พ่อแท้ๆ ใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทงลูกชายเสียชีวิต หลังทะเลาะมีปากเสียงกัน ด้านผู้ต้องหา อ้าง ถูกลูกชายด่าคำหยาบคาย หลังจะเข้าไปดูเวลาในห้องลูกชาย

 

จากกรณีเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 19 เมษายน 2567 ร.ต.อ.ไชยวัฒน์ ขาวสุด รอง สว.สอบสวน สภ.เวฬุวัน นำตัวสังวาลย์ แสนสะท้าน อายุ 61 ปี มาสอบสวน หลังใช้อาวุธมีดทำครัวปลายแหลม ยาว 15 เซนติเมตร แทงใต้ราวนมหน้าอกด้านซ้ายนาย สุภชัย อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นลูกชายเสียชีวิต หลังมีปากเสียงกัน เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 18 เมษายน 2567 และได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาลเมื่อคืนที่ผ่านมา

 

ต่อมาตำรวจได้นำตัวนายสังวาลย์ แสนสะท้าน อายุ 61 ปี ผู้ต้องหามาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีทนายความร่วมสอบปากคำผู้ต้องหา

 

โดยในระหว่างที่สอบปากคำ ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายสังวาลย์ อ้างว่า ก่อนหน้านี้ตนไปมีครอบครัวใหม่อยู่ที่ จ.พิจิตร และพึ่งกลับมาอยู่กับลูกชายคนนี้ได้ไม่นาน โดยในวันแรกที่ตนกลับมาบ้าน ลูกได้มานั่งกินข้าวข้างๆ พร้อมกับกอดและร้องไห้ บอกว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้กินข้าวกับพ่อ” ตนและลูกจึงได้นั่งกอดกันร้องไห้ แต่หลังจากนั้นตนก็มีปากมีเสียงและทะเลาะกับลูกเรื่อยมา

 

จนมาถึงวันเกิดเหตุลูกชายนอนอยู่ในห้องนอน ตนกำลังจะเดินเข้าไปในห้องของลูกชาย เพื่อดูเวลาที่หน้าจอทีวี แต่ลูกชายกลับไม่พอใจและได้ตะโกนด่าตนเองว่า “มึงเข้ามาทำไม”

 

ตอนนั้นตนรู้สึกเสียใจและโมโห ที่ลูกมาพูดกับพ่อแบบนี้ จึงได้ถามกลับลูกไปว่า “ทำไมกูเข้ามาไม่ได้ ถ้ามึงไม่พอใจ มึงก็ย้ายออกไปเลย” หลังจากนั้นตนและลูกก็ได้โต้เถียงกัน

 

จนกระทั่งตนได้เดินออกมาจากห้องลูก แต่ลูกได้ถือท่อนเหล็กตามออกมา และพยายามจะเอาท่อนเหล็กมาตี แต่ตนได้เหลือบไปเห็นว่ามีมีดวางอยู่บริเวณฝาลังพลาสติก จึงได้ไปหยิบมีดแล้วเหวี่ยงไปที่ลูก 1 ครั้ง ซึ่งในตอนนั้นยังไม่ทันได้สังเกตว่ามีดแทงเข้าตรงไหนของลูก

 

แต่หลังจากนั้นลูกก็ได้เอามือจับที่บาดแผลและวิ่งออกนอกบ้านไป ซึ่งตนได้สังเกตเห็นว่ามีเลือดไหลออกมา แต่ก็ไม่รู้ว่าแผลที่แทงไปเข้าลึกหรือไม่ลึก

 

ยอมรับในตอนนั้นก็รู้สึกตกใจ แต่ก็ไม่ได้วิ่งไปดูหรือไปช่วยเพราะโมโห จนกระทั่งมาวันนี้ มารู้ว่าลูกเสียชีวิตก็รู้สึกดีใจมาก อยากจะเอาเท้าเหยียบหน้าด้วยซ้ำ เพราะที่ผ่านมาตนอดกลั้นมานาน

 

โดยคนก่อเหตุอ้างว่า ญาติเล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้ลูกชายเคยทำร้ายพ่อของตน (ปู่ของคนตาย) จนพ่อเขียวช้ำ ต้องออกไปร้องไห้ขอความช่วยเหลือบ้านญาติ และสุดท้ายกลับมาตายที่บ้าน

 

และตนก็เคยถูกลูกทำร้ายมาก่อนถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกโดนลูกเอาท่อนเหล็กฟาดหัวจนหัวแตก และครั้งที่ 2 ถูกลูกชายผลักล้มบนถนนจนหลังเป็นแผล

 

และคิดว่าที่ลูกมีอาการแปลกๆ พูดกับพ่อไม่ดีก็น่าจะเป็นเรื่องของยาเสพติด เพราะก่อนหน้านี้ลูกไม่เคยพูดจากับพ่อแบบนี้มาก่อนเลย

 

ยอมรับว่าหลังจากที่ตนกลับมาบ้าน ลูกก็เป็นคนหาเลี้ยงและดูแลมาโดยตลอด หลังจากนี้ลูกตายก็หากินเองได้ ไม่ได้เสียใจเลย หลังจากนี้ตนจะติดคุกสักกี่ปีก็ช่าง ไม่ได้รู้สึกเสียใจเลยขอให้ลูกคนนี้ตายก็พอ

 

ขณะเดียวกันเราได้รับภาพจากกล้องวงจรปิด อยู่ติดกับบ้านที่เกิดเหตุ พบว่า ในช่วงเวลา 11.54.58 น.ของวันที่ 18 เมษายน ช่วงเกิดเหตุ โดยกล้องวงจรปิดของบ้านหลังนี้สามารถจับภาพของนายสังวาลย์ผู้ต้องหาที่สวมใส่เสื้อสีดำ สวมกางเกง 5 ส่วนและในมือถืออาวุธไม้ 2 ท่อนเดินเข้ามาภายในบ้านหลังนี้พร้อมกับโทรศัพท์ ซึ่งถ้าตามคำให้การของนายสังวาลย์ คาดว่า โทรศัพท์หากู้ชีพ เพื่อขอความช่วยเหลือ

 

กล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ เวลา 11:55 น. ได้ยินเสียงของนายสังวาลย์ (ผู้ก่อเหตุ) และนายสุภชัย (ผู้ตาย) เริ่มมีปากเสียงกัน

 

โดยลักษณะการพูดคุยคือนายสังวาลย์โวยวาย และนายสุภชัยบอกว่า “นี่มันบ้านผมนะ” และนายสังวาลย์ได้ถามกลับว่า “บ้านหรอบ้านมึงอะ” นายสุภชัยตอบว่า “ใช่” นายสังวาลย์จึงตอบกลับอีกว่า “พ่อกูเป็นคนสร้างนะ”

 

นายสุภชัยจึงได้ตอบกลับว่า “พ่อไปถามใครก็ได้ว่านี่มันบ้านผม” นายสังวาลย์พูดต่ออีกว่า ”มึงไปถามคนอื่นซิ ว่ากูอยู่ได้ไหมบ้านหลังนี้“

 

จากนั้นมีเสียงในสุภชัยบอกว่า “หนี เอามีดหนี” ก่อนที่เสียงจะเงียบหายไป

 

กระทั่งเวลา 11:57:22 น. ได้ยินเสียงนายสุภชัยบอกว่า “หนี หนีไปไกลๆตีนกู”

 

และเสียงนายสังวาลย์ได้ตอบกลับอย่างเบา จากนั้นนายสุภชัยก็ได้พูดอีกว่า “มึงก็ดีแค่ตอนพูดลับหลังแหละ ไอ้ควาย

 

วงจรปิดเวลา 11:58:29 น. ได้ยินเสียงนายสุภชัย ที่วิ่งออกมาขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน บอกว่า “แม่ แจ้งตำรวจตำรวจให้หน่อย ผมถูกแทง”

 

กล้องวงจรปิดเวลา 11:59 น. ได้ยินเสียงชาวบ้าน ไล่นายสังวาลย์ให้ออกไป (ซึ่งจากคำบอกเล่าของชาวบ้านบอกว่าขณะนั้นนายสังวาลย์ได้ถือมีด เดินตามไปหาลูกอีก)

 

เวลา 12:00 น. ชาวบ้านเริ่มแตกตื่นและออกมาดูเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น และได้พากันช่วยโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

เวลา12:01 น. เห็นชาวบ้านวิ่งกลับมาบ้านด้วยอาการแตกตื่น หลังพบว่านายสุภชัยถูกแทงหมดสติ และได้รีบโทรเรียกเจ้าหน้าที่กู้ชีพ

 

เวลา 12:08 น. ชาวบ้านต่างพากันตื่นตกใจ และรีบพากันมาช่วยเหลือนายสุภชัยที่กำลังบาดเจ็บอยู่

 

เวลา 12:13 น. รถของเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ได้เข้ามายังจุดเกิดเหตุ และนำร่างผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายสังวาลย์ ผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บ้านหลังที่เกิดเหตุ โดยเจ้าตัวได้พาตำรวจไปชี้จุดแรกที่บริเวณกลางบ้าน ซึ่งเจ้าตัวให้การว่าเป็นจุดที่ผู้ต้องหานอน ส่วนจุดที่ 2 คือจุดห้องนอนของลูกชาย ที่นายสังวาลย์อ้างว่าเข้าไปดูนาฬิกาจนถูกลูกชายด่าและถูกลูกชายคว้าท่อนเหล็กจะมาตี จุดที่ 3 จุดที่นายสังวาลย์หยิบมีดปลายแหลมที่ลังพลาสติกมาแทงลูกชายและก็นำมีดไปซ่อนไว้ที่เดิม จุดที่ 4 จุดที่หน้าประตูห้องนอน ซึ่งเป็นจุดที่นายสังวาลย์อ้างว่าทะเลาะกันและได้เหลือบไปเห็นมีดปลายแหลมที่ลังพลาสติก ก่อนจะใช้มีดปลายแทงลูกชาย ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่นำตัวนายสังวาลมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพจะมีชาวบ้านและญาติเพียงแค่ไม่กี่คนที่มาดูงานทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

 

นอกจากนี้ขณะที่ทีมข่าวสำรวจบ้านที่เกิดเหตุ เราได้พบกับข้อความที่ถูกเขียนบนกระดานสีขาว พบว่า เป็นข้อความคติใจ ที่นายสุภชัยคนตาย ได้เขียนไว้เพื่อเตือนใจตัวเอง

 

โดยข้อความระบุว่า “ชีวิตไม่ได้อยู่ที่เดินทางมาไกลแค่ไหน แต่อยู่ที่ได้เรียนรู้อะไรระหว่างทาง“

 

อีกข้อความ ”จงใช้ชีวิตให้เหมือนดวงอาทิตย์ ถึงแม้มันจะตก แต่มันก็สามารถขึ้นใหม่ได้ในตอนเช้า“

 

“ โลกเราบางครั้ง .... สิ่งที่เราเห็น อาจไม่ใช่..สิ่งที่เป็นอยู่..ก็ได้“

 

“ธรรมชาติของสายตา จะมองไม่ให้ถึงใจคน .. แต่เวลาที่เราล้มลง ..เราจะได้เห็น..ใจคน..ชัดเจน“ ลายเซ็น Dong

 

โดยลักษณะกระดานที่เราสังเกต พบว่ามีสภาพฝุ่นจับซึ่งคาดว่านายสุภชัยคนตายคงจะเขียนไว้นานแล้ว

 

นอกจากนี้เรายังพบอีกข้อความที่นายสุภชัยเขียนไว้บนกระดาษไม้ ระบุว่า “ในโลกใบนี้สิ่งที่กลัวที่สุดคือเวลา เพราะเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามันจะพรากสิ่งสำคัญไปจากเราตอนไหน“ ซึ่งคาดว่าน่าจะเขียนในช่วงที่สูญเสียตาและยายไป

พ่อโหดทะเลาะลูก ปามีดปักชายโครง ลั่นดีใจที่ลูกตาย