จากกรณี นางโสภา อายุ 42 ปี นำใบบันทึกประจำวันและภาพวงจรปิด เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว หลังจากลูกชายตนเองถูกรถมอเตอร์ไซค์เฉี่ยวชนบนทางเท้า จนได้รับบาดเจ็บหน้ากระแทกกับพื้นอย่างแรง แก้มปูดบวมทั้ง 2 ข้าง แต่หลังเกิดเหตุคนขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับไม่มารับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลแต่อยางใด เหตุเกิดปากซอยลาดกระบัง 52/2 เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเวลา 19.20 น. วันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา วันนี้จึงเดินทางมาที่ สน.จรเข้น้อย เพื่อให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง

ทีมข่าวได้ภาพวงจรปิดของร้านตัดผมสามารถบันทึกตอนเกิดเหตุ จะเห็นตอนน้องกระโดดลงบนทางเท้า และมีรถมอเตอร์ไซค์ชนจนล้มลง จากนั้นทางแม่น้องเข้ามาดูร่องรอยบาดเจ็บ และมีคนในร้านเดินเข้ามาดู

ต่อมาคนที่ขี่รถชนได้ลงจากรถมอเตอร์ไซค์แล้วเดินย้อนมาดูเด็กว่าบาดเจ็บตรงไหนบ้าง ก่อนที่แม่จะอุ้มน้องมาในร้านตัดผมและคนในร้านก็ช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้น้อง ซึ่งคนก่อเหตุก็เดินตามมาด้วยและมีการพูดคุยกับผู้ปกครองก่อนจะเดินออกไปขึ้นรถและขี่ออกไป

และเมื่อทีมข่าวได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบว่า มีรถมอเตอร์ไซค์ที่มีพฤติกรรมขับรถบนทางเท้าด้วยความเร็วเหมือนเป็นเรื่องปกติ ทั้งที่มีป้ายเตือน ห้ามจอดหรือขับขี่ รถยนต์ รถจักรยานยนต์บนทางเท้า

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปพูดคุยกับ นางโสภา คุณแม่ของน้องวัย 6 ขวบ ที่โดนรถชนบนทางเท้า เผยว่า เมื่อวานตนและครอบครัวเดินทางพาน้องไปตัดผมที่ร้านประจำ และตัดเสร็จประมาณ ตอน 19.20 น. เมื่อทำไรกันเสร็จก็เดินออกจากร้านเพื่อกลับบ้าน

แต่ด้วยหน้าร้านสูงกว่าทางเท้า ลูกชายตนก็เลยกระโดดลงตามประสาเด็ก แต่อยู่ ๆ ก็มีรถมอเตอร์ไซค์ขี่มาด้วยความเร็วบนทางเท้าพอดี ทำให้แก้มลูกชายไปกระแทกกับกระจกรถและล้มลง เมื่อตนเห็นดังนั้นจึงเข้าไปดูลูก และรถคันดังกล่าวก็จอดลงมาดูเพียงไม่นาน ซึ่งคนขับเป็นชาวต่างชาติ เป็นคนแขก ตัวสูงใหญ่ ผิวดำ และเมื่อเขาให้เบอร์โทร. ไปก็รีบออกไปเลย แต่พอตนโทร. ไปหากลับมีการปฏิเสธว่าไม่ได้ทำ ตนจึงบอกว่าจะทำการแจ้งความ เขาก็เงียบไปและปิดเครื่องไปเลย

จนวันนี้โทร. กลับมาตอนประมาณ 15.00 น. โทร. มาสอบถามว่าลูกตนเป็นอย่างไรบ้าง ตนจึงให้ตำรวจคุยแทน และตอนนี้ยังไม่ได้มีการนัดไกล่เกลี่ย และยังไม่ได้รับการพูดคุยเรื่องค่าชดใช้ แต่ทางตำรวจก็ประเมินให้ประมาณ 5,000 บาท ซึ่งจริง ๆ อยากให้เขาเข้ามาพูดคุย มาสอบถามอาการน้อง ไม่ใช่มาเงียบหายแบบนี้ ถึงน้องจะแค่ช้ำแก้ม แต่เขาขับรถทางเท้าซึ่งมันก็ไม่ควร