กรณีเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 4 มกราคม 2567 ตำรวจ สภ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านหลังหนึ่ง ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้น จุดเกิดเหตุเป็นส่วนชั้นล่างของบ้านมีสภาพรก ภายในบ้านพบศพจำนวนสองศพเป็นสามีภรรยา ในสภาพนอนขึ้นอืดทั้งสองศพ เริ่มส่งกลิ่น แพทย์สันนิฐานเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 48 ชั่วโมง ทราบชื่อ นายสามารถ อายุ 46 ปี และ นางวรรณชุลี อายุ 40 ปี ทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน นั้น
วันนี้ (5 ม.ค.) ทีมข่าวช่อง 8 ลงพื้นที่ไปยังบ้านที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านไม้สองชั้น โดยหลังจากที่พบศพสองผัวเมียนอนเสียชีวิต ญาติได้มีการเคลื่อนย้ายศพออกจากบ้านหลังดังกล่าวและส่งชันสูตร จากนั้นได้มีการส่งศพของทั้งคู่แยกตั้งสวดอภิธรรม โดยศพของนายสามารถ สามี ตั้งสวดอภิธรรมอยู่ที่ วัดโฆษิตาราม ในพื้นที่ตำบลน้ำตาล แต่ส่วนร่างของนางวรรณชุลี ญาติฝั่งเมียได้มีการรับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดโพกรวม โดยได้มีการรับร่างมาและเผาทันทีไม่ได้มีการตั้งสวดอภิธรรม
ทีมข่าวได้รับภาพจากกล้องวงจรปิดเบาะแสสุดท้าย ซึ่งมีภาพจากกล้องวงจรปิดช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ของวันที่ 2 ม.ค. โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพสองผัวเมียขับรถมอเตอร์ไซค์กลับจากทำงานรับจ้าง ขับรถกลับบ้าน ซึ่งเป็นเบาะแสสุดท้ายที่มีภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพทั้งคู่เอาไว้ได้ก่อนที่จะพบเป็นศพ
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางน้อย (นามสมมติ) เพื่อนบ้านของคนตาย เผยว่า โดยปกติแล้วตนเองก็จะเจอกับสองผัวเมียเข้าออกบ้านและทักทายกันเป็นประจำ แต่ก่อนที่จะพบเป็นศพพบว่าเก็บตัวเงียบ ตอนแรกก็เข้าใจว่าอยู่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหน จนกระทั่งมีญาติไปตะโกนเรียกและไม่เปิดประตูออกมา เข้าไปดูปรากฏว่าทั้งคู่นอนเสียชีวิตอยู่ในบ้าน
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเชื่อว่าอาจไม่ใช่เรื่องของการทำร้ายกัน หรือมีใครเข้าไปทำร้าย อาจเป็นเพราะทั้งคู่ซดเหล้าหนักเกินไป จึงทำให้น๊อกและตายคู่ไปพร้อมกัน
และสำหรับชีวิตของทั้งคู่อาศัยอยู่ด้วยกันเพียงลำพังไม่ได้มีลูกหลาน จึงทำให้ไม่มีใครรู้ว่านอนเสียชีวิตอยู่ในบ้าน แต่เวลาทั้งคู่เมาก็จะมีปากเสียงกันบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่เคยเห็นถึงขั้นลงไม้ลงมือเลือดตกยางออก จึงเข้าใจว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้มีใครทำร้ายกันและกันแต่อาจจะตายเพราะเหล้า
สำหรับตัวของฝ่ายหญิง เป็นคนที่ติดเหล้าหนักกว่าฝ่ายชาย แต่ก็ไม่ได้หนีห่างกันมาก เพราะเวลาเมาก็ซื้อเหล้ามากินด้วยกันเป็นประจำ แต่ผู้หญิงเวลาเมามักจะขาดสติ ก่อนถึงขั้นเดินตกลงไปในคลอง โชคดีที่ได้รับบาดเจ็บ ไม่ถึงกับจมน้ำเสียชีวิต
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้เดินทางไปอีกตำบลหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านของนางวรรชุลี ฝ่ายหญิง คนตาย โดยพบว่าทางฝั่งของฝ่ายหญิงไม่ได้มีการตั้งสวดอภิธรรม หลังจากที่รับศพมาเมื่อเช้าก็ได้มีการฌาปนกิจไปทันที โดยญาติจะมีการเก็บกระดูกในวันพรุ่งนี้เช้าแล้วทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ภายหลัง
ทีมข่าวได้เจอกับนางสาววิมลวรรณ พี่สาวของฝ่ายหญิงคนตาย (พี่สาวฝั่งเมีย) เผยว่า ตนเองเจอกับน้องสาวครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงวันที่ 28 ธ.ค. เมื่อปลายปีที่แล้ว เจ้าตัวมาขอเงินกินเหล้า จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก จนกระทั่งเมื่อวานนี้มีคนโทรมาบอกว่าน้องสาวนอนตายอยู่ในบ้านพร้อมกับนายสามารถ ส่วนตัวก็ตกใจเพราะไม่คิดว่าต้องคู่ตายคู่พร้อมกัน
โดยวันนี้ได้มีการเดินทางไปรับศพออกจากนิติเวชและนำร่างกลับมาฌาปนกิจศพทันที ไม่ได้มีการตั้งสวดอภิธรรม และผลชันสูตรการตายของทั้งคู่ ระบุว่า “เกิดจากหัวใจล้มเหลวฉับพลัน” ซึ่งแพทย์ให้เหตุผลว่าอาจเป็นเพราะมีการดื่มเหล้าหนัก ประกอบกับช่วงที่เสียชีวิตอาจจะมีอากาศหนาว จึงทำให้หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน
แต่สำหรับที่ผ่านมายอมรับว่าตัวของน้องสาวเป็นคนที่ดื่มเหล้าหนักและเวลาดื่มก็ขาดสติ ถึงขั้นเดินตกน้ำตกท่า บางครั้งเมาที่ไหนก็นอนที่นั่น นอนกลางทุ่งนาหรือตามศาลาก็เคยทำมาแล้ว ส่วนตัวก็เคยอยากจะ ให้น้องสาวเลิกแต่ก็ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะกินถึงขั้นตายแบบนี้ และการตายส่วนตัวก็ไม่ได้ติด เพราะเข้าใจว่าผลชันสูตรออกมาชัดเจนแล้ว ไม่ได้มีใครทำร้ายหรือทั้งคู่ทำร้ายกันเอง จึงไม่ได้ติดใจอะไร