สาวแสบปีนระเบียงทาวน์โฮมชิงสร้อยทองอาม่าวัย 83 ปี อ้างจำเป็นเพราะติดหนี้นอกระบบ และเล่นพนันออนไลน์

เวลา 13.00 น.วันที่ 17 เม.ย.67 ร.ต.อ.ปิยวัฒน์ มามะ รอง สว.(สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี รับแจ้งมีเหตุคนร้ายเข้าไปชิงทรัพย์ภายในบ้านพักหลังหนึ่ง ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี หลังรับแจ้งรีบไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.พ.ต.ท.ภาสกร ไชยทวีวงศ์ รอง ผกก.สส.เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนและสายตรวจ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้น พบนางชุลี อายุ 83 ปี ผู้เสียหาย ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ขณะกำลังนอนหลับอยู่ที่โซฟา ชั้นล่างได้มีคนร้ายเป็นผู้หญิงสวมเสื้อคลุมสีดำ ไม่รู้ว่าเข้ามาจากทางด้านไหน ใช้มีดคัตเตอร์ข่มขู่ให้ถอดสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท พร้อมร็อกเก็ตเลี่ยมทอง 1 อัน หลังก่อเหตุคนร้ายได้เดินหลบหนีออกไปทางหน้าบ้าน หลังเกิดเหตุตนได้โทรศัพท์แจ้งลูกสาวและตำรวจ

หลังเกิดเหตุตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของหมู่บ้าน พบคนร้ายเป็นผู้หญิงสวมเสื้อคลุมสีดำเดินออกจากหน้าบ้านของผู้เสียหาย ลักษณะตรงกับคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทที่อยู่ติดกับบ้านผู้เสียหายมาสอบสวน พร้อมกับกล้องวงจรปิดของบริษัทที่อยู่ติดกันยังสามารถบันทึกภาพของหญิงต้องสงสัย ปีนออกจากหน้าต่างชั้น 2 ไปและกลับได้อย่างชัดเจน

สอบสวนน.ส.มนัสนันท์ อายุ 23 ปี พนักงานบัญชี ให้การยอมรับสารภาพว่า เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุชิงทรัพย์จริง โดยตนปีนระเบียงชั้น 2 ด้านหลังของบริษัท ข้ามไประเบียงบ้านของผู้เสียหาย ซึ่งไม่ได้ล็อกหน้าต่างไว้ ก่อนจะลงไปชั้นล่าง เห็นอาม่า ผู้เสียหาย นอนหลับอยู่ จึงใช้มีดคัตเตอร์ที่เตรียมไปข่มขู่ ให้ถอดสร้อยคำทองคำหนัก 2 บาท พร้อมร็อกเก็ตเลี่ยมทอง หลังก่อเหตุได้ปีนกลับมาทางเดิม ก่อนที่ผู้เสียหายจะร้องขอความช่วยเหลือ ตนจึงเดินไปที่บ้านผู้เสียหายทำทีช่วยเหลือ แล้วนำทองไปขายที่ร้านทองภายในห้าง ย่านรัตนาธิเบศร์ ได้เงิน 65,000 บาท ส่วนร็อกเก็ต ตนไปปาทิ้งไปด้านหลังบ้าน ตำรวจยังค้นหาไม่พบ

ส่วนสาเหตุ น.ส.มนัสนันท์ รับสารภาพว่า เพราะติดการพนันออนไลน์ และเป็นหนี้จากการกู้ยืมเงินคนรู้จัก และหนี้นอกระบบ ต้องการหาเงินไปใช้หนี้ จึงลงมือก่อเหตุ อาศัยจังหวะผู้เสียหายอยู่บ้านเพียงคนเดียว

โดยถูกแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์ผู้อื่น โดยมีอาวุธมีด นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย