ผู้การแต้ม แจ้งหมิ่นประมาท 2 ยูทูบเบอร์ปากแจ๋ว FC ลุงพลป้าแต๋น ไลฟ์สดขอโทษก็ไม่มีประโยชน์

9 ม.ค. 67 พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ หรือ ผู้การแต้ม อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นำเอกสารหลักฐานการถอดเทปคำกล่าวพาดพิงของบุคคลที่จะแจ้งความ มายื่นให้กับตำรวจที่ สน.ดอนเมือง

โดย พล.ต.ต.วิชัย บอกว่า วันนี้จะมาแจ้งความดำเนินคดี ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กับ นายธนัน ยูทูบเบอร์ FC ลุงพลป้าแต๋น และ แอดมินยูทูบเบอร์ นามปากกา “นางฟ้า” โดยพฤติการณ์ ทั่ง 2 คน มีการพูดต่อว่า ว่า ชั่ว เลว ถึงองค์กรตำรวจ ผ่านการไลฟ์สดของตัวเอง และแม้จะมีการขอโทษผ่านไลฟ์สดไปแล้ว แต่พล.ต.ต วิชัย มองว่า เป็นการยอมรับว่ามีการกระทำผิดจริง ด่าตนเองจริง จึงถือเป็นหลักฐานที่นำไปมัดตัวได้

พล.ต.ต. วิชัย โต้แย้งไปว่าที่ผ่านมาตลอดชีวิตข้าราชการตำรวจกว่า 40 ปี ตนเองได้รับรางวัลมากมายทั้งรางวัลต้นแบบตำรวจราชการตำรวจดีเด่นของรัฐบาล และการที่ มาด่าทอว่าตนเองชั่วนั้นถือเป็นการกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริงอีกทั้งตนเองเป็นอาจารย์ต้องไปสอนหนังสือเป็นการลดความน่าเชื่อถือ สร้างความเสียหายให้กับตนเองทำให้เรื่องดังกล่าวไม่สามารถยอมความได้จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดแม้ว่าหากบุคคลที่ตนเองแจ้งความจะมาขอโทษหรือติดต่อมาเจรจาก็จะไม่ยอมความ จะไม่รับกระเช้าโดยเด็ดขาดแต่จะให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้รับการประสานเข้ามา

และยังบอกอีกว่าที่ผ่านมาที่ตนเอง ไปวิเคราะห์คดีที่เกี่ยวข้องกับลุงพลป้าแต๋นและน้องชมพู่ตนวิเคราะห์ตามข้อเท็จจริงภายหลังมีการคำพิพากษาของศาล ไม่ได้เป็นการพูดลอยๆหรือวิเคราะห์เองแต่ต่างจากพฤติกรรมของคู่กรณีที่มากล่าวหาลอยๆ และการที่ตนเองมาแจ้งความจะไม่กดดันการทำงานของตำรวจจะแจ้งความตามขบวนการปกติ ไม่กดดัน และอยากให้กรณีของตนเป็นตัวอย่างในสังคมให้กับกลุ่มยูทูบเบอร์ที่อยากจะด่าผ่านโซเชียลโดยไม่มีมูลและจะมาขอโทษภายหลังนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ส่วนเงินที่จะเรียกค่าเสียหายนั้น เบื้องต้นยังไม่ได้คิดว่าจะเรียกเท่าไหร่หรือจะเรียกหรือไม่ แต่หากเรียกได้จะนำเงินทั้งหมดไปบริจาคให้ผู้พิการทางสมอง

ส่วนหลักฐานต่างๆตนยอมรับว่าพล.ต.ท.เรวัต กลิ่นเกษร อดีต ผบช.ปส. เป็นคนนำหลักฐานมาให้ผมและส่งลิ้งค์ต่างๆมาให้ตนเพราะส่วนตัวแล้วตนเองไม่ได้เล่นโซเชียล

อย่างไรก็ตามพล.ต.ต. วิชัย เคยแจ้งความคดีหมิ่นประมาทโดยการโฆษณามาแล้ว 1 คนคือนายอนุชิตก่อนหน้านี้ หากรวมครั้งนี้อีก 2 คน จะรวมเป็น 3 คนในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา