จากเหตุการณ์ที่ นายอาทิตย์ อายุ 18 ปี พนักงานไรเดอร์ ถูกกลุ่มวัยรุ่นประมาณห้าถึงหกคน ขับรถจักรยานยนต์พุ่งชน ก่อนจะใช้มีดรุมทำร้าย ทั้งฟันและแทงจนเสียชีวิต ที่บริเวณกลางซอยรัชดาภิเษก 36 (เสือใหญ่) แยก 9 ช่วงเช้ามืดวันที่ 29 ธ.ค. ที่ผ่านมา สภาพศพสวมเสื้อยืดแขนสั้น สีขาว กางเกงยีนต์ขายาว สีดำ ใส่เข็มขัดสลักชื่อสถาบันอาชีวะ ย่านมีนบุรี พร้อมตราสัญญาลักษณ์ มีบาดแผลถูกของมีคมฟันศีรษะ 3 แผล และแทงตามร่างกาย 4 แผล ในกระเป๋าหนังคาดเอวพบลูกปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 2 ลูก และชิ้นส่วนประกับปืน ไม่พบอาวุธปืน คาดคนร้ายเอาไปหลังก่อเหตุหรือไม่มีปืน ใกล้กันพบรถ จยย. ของผู้เสียชีวิตถูกชนล้มคว่ำพังเสียหาย

ขณะที่ทีมข่าวได้จากภาพกล้องวงจรปิดนาทีเกิดเหตุ โดยกล้องตัวที่ 1 จะเห็นได้ว่า ผู้ตายและวัยรุ่นผู้ก่อเหตุ ขี่รถจักรยานยนต์ ไล่กวดกันมา 2 คัน จากถนนลาดพร้าววังหิน มุ่งหน้าสู่ซอยรัชดา 36 ( นาทีที่ 1.38 ) ก่อนจะมาสู่ กล้องวงจรปิดตัวที่ 2 ซึ่งเป็นจุดที่ คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์ PCX สีขาว ผ่านจุดเกิดเหตุไปก่อนวนรถกลับมาอีกครั้งเพื่อที่จะมาก่อเหตุ



กล้องวงจรปิดตัวที่ 3 จะเห็นว่ามีกลุ่มคนร้ายผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ 2 คันเพื่อมุ่งหน้าไปจุดเกิดเหตุ และกล้องวงจรปิดตัวที่ 4 บันทึกภาพได้จากบ้านตรงจุดเกิดเหตุ จะเห็นว่ามีวัยรุ่นผู้ก่อเหตุตะโกนด่าทอและท้าทายผู้ตาย ก่อนจะขับรถชนและ ลงมากระทืบซ้ำ ซึ่งระหว่างที่กระทืบอยู่นั้นก็ได้มีการตะโกนด่าอยู่ตลอดเวลา ก่อนจะหลบหนีไปจากนั้นก็ได้มีพลเมืองดีวิ่งเข้ามาช่วยและพยายามเรียกผู้ตายให้รู้สึกตัว

ส่วนกล้องวงจรปิดตัวที่ 5 จับภาพได้ขนาดที่กลุ่มผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี โดยใช้เส้นทางซอยรัชดาภิเษก 36 เพื่อมุ่งหน้า ถนนลาดพร้าววังหิน ซึ่งในภาพกล้องวงจรปิดจะเห็นว่าผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ 5 คัน ขับผ่านกล้องไปโดยรถ PCX คันก่อเหตุ เป็นคันสุดท้าย และวงจรปิดตัวที่ 6 จับภาพได้ขณะที่หลังจากตำรวจรับแจ้งแล้วก็เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ

ขณะที่ทีมข่าวได้พบกับ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 20 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์และพยายามเข้าไปช่วยเหลือผู้เสียชีวิต เล่าว่า ระหว่างที่ตนเองขายของอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงดังคล้ายกับรถชนกันจึงได้วิ่งออกไปดู และได้เห็นผู้ก่อเหตุที่ขับรถจักรยานยนต์มา 2 คัน จำนวนสี่คน และมีรถจักรยานยนต์ในกลุ่มของผู้ก่อเหตุหนึ่งคันได้ขับขี่พุ่งชน รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตล้มลง

จากนั้นคนซ้อนฝ่ายผู้ก่อเหตุคันที่ขับรถพุ่งชน ได้ลงมาใช้อาวุธมีดกระหน่ำแทงไปตามลำตัวและที่ศีรษะ ก่อนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุที่ขี่จักรยานยนต์มาอีกคันหนึ่ง จะลงกันไปช่วยกระทืบและเตะไปที่ผู้เสียชีวิตจนแน่นิ่ง

ตนเองจึงพยายามตะโกนร้องขอเพื่อจะห้ามเพราะสงสารผู้เสียชีวิต แต่ผู้ก่อเหตุไม่ฟัง ก่อนที่ตนเองจะตัดสินใจตะโกนว่าตำรวจมา ผู้ก่อเหตุจึงรีบหลบหนีออกไป

ตนเองจึงได้เดินเข้าไปดูพยายามจะช่วยเหลือผู้ที่ถูกทำร้ายแต่เห็นสภาพแล้วเข้าใจว่าไม่น่ารอดเพราะมีเลือดออกเป็นจำนวนมาก ใบหน้าซีดและนอนแน่นิ่งจึงตัดสินใจแจ้งตำรวจเพื่อเข้ามาตรวจสอบ จนกระทั่งในเวลาต่อมาผู้ที่ถูกทำร้ายได้เสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ ซึ่งตนเองไม่ได้เห็นใบหน้าในกลุ่มผู้ก่อเหตุเพราะมีการแต่งตัวอย่างมิดชิด ใส่หมวกกันน็อก ปิดบังใบหน้าทุกคน ส่วนผู้เสียชีวิตตนเองไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่ทราบว่ามีเพื่อนอยู่ใกล้บริเวณในจุดที่เกิดเหตุนี้



วันนี้ครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาติดต่อขอรับศพที่สถาบันนิติเวชวิทยา ซึ่งทันทีที่แม่ของผู้เสียชีวิตเดินทางมาถึง ก็ได้ร้องไห้ออกมาตลอดเวลา ตั้งแต่ขั้นตอนการเซ็นเอกสารรับศพไปจนถึงการนำศพออกไปทำพิธีบำเพ็ญกุศล

ขณะที่ผลชันสูตรจากแพทย์นิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ระบุสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากขั้วหัวใจฉีกขาด ปอดฉีกขาด จากวัตถุแข็งมีคม

ด้านเพื่อนของผู้เสียชีวิต เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนกับเพื่อนมักจะมานั่งรอกดงานรับออร์เดอร์ที่ร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ ตั้งแต่เที่ยงวันไปจนนถึงเที่ยงคืน เป็นแบบนี้ทุกวัน ที่บริเวณในซอยที่เกิดเหตุ และเมื่อประมาณตี 3 ครึ่ง ก็ได้แยกย้ายกันกลับบ้าน ซึ่งเพื่อนก็ได้บอกกับตนว่า "ถ้ามีอะไรไม่ต้องโทร. มานะ กูไปแล้ว" ตนก็ไม่คิดว่าน่าจะเป็นคำพูดสุดท้ายของเพื่อน

นอกจากนี้ เพื่อนของผู้เสียชีวิตยังบอกอีกว่า เมื่อช่วงประมาณกลางเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา เพื่อนของตนเคยมีเรื่องบาดหมางกับกลุ่มคู่อริกลุ่มหนึ่ง และเคยถูกยิงบาดเจ็บที่แขนขวา เมื่อช่วงประมาณกลางเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ที่บริเวณแยกโรงไม้ ถนนนาคนิวาส แขวงและเขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ซึ่งกลุ่มนี้เพื่อนของตนได้มีการพูดคุยและจบปัญหากันไปนานแล้ว แต่กลุ่มที่ก่อเหตุเมื่อคืน ไม่ใช่กลุ่มเดิมที่เคยมีปัญหากับเพื่อนของตนมาก่อน และตนก็ไม่รู้ด้วยว่ากลุ่มที่ก่อเหตุเป็นใคร

ทั้งนี้ ตนคาดว่า สาเหตุที่กลุ่มผู้ก่อเหตุมาทำร้ายเพื่อนของตนจนเสียชีวิต เนื่องจากลักษณะการแต่งตัวของเพื่อนที่จะชอบแต่งตัวคล้ายคลึงกับนักศึกษาอาชีวะ แล้วเพื่อนของตนมีความใฝ่ฝันอยากจะเข้าเรียนที่สถาบันอาชีวะแห่งหนึ่ง ย่านมีนบุรี แต่เพื่อนของตนไม่มีวุฒิการศึกษาที่จะสมัครเข้าเรียนได้ จึงมักจะซื้อหัวเข็มขัดที่มีตราสถาบันดังกล่าวมาติดตัวไว้ ด้วยเหตุนี้จึงคาดว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุอาจจะเข้าใจผิด คิดว่าเพื่อนของตนเป็นเด็กช่าง จึงลงมือก่อเหตุ

สุดท้ายนี้ ถ้ากลุ่มผู้ก่อเหตุได้ดูอยู่ตนอยากจะบอกว่า มาทำเพื่อนของเราทำไม เพื่อนเราไปทำอะไรให้ ลองคิดถ้าเป็นพวกคุณโดนกระทำแบบนี้ แล้วพ่อแม่คุณทราบเรื่องเรื่อง พ่อแม่คุณจะรู้สึกอย่างไร




ขณะที่ทีมข่าวได้กล้องวงจรปิดของร้านขายเครื่องดื่ม 24 ชั่วโมง ที่ได้บันทึกเสียงเหตุการณ์ไว้ได้ ช่วงเวลา 03.42 น. ได้ยินกลุ่มวัยรุ่นขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็ว เสียงดัง และตะโกนโวยวาย ด่าทอด้วยคำหยาบคาย จากนั้น ห่างประมาณ เวลา 03.43 น. ก็ได้ยินเสียงดังคล้ายรถชน ซึ่งคาดว่าจะถูกชนก่อนที่จะถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิต

ส่วนร่างของนายอาทิตย์ถูกนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดพรพระร่วงประสิทธิ์ เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร โดยมีกลุ่มมารดาญาติและเพื่อนของผู้เสียชีวิตมาร่วมกันรดน้ำศพและแสดงความเสียใจกันเป็นจำนวนมาก

ขณะที่ นางพรศรี อายุ 49 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต นำข้าวผัดพร้อมกับน้ำอัดลมไปวางไว้ที่บริเวณร่างของลูกชาย พร้อมกับบอกว่านำของที่ลูกชอบมาให้กินแล้วนะ อย่าเพิ่งไปไหนกินของที่ลูกชอบที่แม่เอามาให้ก่อน พร้อมกับเรียกชื่อของลูกซึ่งปกติจะเรียกกัน “ไอขี้หมา“ พร้อมกับส่งเสียงร้องร้องไห้สะอื้น

นอกจากนั้นแม่ยังนำแชตที่คุยกับลูกชายให้กับทีมของเราเราดูว่าช่วงกลางวันก่อนเกิดเหตุ ลูกชายได้ส่งข้อความมาบอกขอยืมเงินเพื่อจะเอาไปซื้อรองเท้ามือสอง ซึ่งแม่ก็ โอนเงินให้น้องไปซื้อรองเท้า ซึ่งน้องก็ตอบกลับมากับแม่ในเชิงหยอกล้อกันว่า “เครลูกพี่”

หลังจากนั้นช่วงเวลาประมาณ 01.55 น. ก่อนเกิดเหตุได้ประมาณ 2 ชั่วโมง แม่ส่งข้อความ หาลูกว่า "แม่บอกให้มาได้แล้วครับ" ซึ่งลูกตอบ "แปบ"

และได้โทรศัพท์พูดคุยกันเป็นเสียงสุดท้ายโดยลูกบอกกับแม่ว่าขอส่งออร์เดอร์สุดท้ายเดี๋ยวก็จะเข้าไปแล้ว ไม่นึกว่านั่นคือเสียงสุดท้ายของลูกที่ได้ยิน หลังจากนั้นแม่จะพยามส่งข้อความเสียงว่าซื้อเคเอฟซีมาให้แล้วกลับมากินแต่ลูกก็ไม่ตอบมาอีกเลยจนมาทราบอีกทีนึงว่าเสียชีวิตแล้ว



