ตำรวจไล่ล่า ผัวเก่าหึงโหด! แทงสาวเมืองคอน 5 แผล ทิ้งศพในพงหญ้าข้างทาง "แฟนหนุ่ม" เผยคนก่อเหตุชื่อ "บังติ๊บ"

เที่ยงคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รับแจ้งเหตุมีคนถูกแทงเสียชีวิตอยู่ในพงหญ้า ริมณถนนเลียบคลองแอล 1-2 ต.คลองสอง ที่เกิดเหตุพบศพนางสาวแอนนภา แสงใส อายุ 31 ปี ชาว อ.เชียรใหญ่ นครศรีธรรมราช ถูกแทงด้วยของมีคมบริเวณหัวเข่าซ้าย 1 แผล / ชายโครงซ้าย 1 แผล / ใต้ราวนมขวา 1แผล / กลางหลัง 2 แผล ห่างไปเล็กน้อยพบมีดปลายแหลมเปื้อนเลือด ตกอยู่ 1 เล่ม

นายธนัท วชิรญาณ์พุฒิพร ทีมงานเพจ "สายไหมต้องรอด" ซึ่งเป็นคนแจ้งตำรวจ และเป็นคนมาเจอศพ เล่าว่า รู้จักกันผู้ตายได้พักหนึ่งผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ โดยผู้ตายมีลูก 3 คน เพิ่งเลิกกับสามีที่ชื่อ "บังติ๊บ" เพราะจับได้ว่าฝ่ายชายนอกใจ แต่ยังไม่ได้จดทะเบียนหย่า พอฝ่ายชายรู้ว่าแอนนภา มีคนใหม่เข้ามาพูดคุย ก็ไม่พอใจ ทำร้ายร่างกาย ทุบทำลายข้าวของในห้องจนพัง

ล่าสุดวันที่ 11 เมษายน แอนนภา โทรไลน์มาขอความช่วยเหลือเพราะถูกทุบตี ตนจึงไปรับจาก อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา มาอยู่ที่บ้านพักที่คลองสาม ต.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โดยให้ช่วยดูแลแมวที่เลี้ยง หลังจากนั้นก็ไปทำงานที่ จ.ราชบุรี กลับมาบ้านอีกครั้งในวันที่ 16 เมษายน 67 และ วันที่ 17 เมษายน 67 แอนนภา บอกว่าจะกลับไปทำงานแล้ว ตนเลยขับรถไปส่งที่บ้านเพื่อนใน ต.พยอม อ.วังน้อย ตอน 20.00 น. เพราะเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ต่อมาเวลา 22.22 น. มีเบอร์แปลกโทรมา ทราบภายหลังว่าเป็นเบอร์ แอนนภา (ปกติคุยกันทางไลน์) ถามตนว่า "มึงอยากจะให้มันสั่งเสียอะไรมั้ย เดี๋ยวมันก็ตายแล้ว" ตนก็เลยรีบบอกว่า "มีอะไรก็มาเคลียร์กันตัวต่อตัว อย่าไปทำผู้หญิง นั่นคือแม่ของลูกมึงนะ"

หลังวางสาย ตนก็รีบขับรถไปที่ อ.วังน้อย พร้อมกับโทรแจ้งตำรวจ สภ.วังน้อย แจ้งพิกัดหอพักเพื่อนของแอนนภา แต่ตำรวจไปดูแล้วไม่เจอ จึงโทรกลับไปที่เบอร์ที่โทรมาหา ได้ยินเสียงแอนนภา ตะโกนเข้ามาว่า "พี่ช่วยด้วย ตอนนี้หนูอยู่แถวซอยแมนฮัตตัน" ตนก็รีบขับรถไปที่ซอยแมนฮัตตัน ในต.คลองสอง อ.คลองหลวงทันที จนกระทั่งเจอ "จยย.ฮอนด้าเวฟ" ของบังติ๊บจอดอยู่ข้างทาง นายธนัท ยืนยันว่า ผู้ชายที่วิ่งขึ้นมาจากพงหญ้า จุดที่พบศพแอนนภาก็คือ "บังติ๊บ" สามีเก่า ซึ่งทางตำรวจกำลังแกะรอย ไล่ล่า โดยไล่เช็กวงจรปิดรอบจุดเกิดเหตุเพื่อหาเส้นทางหลบหนี แต่ยังจับกุมไม่ได้

ทางด้าน ร.ต.อ.สิงหา สิงหาชาลี รองสว.(สอบสวน) สภ. คลองหลวง บันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ก่อนมอบศพให้ทางมูลนิธิฯนำส่งผ่าพิสูจน์ที่นิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป