อีซ้อ แฉ หนึ่งในแก๊งทรชน บุกปาระเบิดบ้านพยาน

ขณะที่เพจ อีซ้อขยี้ข่าว ได้ออกมาโพสต์ข้อความพร้อมภาพหนึ่งในแก๊งลูกตำรวจคดีป้าบัวผัน แฉถึงวีรกรรมว่า "สิน หนึ่งในทีมงานแก๊งป่วนเมืองอรัญฯ ที่อยากเป็นตำนานไว้เล่าให้รุ่นน้องฟัง ว่าครั้งหนึ่งเคยออกตัวแทนเพื่อนบุกไปปา‘เบิd หน้าบ้านพยานในคดีป้ากบ สิน เข้าออกโรงพักเหมือนเซเว่นฯ ชินกับการทำผิด สิน คิดว่าการเดินเส้นทางสู่มาเฟียนั้นต้องเริ่มต้นตั้งแต่การเป็นกุ๊ย ไต่เต้า ไปเรื่อย ๆ สิน มองว่าการถูกรวบแม่-โคตรคูล พร้อมลงสตอรี่ “รักนะตะเอง” เดี๋ยวเย็นก็ได้ปล่อยตัว เพราะสินคือ “เยาวชน”” ขณะที่ในภาพเจ้าตัวมีการเช็กอิน สถานีตำรวจภูธรคลองน้ำใส ด้วย



งานศพคืนสุดท้าย แม่แก๊งทรชนแอบมอบซอง

เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ทีมข่าวเดินทางไปที่สำนักสงฆ์วัดป่าหนองน้ำใส ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของป้าบัวผัน โดยคืนนี้เป็นคืนสวดอภิธรรมเป็นคืนสุดท้าย ก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันพรุ่งนี้ช่วงบ่าย โดยญาติได้มีการจัดเมรุ และมีการกางเต็นท์เตรียมรอรับแขก สำหรับการร่วมส่งป้าบัวผันเป็นครั้งสุดท้ายในวันพรุ่งนี้

นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้รับคลิปจากญาติของป้าบัวผัน ซึ่งเมื่อคืนนี้หลังเสร็จสวดอภิธรรมศพ ปรากฏว่า แม่ของนายเชน หนึ่งในแก๊งผู้ต้องหาเยาวชน 5 คน เดินทางมากราบขอโทษ และขออโหสิกรรมกับครอบครัวของป้าบัวผัน ซึ่งในคลิปจะมีช่วงที่ญาติมีการพูดคุยกัน โดยแม่ของนายเชนได้พยายามขอโทษ กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับทางครอบครัว และขออโหสิกรรมและในคลิปจะมีช่วงหนึ่งที่แม่ของนายเชน เอื้อมมือไปจับเข่าของพี่สาวป้าบัวผันและมีท่าทีเสียใจ ก่อนที่จะมีการมอบซองขาวซึ่งด้านในมีเงินจำนวน 10,000 บาท

โดยทางด้านของพี่สาวป้าบัวผัน ไม่รับหากจะเอามาจ่ายช่วยเหลือ แต่ถ้าหากเป็นเงินทำบุญก็จะยอมรับเงินจำนวนดังกล่าวดังกล่าว ซึ่งตัวแม่ของนายเชนได้ยืนยันว่าเป็นเงินช่วยทำบุญ ครอบครัวของป้าบัวผันจึงรับเอาไว้ และยังได้มีซองของครอบครัวนายกั๊ด ยังมีการฝากซองผ่านแม่ของนายเชนเพื่อร่วมทำบุญอีกจำนวน 5,000 บาท

ขณะที่ทางสถานพินิจและคุ้มครองเด็กจังหวัดสระแก้ว เตรียมส่งตัวเด็กที่กระทำผิด 2 ใน 5 คน ที่เพิ่งสอบสวนเสร็จ ไปควบคุมตัวที่สถานพินิจจังหวัดระยองในช่วงสายของวันนี้ โดยเยาวชนอีก 3 คน ได้ถูกแยกส่งตัวไปไว้ที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กจังหวัดจันทบุรี ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว และยังไม่มีการประกันตัวแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงเช้าที่ผ่านมา ก่อนมีการนำตัวเยาวชนที่ก่อเหตุ 2 ราย ส่งไปควบคุมตัวที่สถานพินิจและคุ้มครองเด็กจังหวัดระยองนั้น คณะกรรมการสถานพินิจฯ ได้เข้าร่วมรับฟังและพูดคุยเพื่อสังเกตการณ์เยาวชนที่กระทำผิดดังกล่าว เพื่อมาประเมินปัญหาในอนาคต โดยช่วงระหว่างการสนทนาเด็กและเยาวชนกลุ่มนี้ให้ข้อมูลถึงสาเหตุที่ทำไป และอยากกลับบ้าน และอยากจะบอกขอโทษกับสังคม โดยมี นายสุรพง ธรรมะวรางกูร ประธานคณะกรรมการสถานพินิจและคุ้มครองเด็กจังหวัดสระแก้ว รวมพูดคุยกับเด็กดังกล่าว

นอกจากนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ที่สำนักสงฆ์บ้านหนองน้ำใส ตำบลหนองน้ำใส อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของป้าบัวผัน ได้มีนายอัมรินทร์ ยี่เฮง ตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชน เดินทางไปเป็นตัวแทนของผู้ปกครองเยาวชนที่เป็นตำรวจ 2 ราย เพื่อมอบเงินเยียวยาเบื้องต้นในการช่วยงานศพในครั้งนี้ด้วย

นายอัมรินทร์ กล่าวอีกว่า ผมในฐานะเลขาธิการเครือข่ายภาคประชาชน จังหวัดสระแก้ว ได้รับประสานงานจากครอบครัวของกลุ่มเยาวชนที่ก่อเหตุ ตามที่เป็นข่าว โดยบิดา ของนายเชนและครอบครัวของนายกั๊ด 2 เยาวชน เพื่อให้เข้าไปมอบเงินทำบุญ ในเบื้องต้นแล้วก็เพื่อเป็นการยืนยันกับครอบครัวของผู้เสียหายหรือปรากฏว่า ทั้งครอบครัวของกลุ่มเยาวชนดังกล่าวนั้นยืนยันว่า จะให้กลุ่มเยาวชนที่ก่อเหตุนั้นได้ รับโทษทัณฑ์โดยไม่มีการประกันตัว และ ในเบื้องต้นได้มอบเงินให้จำนวน 10,000 บาทของครอบครัวนายเชนและ 5,000 บาทของครอบครัวนายกั๊ด ได้พบปะพูดคุยกับพี่สาวของป้ากบ ผมเองในคณะเครือข่ายภาคประชาชน จังหวัดสระแก้ว ซึ่งติดตามคดีนี้มาตั้งแต่เริ่มต้น และมองเห็นถึงความรับผิดชอบของบุคคลในฐานะความเป็นพ่อแต่ไม่เห็นด้วยกับ กฎระเบียบขององค์กรซึ่งเป็นการ จำกัดสิทธิ์ ในการที่จะออกมารับผิดชอบ ด้วยระเบียบของผู้บังคับบัญชา

"ที่สำคัญวันนี้ เรากำลัง ถูก Social Media ทำลาย องค์กร และทำลายครอบครัว ของผู้กองเหตุรวมไปถึง มีการหาประโยชน์ ซึ่ง ในกระบวนการต้นทางของกฎหมายนั้นจำเป็นที่จะต้องรักษาไว้แต่บุคลากรในองค์กร ต้องแยกแยะ ว่าเรื่องใดเป็นเรื่องส่วนตัวเรื่องใดเป็นเรื่องในองค์กรวันนี้ ทั้ง สื่อ และสังคมในโซเชียลมีเดีย ต่างก็ทำหน้าที่ในการนำเสนอข่าว แต่แน่นอนเหรียญย่อมมี 2 ด้านก็มีทั้งผลดีและผลเสีย คนที่ได้ประโยชน์และคนที่เสียประโยชน์มี จนบางครั้งเลยเถิด และอาจจะเกิดเหตุโศกนาฏกรรมอีก ก็ได้แต่ต้องฝากกับสังคมและผู้เสพสื่อโซเชียลมีเดียด้วยว่า ห่วงใยกันจริงหรือเปล่า หรือว่าเป็นเพียงแค่กระแส หรือมีอะไรแอบแฝง ในการปั่นกระแสต่าง ๆ หรือไม่

วันนี้ผมผ่านจุดเหล่านั้นต้องถามสังคมว่าไอ้สิ่งที่ผมพบเจอ ซึ่งผมก็เพียรเฝ้าถามสังคมตลอดนะครับว่า บ้านผมแล้วก็ผมเนี่ย ถูกลอบยิง 4 ครั้ง และถูก คุกคามด้วยกันสาดสีและปาขวด แต่กลับไม่เห็น มีสื่อโซเชียลมีเดีย ช่วยกันกระพือแบบนี้บ้างเลย ไม่ได้เรียกร้องครับ แต่อยากจะให้เห็นว่า อย่าอาศัยสถานการณ์แบบนี้ ทำร้ายคนเลยครับ ในเรื่องคดีความก็มีการนำตัวของผู้ต้องหาผู้ก่อเหตุเข้าสู่กระบวนการนั้นเยาวชนทั้ง 5 คนตอนนี้ 2 คนเนี่ยแยกไปอยู่ระยองส่วนอีก 3 คนเนี่ยไปจันทบุรี ก็ต้องรับกรรมและยอมรับในสิ่งที่ก่อขึ้น และครอบครัวเอง ก็ทราบดีว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมันค่อนข้างที่จะเลวร้ายและร้ายแรงมากสังคมรับไม่ได้ ครอบครัวก็รับไม่ได้เช่นกัน ในเมื่อบุตรหลานหรือลูกของตนเองได้กระทำการดังกล่าวก็ ต้องยอมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น และเหตุการณ์ดังกล่าวก็ไม่ มีใครอยากให้เกิดขึ้น ส่วนการทำหน้าที่ของผู้ปกครองบิดามารดาของกลุ่มเยาวชนนั้นผมต้องขอตำหนิ คำสั่งของผู้บังคับบัญชาจนเป็นการปิดกั้น และเสมือนเป็นการทำร้ายองค์กรทางอ้อม ทั้ง ๆ ที่ควรจะแยกกันในฐานะของความ เป็นประชาชนและความเป็นพ่อที่ต้องออกมายืดอกรับ และออกมาชี้แจงต่อสังคม เพื่อที่จะให้สังคมรับทราบไม่ใช่เงียบ อยู่แบบนี้โดยเฉพาะกฎระเบียบ" นายอัมรินทร์ ระบุ



เปิดผลชันสูตรป้าบัวผัน ถูกทำร้ายอย่างรุนแรง

วันนี้ทีมข่าวรายงานว่า ผลชันสูตรศพป้าบัวผัน โดยคุณหมอระบุสาเหตุการตายจากเลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองร่วมกับภาวะอกรวน กะโหลกศีรษะแตกและบิ่น ขมับซ้ายมีแผลฉีกขาดยาว 5 ซม. ลึกถึงกะโหลก หน้าผากด้านซ้ายมีแผลฉีกขาดยาว 15 ซม. ลึกถึงกะโหลก ซี่โครงซี่ที่ 3-7 หักหลายท่อน ลมรั่วในช่องอก

โซเชียลแห่แชร์คลิป คิดถึงบัวผัน น่ารัก ไร้พิษภัย

มีรายงานว่าในโลกโซเชียล โดยผู้ใช้ TikTok : noomaszii ได้โพสต์คลิปเมื่อครั้งป้าบัวผันยังมีชีวิตอยู่ พร้อมข้อความอาลัยว่า "ยิ่งดูคลิปยิ่งสงสารป้าแก เรากับแฟนชอบเอาของไปให้แกประจำเลย แกเป็นคนน่ารักคนหนึ่งเลยนะ เอาอะไรให้ก็ยกมือไหว้ตลอด ทำไมเด็กพวกนั้นถึงใจร้ายกับแกจัง #ขอความยุติธรรมให้ป้าด้วยนะคะ"



แม่แก๊งทรชนขอโทษแทนลูก ขมาญาติบัวผัน

จากกรณีที่แม่ของ ด.ช.เชน หนึ่งใน 5 เยาวชนที่ร่วมก่อเหตุคดีป้าบังผัน ได้ให้สัมภาษณ์ในรายการโหนกระแส ว่า "ข่าวที่ออกมาว่าหนูและพ่อของเชนพาลูกชายหนี หนูอยากบอกว่า คนเป็นแม่ของคนที่กระทำความผิด หลังจากเรารู้เรื่องก็ได้เดินทางกลับมานำลูกชายไปมอบตัวที่ สภ.อรัญฯ เพื่อให้เขาได้ไปสอบปากคำกับตำรวจตั้งแต่ 2 ทุ่ม คืนวันที่ 12 ม.ค. ลากยาวจนถึงตี 3 กว่าเราจะได้กลับ"

"ตั้งแต่เกิดเรื่องหนูไม่เคยออกมาปกป้องเด็ก หรือพยายามช่วยให้เด็กพ้นผิด ตรงนี้ไม่มีเลย เราคุยกับพ่อเชนว่า ผิดก็ต้องว่าไปตามผิด เราไม่ได้ปกป้องลูก แต่เราไม่รู้ว่าลูกทำอะไรมาบ้าง พอวันที่เรารู้เรื่องก็ให้เขาได้รับผลกรรมไปเลย หนูไม่เคยช่วยหรือถ้าใครไปเห็นว่าพ่อแม่เชนไปวิ่งเต้นตรงไหน ไปปรึกษาทนาย ให้เอาหลักฐานตรงนั้นมาโจมตีได้เลย"

"เชนจะไม่ค่อยพูด เหมือนมีโลกส่วนตัวของเขา เพราะเป็นเด็กผู้ชายด้วย โดยเชนไม่ได้อยู่กับพ่อ ส่วนใหญ่จะอยู่กับแม่ซึ่งเป็นผู้หญิง ก็จะมีบ่นมีอะไรบ้าง ก็เหมือนกับเขาไม่มีเพื่อนอยู่ในวัยเดียวกัน ซึ่งเวลาอยู่กับพ่อแม่ เชนก็จะนิ่ง ๆ เฉย ๆ ไม่ได้ออกอาการอะไรมาก ไม่พูด ไม่มีอะไร"