ป.ป.ช.ตรัง ตะลุยเกาะลิบง ตรวจสอบถนนเส้นทางไปแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง หลังจังหวัดตรังทุ่มงบกว่า 29 ล้าน สร้างถนนคอนกรีตระยะทาง 6 กิโลเมตร แล้วเสร็จเพียงแค่ 3 เดือนกลับพัง จนล่วงเลยมากว่า 1 ปีแล้วยังไม่มีการเข้าซ่อมแซม แถมใกล้จะหมดสัญญาประกันอีก 2 เดือน ชาวบ้านร้องแก้ไขด่วน ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ทำให้ทำนักท่องเทศไทย-เทศ และชาวบ้านเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ประชดทำแล้วพังไม่ต้องทำ เสียความรู้สึก เปลืองงบประมาณ
วันนี้ 31 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบัณฑิต คณะสุวรรณ์ ผอ.สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดตรัง มอบหมายให้ นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษฯ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ และเครือข่ายชมรมตรังต้านโกง ลงพื้นที่ตรวจสอบการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก สายระหว่างหมู่ที่ 1 แหลมโต๊ะชัย กับ สายทุ่งหญ้าคา หมู่ที่ 5 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง ภายหลังจากได้รับข้อมูลจากชาวบ้านในพื้นที่ รวมทั้งเพจชมรมตรังต้านโกงว่า ถนนพื้นคอนกรีตเป็นหลุมเป็นบ่อ ถนนหลุดร่อน หินหลุดร่อน มีทรายหลุดร่อนตลอดสาย และยังพบบางช่วงพังมีเหล็กโผล่ จนทำให้นักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมา รวมทั้งชาวบ้านประสบอุบัติเหตุลื่นล้มบ่อยครั้ง
จากการตรวจสอบป้ายโครงการ มีจังหวัดตรังเป็นเจ้าของโครงการ ในปีงบประมาณงบกลางประจำปี พ.ศ.2564 ใช้งบประมาณก่อสร้าง 28,497,864.00 บาท (ยี่สิบแปดล้านสี่แสนเก้าหมื่นเจ็ดพันแปดร้อยหกสิบสี่บาทถ้วน โดยเริ่มต้นรับประกันถนน วันที่ 27 พฤษภาคม 2565 และสิ้นสุดระยะรับประกัน วันที่ 28 พฤษภาคม 2567 หรืออีก 2 เดือนข้างหน้า แต่มีการสังเกตพบว่าป้ายโครงการที่ปรากฏอยู่นั้น ไม่ได้ปรากฏชื่อหน่วยงานที่รับผิดชอบโครงการ ไม่ปรากฏบริษัทผู้รับเหมาคู่สัญญา และระยะทางในการดำเนินการก่อสร้าง
โดยอีกข้อมูลเพิ่มเติมจาก “ชมรมตรังต้านโกง” เปิดเผยว่าโครงการดังกล่าวมีกรมโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดตรัง เป็นผู้รับผิดชอบ เลขที่โครงการ 64097738839 ก่อสร้างความยาว 6,120 เมตร ( 6 กิโลเมตร) หนา 0.15 เมตร ไหล่ทางกำหนดงานดินริมทาง งบประมาณก่อสร้างจำนวนเงิน 29,200,000.00 บาท ไหล่ทางกำหนดงานดินริมทาง คู่สัญญา กิจการร่วมค้า ล้อการสร้าง โดยวิธีการจัดหาแบบ คัดเลือกสถานะโครงการ ส่งงานครบถ้วน
ขณะที่ น.ส.ภิญญดา หรือจ๊ะมะลิ อายุ 53 ปี ชาวบ้าน ต.เกาะลิบง หนึ่งในผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน บอกว่า ถนนสายนี้เป็นเส้นทางที่ใช้ไปยัง “สะพานหิน” ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวไฮไลท์บนเกาะลิบง รวมไปถึงจุดชมวิวหาดทุ่งหญ้าคา ชมพระอาทิตย์ตก และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ แต่ละวันนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ จะใช้เส้นทางนี้สัญจรเยอะมาก ทั้งการขับรถจักรยานยนต์เช่าด้วยตัวเอง หรือนั่งรถพ่วงข้างสามล้อโดยสาร ในอดีตถนนสายนี้เป็นถนนลูกรังดินแดง
จนกระทั่งมีการเข้ามาก่อสร้างเป็นถนนคอนกรีต หลังจากก่อสร้างเสร็จได้เพียงแค่ระยะเวลาประมาณ 3 เดือน ถนนกลับเริ่มพังชำรุด และพังมาเรื่อยๆตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาหลังก่อสร้างเสร็จจนถึงขณะนี้ โดยสาเหตุน่าจะมาจากการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ รวมถึงชาวบ้านที่ใช้สัญจร เกิดอุบัติเหตุรถล้ม จนได้รับบาดเจ็บบ่อยครั้ง แม้กระทั้งชาวบ้านที่ใช้เส้นทางในการสัญจรกรีดยางพาราก็จะล้มรถกันบ่อย
อยากให้จังหวัดตรังที่เป็นเจ้าของโครงการ และ อบต.เกาะลิบง ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ เข้ามาดูแลความทุกข์สุขของพี่น้องประชาชน และเข้ามาทำให้ชาวบ้านหายจากความเดือดร้อนอย่างเร็วที่สุด ที่ผ่านมาทางจังหวัดก็ไม่ได้เข้ามาแถลงหรือเข้ามาแจ้งบอกกล่าวว่าจะทำยังไงต่อให้ชาวบ้านได้รับรู้ หรือจะเข้ามาดูแล้วแต่ไม่ได้บอกชาวบ้าน
“ถ้ามันลำบากขนาดนี้ กลับไปใช้ถนนดินแดงแบบเดิมจะดีกว่าไหม เพราะถ้ามีถนนคอนกรีตแล้วพัง ขับแล้วรถต้องล้มบาดเจ็บ ถ้าเป็นถนนดินแดงคงไม่เจ็บมากกว่าถนนนี้ แต่ถ้าพัฒนาแล้วทำแบบนี้ ก็ไม่ต้องทำเสียดีกว่า เสียความรู้สึก เปลืองงบประมาณ” น.ส.ภิญญดา เทพสิงห์ กล่าวทิ้งท้าย
ทางด้าน นายยุทธนา วิมลเมือง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการพิเศษฯ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดตรัง กล่าวว่า ได้ลงมาตรวจสอบทางกายภาพในเบื้องต้นก็ปรากฏข้อเท็จจริงตามที่ชาวบ้านให้ข้อมูล และยังพบว่าถนนสายนี้จากการดูทางกายภาพ ไม่มีคุณภาพ ไม่มีความปลอดภัยในการสัญจรของประชาชน และยังน่าจะไม่เป็นไปตามรูปแบบของรายการ อีกทั้งป้ายโครงการยังไม่ปรากฏข้อมูลชัดเจนว่าคู่สัญญาเป็นใคร ในเบื้องต้นจะประสานไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง คือ จังหวัดตรัง ว่าอยู่ในเงื่อนไขในการประกันชำรุดบกพร่องหรือไม่อย่างไร และก็ต้องเข้ามาดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อย เพื่อความปลอดภัยของผู้สัญจร และความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน. ข่าวคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป