ผบ.เรือนจำกลางขอนแก่น ตั้งค่าหัว 50,000 บาทล่านายอาร์ต จำเลยคดียาเสพติด หลบหนีศาลขณะขึ้นรถเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ส่งตัวไปทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น

เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 25 เมษายน 2567ที่สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยถึงการสืบสวนหาตัวชายที่พา น.ช.รัชพล เขียนนอก นักโทษคดียาเสพติด หลบหนีการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจศาลและปีนประตูรั้วด้านข้างศาลหลบหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ที่มารอรับหลบหนีไป เมื่อช่วงเวลา 17.00 น. วันที่ 24 เม.ย.67 ที่ผ่านมา ว่า

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองขอนแก่น พบตัว นางสาวธีระดา อายุ 30 ปี ภรรยาของ น.ช.รัชพล ซึ่งยืนอยู่นอกรั้วศาลจังหวัดขอนแก่น จากนั้นเจ้าหน้าที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น ก็นำตัวไปสอบถามข้อมูล ทราบว่า ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีของสามี จึงมาดูสามีที่ศาล ขณะยืนมองอยู่ที่ริมรั้วนอกศาลจังหวัดขอนแก่น ก็เห็นนักโทษทยอยเดินขึ้นรถควบคุมของทัณฑสถานบำบัดพิเศษขอนแก่น แล้วก็เห็นสามีวิ่งหนีการควบคุมทั้งที่มีโซ่ตรวนจากศาล กระโดดข้ามรั้วของศาลมาซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของนายน็อต หรือนายพลังรัชร อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นเครือข่ายยาเสพติดของสามี ที่ติดเครื่องรออยู่ริมถนนเทพารักษ์ จากนั้นก็พากันขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป หลังการสอบถามข้อมูลก็ปล่อยตัวภรรยาของ น.ช.รัชพลไป

ในส่วนของนายน็อตนั้น จากการตรวจสอบประวัติไม่พบว่าเคยต้องคดีใด แต่ภรรยาของ น.ช.รัชพล ให้ข้อมูลว่า เป็นเครือข่ายยาเสพติดของสามี เพราะ น.ช.รัชพล มีเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น หลายคน เมื่อรับยาบ้ามาจากเอเย่นที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้าน เครือข่ายก็รับไปจำหน่าย นายน็อตจึงเป็นหนึ่งในเครือข่ายของ น.ช.รัชพล

จากการติดตามของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ทั้งสองคนยังอยู่ในพื้นที่ แต่ก็อาจจะหลบหนีไปอยู่กับเครือข่ายยาเสพติดที่ประเทศเพื่อนบ้านก็เป็นได้

ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวอีกว่า ในกรณีที่เกิดขึ้นนั้นกรมราชทัณฑ์เป็นผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ต้อมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ซึ่งก็มาแจ้งความเรียบร้อยแล้ว ในขณะเดียวกัน ผบ.เรือนจำกลางขอนแก่น ได้ตั้งรางวัลนำจับให้กับผู้ที่ให้ข้อมูลของนายน็อตและ น.ช.รัชพล จนสามารถจับกุมตัวได้ทั้งสองคน มาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ จำนวน 50,000 บาท

ในส่วนของนายน็อต ที่เป็นบุคคลที่พาน.ช.รัชพล หลบไปนั้น หากถูกจับกุมตัวจะถูกแจ้งข้อหา ช่วยเหลือผู้ต้องหา นักโทษ หรือจำเลยหลบหนี ส่วน น.ช.รัชพลนั้น นอกจากถูกดำเนินคดีเดิม ก็จะถูกแจ้งข้อหาเพิ่มในข้อหา หลบหนีระหว่างที่ถูกคุมขัง ซึ่งจะถูกดำเนินคดีเพิ่มจากคดีเดิม

ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทีมที่ติดตามสืบสวนหาตัวนายน็อตและ น.ช.รัชพล ให้ข้อมูลว่า สามารถติดต่อนายน็อตได้แล้ว จากการสอบถามทราบว่า น.ช.รัชพลเป็นลูกพี่ เป็นหัวหน้าทีมของเครือข่ายยาเสพติดพื้นที่ตำบลศิลา เมื่อลูกพี่ถูกจับ จึงต้องการช่วยเหลือ จึงได้เข้าเยี่ยมลูกพี่และนัดแนะกัน โดยจอดรถจักรยานยนต์รอที่ริมถนนเทพารักษ์ ให้ลูกพี่หนีออกจากศาลมาหาแล้วจะพาหนี ซึ่งเมื่อพาหนีได้ก็ขับขี่รถวนไปตามซอยต่างๆในเมืองขอนแก่น จนสามารถออกไปที่ถนนเลี่ยงเมืองได้ จากนั้นจ้างคนงัดโซ่ตรวนที่ขาออก แล้วพาลูกพี่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขึ้นรถโดยสารที่ บขส.3 ขอนแก่น ส่งลูกพี่ไปพบเครือข่ายจากประเทศเพื่อนบ้านที่จังหวัดเลย และเชื่อว่า น.ช.รัชพล ที่เป็นลูกพี่น่าจะข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านเรียบร้อยแล้ว