ก่อนตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดประมาณ 100 ล้านบาท ให้ ป้าติ๋ม แม่บ้านคนสนิท หลังทราบตัวเองป่วยเป็นมะเร็ง




โดยคดีนี้ได้รับการยืนยันจากตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐาน ที่น่าเชื่อว่านางแคทเธอรีน ได้ลงมือยิงตัวตายเอง ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดนาทีพิมพ์ข้อความสั่งเสีย และจากการสอบปากคำทนายความของแหม่มแคทเธอรีน ก่อนที่เธอจะเสียชีวิตได้เดินทางไปที่สำนักงานทนายความส่วนตัวของเธอ เพื่อจัดการทำพินัยกรรมทั้งหมดด้วยตัวเอง


ส่วนประเด็นการรับมรดกที่เป็นอสังหาริมทรัพย์นั้น จากการสอบถามรายละเอียดทางกฎหมาย กับทนายเดชา เปิดเผยว่า กรณีการรับมรดกของป้าติ๋มหากมีการระบุชื่อในพินัยกรรมชัดเจน ก็สามารถครอบครองทรัพย์สินนั้นได้ทันที แต่จะติดปัญหาสมบัติที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งนางแคทเธอรีนเป็นชาวต่างชาติ ตามกฎหมายแล้วสามารถครอบครอง อหังสาริมทรัพย์ในประเทศไทยได้เพียง 49% เท่านั้น การจะครอบครองจะต้องมีผู้ถือหุ้นหรือนอมินีมีส่วนร่วมด้วย เช่น บ้านหนึ่งหลังนางแคทเธอรีนมีหุ้น 49% ที่เหลืออีก 51 % จะต้องมีผู้ถือหุ้นหรือนอมินี หรืออาจจะเปิดในนามบริษัท เป็นผู้ดูแล




ดังนั้น หากมีการยกทรัพย์สินที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ให้กับป้าติ๋ม จะต้องตรวจสอบว่ามีสัญญาการครอบครองทรัพย์สินเป็นเช่นไร ซึ่งอาจจะเป็นลักษณะหุ้นส่วน และมีการระบุรายละเอียด เช่น เสียชีวิตก็จะต้องทำตามสัญญานั้น แต่หากไม่มีการระบุก็จะเป็นการตกลงกันสองฝ่ายในหุ้นส่วนของนางแคทเธอรีนและนอมินี จะดำเนินการอย่างไร กับอาจจะนำไปขายแล้วแบ่งเงินกัน หรือแบ่งหุ้นส่วนในการครอบครอง นั้น


ล่าสุดทีมข่าวช่อง 8 ตรวจสอบบริษัทที่เป็นของแหม่มแคทเธอรีน ซึ่งได้จดทะเบียนไว้บนเกาะสมุย พบว่า ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 19 เมษายน 2555 หรือ 12 ปีก่อน ทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท โดยบริษัทดังกล่าวแหม่มแคทเธอรีน ถือหุ้นอยู่ 49% โดยมี 2 คนไทยถือหุ้นรวม 51% แบ่งเป็น นายทองใส 16% กับนางรัชประภา 35% นั่นหมายความว่า หากมีการแบ่งมรดกในส่วนของที่ดินกับอสังหาริมทรัพย์ ทั้งสองคนดังกล่าวมีสิทธิ์แบ่งสมบัติส่วนนี้ด้วย




ขณะที่วันนี้ทีมข่าวยังได้เดินทางไปที่วัดป่ารัตนธารา ตั้งอยู่บนเกาะสมุย ซึ่งเป็นวัดป่าสายกรรมฐาน หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่ป้าติ๋มได้เดินทางมาทำบุญโรงทาน ในวันที่ 28 เมษายน ซึ่งเป็นวันเกิดของเธอ ก่อนที่เธอจะได้รับมรดก 100 ล้านจากแหม่ม




เมื่อทีมข่าวไปถึงพบว่า วัดป่าดังกล่าวอยู่บนภูเขาสูงบนเกาะสมุย เป็นวัดที่เงียบสงบ ร่มเย็น ห่างจากชุมชน โดยวันนี้ที่ทีมข่าวไปถึงพบว่า ไม่มีใครอยู่ภายในวัดเลย ต่อมาทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามพระธีรนนท์ ติกขปัญโญ เจ้าอาวาสวัดป่ารัตนธารา ซึ่งขณะนี้ป่วยรักษาตัวอยู่ที่กรุงเทพฯ เล่าให้ฟังว่า วัดป่าดังกล่าวตนเองได้มาจำวัดอยู่เมื่อ 3 ปีก่อน และเป็นคนเข้ามาสร้างพัฒนาวัดต่อจากเจ้าอาวาสรูปก่อน โดยขณะนี้มีพระจำที่วัดเพียงรูปเดียวคือตนเอง โดยวัดนี้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2527 เป็นวัดป่าสายกรรมฐาน เน้นปฎิบัติ ไม่เน้นลาภ สักการะ




และเมื่อ 28 เมษายน ที่ผ่านมา ก็เป็นวัดทอดผ้าป่าสามัคคีวัด ป้าติ๋ม ซึ่งได้เดินทางมาทำบุญที่วัดประมาณ 2-3 ครั้งแล้ว ได้มาร่วมนำผลไม้ และขนม มาแจกจ่ายให้กับคนที่ลำบากไม่มีกิน และถวายพระ โดยร่วมทำโรงทานกับเพื่อนอีกคน ตนเองพอเห็นจากข่าวแล้วว่า ป้าติ๋มได้รับมรดก 100 ล้านจากเจ้านาย ซึ่งตนเองก็ยินดีด้วย ป้าติ๋มเป็นคนงานทำบุญ ตนเองจำหน้าป้าได้ ก็เชื่อว่าสิ่งที่ป้าได้นั้นเกิดจากการกระทำของป้าล้วน ๆ หากป้าคิดดี ทำดี ก็จะมีเทวดามองเห็นและเชื่อว่าสิ่งที่ป้าได้รับเกิดจากการทำความดีทั้งสิ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญ




อย่างไรก็ตาม ในส่วนของศพของ นางแคทเธอรีน ซึ่งหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำศพของเธอมาเก็บไว้ที่โรงพยาบาลเกาะสมุย ล่าสุดเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้ให้รถรับส่งศพไปรับร่างของแหม่มแคทเธอรีน จากห้องเก็บศพของโรงพยาบาลเกาะสมุย นำไปส่งยังแผนกนิติเวชโรงพยาบาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อให้แพทย์ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุ ของการตายครั้งนี้อย่างละเอียดอีกครั้ง

 

2 คนไทยหุ้นส่วนบริษัทแหม่ม มีสิทธิ์แบ่งสมบัติ 100 ล้าน จากป้าติ๋ม