แม่บอกกับกินข้าวเราว่าน้องอาทิตย์มีคนที่ขยันทำมาหากินมาก แต่ยอมรับว่าเมื่อช่วงประมาณสองเดือนที่ผ่านมา มีปัญหากับกลุ่มวัยรุ่นด้วยกันจนน้องถูกยิงได้รับบาดเจ็บ แต่ตอนนั้นได้เจรจาพูดคุยกับ คู่กรณีกันเรียบร้อยแล้วเชื่อว่าเหตุการณ์ที่ทำร้องเสียชีวิตนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับเหตุการณ์เมื่อสองเดือนที่แล้วที่น้องโดนยิงและได้รับบาดเจ็บ

ส่วนประเด็นที่น้องชอบแต่งตัวเป็นเด็กช่างนั้น แม่ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริงน้องยังมาขอเรียนโรงเรียนช่างอีกด้วย แต่แม่ไม่อนุญาต ซึ่งน้องก็เชื่อแม่

แม่บอกกับน้องเสมอว่า ถ้าให้นักเรียนช่างกลไม่เอานะกลัวจะมาเกิดเหตุยิงกันไปยิงกันมา ไม่นึกว่าเกิดเหตุการณ์ และแม่อยากจะถามคนที่ก่อเหตุว่ามาทำกับลูกแบบนี้ได้อย่างไร ทำไปเพื่ออะไร

ที่สำคัญตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ลูกชายกำลังตั้งตัวบอกกับแม่ ว่าจะสร้างอนาคตที่ดีให้แม่ไม่ต้องเป็นห่วงโดยไปฝึกซ่อมรถอยู่กับพี่คนหนึ่งเพราะถ้าหากได้วิชาจะได้มีอาชีพเป็นช่างซ่อมรถ โดยที่ไม่ต้องไปเรียนโรงเรียนช่างกลให้แม่ไม่สบายใจ



ด้านนางสาวขวัญ (นามสมมุติ) นำหัวเข็มขัดเด็กช่าง ของสถาบันดังกล่าว ซึ่งเป็นเข็มขัดที่แฟนหนุ่มใช้ใส่ในขณะที่ถูกกลุ่มคนร้ายก่อเหตุใช้มีดแทงจนเสียชีวิต

โดยนางสาวขวัญ เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องอดีตต่างสถาบัน เนื่องจากผู้ตายเป็นคนที่ชอบสะสมและอยากจะเป็นเด็กช่างกล จนไปหาซื้ออุปกรณ์ช่างกลอย่างอื่นมาเก็บสะสมไว้อย่างเช่นพวกเสื้อช็อปเป็นต้น แต่ในวันเกิดเหตุผู้ตายใส่แค่เฉพาะเข็มขัดของเด็กช่างสถาบันดังกล่าวแค่นั้น

ยอมรับว่าส่วนตัวแล้วผู้ตายเป็นคนที่อารมณ์ร้อนแต่ก็ไม่ใช่คนที่จะไปหาเรื่องใครก่อน ส่วนประเด็นเรื่องที่ว่าผู้ตายพวกปืนหรือไม่นั้น นางสาวขวัญ ยอมรับว่า ผู้ตายมีปืนจริงและมักจะพกติดตัวเอาไว้ ผู้ตายเคยบอกกับตัวเองว่าไว้ป้องกัน เพราะชอบ มีคนมาหาเรื่อง

ส่วนกลุ่มผู้ก่อเหตุแฟนสาวเชื่อว่า น่าจะเป็นเหตุซึ่งหน้าที่เกิดจากความเข้าใจผิด โดยคนร้ายคิดว่าผู้ตายเป็นคู่อริต่างสถาบัน

ล่า 4 เดนนรก! รุมแกร็บไบค์คาที่ แค้นเห็นหัวเข็มขัดอาชีวะ แม่โฮ "ทำลูกกูทำไม"