จากกรณีผู้ใช้บัญชี X (ทวิตเตอร์) Red Skull ได้เผยแพร่คลิปภาพพระสงฆ์กลุ่มหนึ่ง อยู่ระหว่างรอขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อเดินทางไปประเทศญี่ปุ่น ภายในคลิปจะเห็นพระสงฆ์เดินทางไปเที่ยวสถานที่ยอดฮิตต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนั่งชิงช้าสวรรค์ HEP FIVE ชมวิวเมืองโอซากา หรือเดินชมความงามของหอคอยซึเทนคาคุ นั่งรถไฟไปศาลเจ้าฟูชิมิอินาริ วัดคินคะคุจิ และไปชมหิมะตกที่หมู่บ้านชิราคาวาโกะ ยังไม่พอ ยังมีการแวะฉันราเมน ไอศกรีมชาเขียวซอฟต์ครีม พร้อมทั้งยืนถ่ายภาพในอากับกิริยาสนุกสนาน



โดยบัญชี Red Skull ได้ระบุข้อความว่า "Influencer เดรสส้ม ทริปทัวร์ญี่ปุ่นฉ่ำๆ 7 วัน 7 คืน หลวงพี่โจเมืองตรังคนเดิม ที่เคยเป็นข่าวทริปดำน้ำดูปะการังทั้งผ้าเหลือง อาชีพในฝันของใครหลายๆคน งานสบาย รายได้ดี ได้ทัวร์ต่างประเทศด้วย" พร้อมแนบข้อวัตรของพระภิกษุ 10 ประการ และตั้งคำถามว่า การไปเที่ยวต่างประเทศคือข้อไหน ซึ่งภายหลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป หลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นถือความเหมาะสมต่อกริยาสงฆ์อันพึงสำรวมเป็นจำนวนมาก

โดย 1 ในพระที่เดินทางไปครั้งนี้คือ หลวงพี่โจ ซึ่งเป็นพระประจำอยู่ในวัด จ.ตรัง ที่มาพร้อมวลีประจำกาย "อยู่เป็นโสดเพื่อโปรดญาติโยม" ซึ่งเคยปรากฏเป็นข่าวโด่งดัง เมื่อเดือน เม.ย. 2565 จากการโพสต์และลงคลิปการนั่งเรือไปท่องเที่ยว ลงเล่นน้ำทะเลตามเกาะแก่งต่าง ๆ ปรากฏภาพมีการใส่เสื้อชูชีพ พร้อมพระภิกษุอีกหลายรูปที่เดินทางไปด้วยกัน ทำเกิดกระวิพากษ์วิจารณ์มาแล้ว

สั่งลบคลิปหลวงพี่ดาวติ๊กต็อก จ่อปลดตำแหน่งสงฆ์

ล่าสุด (28 ธ.ค. 2566) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดไร่พรุ หมู่ 8 ต.น้ำผุด อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นวัดที่พระรูปดังกล่าวประจำอยู่ เมื่อสอบถามพระรูปอื่นต่างไม่ทราบถึงรายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้น ส่วนทางด้านเจ้าอาวาสวัดไม่ได้อยู่วัด ติดภารกิจอบรมหลักสูตรการบริบาลผู้สูงอายุ อยู่ที่ รพ.นาโยง จ.ตรัง ก่อนผู้สื่อข่าวจะติดต่อสอบถาม และพูดคุยผ่านโทรศัพท์มือถือกับ พระครูสมุห์จำเลือง ฐิตเมโธ ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่พรุ โดยได้ให้ข้อมูลและประสงค์ที่จะขอบันทึกเสียงผู้สื่อข่าวในระหว่างสอบถาม

โดยให้สัมภาษณ์ว่า เบื้องต้นทราบว่าเรื่องการไปต่างประเทศได้อยู่ในแผนความคิดของพระรูปดังกล่าวมาสักพักแล้ว โดยได้ขออนุญาตอาตมาที่จะเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นก่อนแล้ว โดยเดินทางไปหลังจากรับปริญญาบัตร อาตมาก็ทราบเรื่องมาก่อนแล้ว ก็ได้อนุญาตเพราะว่าเขาซื้อตั๋วแล้ว จะห้ามก็ยากแล้ว ส่วนปัจจัยหรือเงินจากที่ไหนที่นำไปเดินทาง ก็ได้รับคำว่าเป็นปัจจัยของพระรูปดังกล่าวเอง อาตมาก็ได้บอกไปก่อนแล้วว่าให้ดูแลตัวเองด้วยในเรื่องของการเดินทาง เพราะอาตมาก็เป็นห่วง



หลังจากทราบข่าวในช่วงเช้าวันนี้ ครูบาอาจารย์หลาย ๆ รูป รวมทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ตรัง ก็ได้ประสานมา อาตมาก็ได้ส่งแชตไปบอกกับพระรูปดังกล่าว ว่าช่วยลบโพสต์ที่ลงคลิป พร้อมกับพูดว่าไม่เหมาะสม ไม่สมควรจะนำเอามาโพสต์ ซึ่งภายหลังจากที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้ว อาตมาก็เกินที่จะแก้ ก็ได้เพียงบอกและเตือน และฝากบอกว่าพระเราไม่สมควรทำอย่างนั้น



อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้พบกับชาวบ้านที่เดินทางมาให้อาหารสุนัขและแมวในวัดเป็นประจำทุกวัน คือ นางอารมณ์ อายุ 74 ปี เล่าว่า รู้จักพระโจเป็นอย่างดีเพราะพระโจบวชเรียนเป็นสามเณรอยู่ที่นี่ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ จนปัจจุบันนี้เป็นพระนักเทศน์ ที่เทศนาดี มีแฟนคลับจำนวนมาก เป็นที่รักของชาวบ้าน พระโจยังเปิดหัองเรียนเพื่อสอนธรรมมะให้เด็ก ๆ ในละแวกวัด เด็กบางรายที่เคยเกเร ก็กลับมาเป็นเด็กเรียบร้อยขึ้น

ส่วนเรื่องประเด็นดราม่าตนพอทราบบ้าง ซึ่งตนคิดว่าสังคมเดี๋ยวนี้รู้เรื่องราวอะไรเพียงเล็กน้อย ก็พากันวิจารณ์กันสนุกปาก จนเกิดความเสียหาย ตนไม่อยากให้พระดี ๆ ต้องมาลาสิกขาเพราะประเด็นโซเซียล

ทางด้าน นายสุขพิชัย เชาวกุล ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ตรัง กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า ได้ทราบเรื่องแล้วจากที่ปรากฏในสื่อตั้งแต่ช่วงเช้า หลังจากทราบข่าวก็ได้ประสานไปยังเจ้าอาวาสวัด และเจ้าคณะปกครอง เบื้องต้นทราบว่าพระรูปดังกล่าวจะเดินทางกลับมาประเทศไทยในวันที่ 30 ธ.ค. ที่จะถึงนี้

โดยทางเจ้าอาวาสวัดก็ไม่ได้ปล่อยปละละเลย ได้ว่ากล่าวตักเตือนพระรูปดังกล่าวไปแล้ว ว่าไม่เหมาะไม่ควรกับสมณสารูปที่เป็นพระสงฆ์ ที่จะโพสต์หรือเผยแพร่ภาพในลักษณะนั้นออกไป ซึ่งตรงนี้เองทางเจ้าอาวาสได้มีการให้พระรูปดังกล่าวลบคลิปออกจากโซเซียลทั้งหมด ไม่ให้เผยแพร่ในสื่อโซเซียล เพื่อเป็นการไม่ให้เกิดความเสื่อมเสียต่อคณะสงฆ์ในส่วนใหญ่ ซึ่งตรงนี้เองทางเจ้าคณะอำเภอ คณะตำบล ก็รับทราบเรื่องหมดแล้ว ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ



ในส่วนนี้เองตามหลักพระธรรมวินัย เข้าข่ายในเรื่องของโลกวัชชะ ซึ่งไม่เหมาะควรแก่สมณสารูป ที่มีการเผยแพร่ออกไปในลักษณะนั้น แต่หากเผยแพร่ในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับธรรมมะ ก็จะเป็นประโยชน์กับสังคม แต่ในส่วนนี้ก็มองว่าไม่เหมาะควร ทางคณะสงฆ์ก็จะดำเนินการในส่วนของคณะสงฆ์ ส่วนสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ตรัง เองในฐานะสนองงานคณะสงฆ์ก็จะเข้าไปช่วยดูแลในส่วนนี้อีกด้วยเช่นกัน

อีกทั้งจะมีการรับโทษ รับผิดอย่างแน่นอน ซึ่งตนก็ได้พูดคุยกับเจ้าคณะอำเภอแล้ว เนื่องจากเป็นความผิดในครั้งที่ 2 โดยครั้งแรกเคยเกิดขึ้นมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยเจ้าคณะอำเภอจะมีการพิจารณาตามเหมาะควรประการใด โดยในวันพรุ่งนี้ (29 ธ.ค.) จะมีการประชุมคณะสงฆ์ จ.ตรังทั้งหมด ก็จะนำเอาเรื่องนี้เข้าในที่ประชุมใหญ่ของจังหวัดด้วยเหมือนกัน ซึ่งจะไม่นิ่งนอนใจ หรือปล่อยปละให้เรื่องนี้ลุกลามออกไป เพราะกระทบกับความงามของคณะสงฆ์ ใน จ.ตรัง และ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย และดีงามและเหมาะควรแก่สมณะ



ในส่วนของปัจจัยที่นำไปเป็นค่าใช้จ่ายนั้น ตนยังไม่ทราบแต่ทราบเพียงว่าเดินทางไปกันประมาณ 3-4 รูป โดยหลังจากพระรูปดังกล่าวกลับมาก็จะดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงอีกครั้งในรายละเอียดเชิงลึกว่าที่เดินทางไปใช้ปัจจัยอะไร และเกิดประโยชน์กับคณะสงฆ์อย่างไร

ส่วนความผิดเบื้องต้น คือ โลกวัชชะ นั้น ถือว่าเป็นโทษที่ไม่ร้ายแรงอะไรมาก ก็มีการในเรื่องของการภาคทัณฑ์ ทำทัณฑ์บนเอาไว้ หากทำผิดอีกก็จะมีผลตามที่ตกลงกับพระชั้นผู้ใหญ่ว่าตำแหน่งทางปกครอง จะต้องพิจารณาว่าต้องถอดถอนหรือไม่ สมควรจะปฎิบัติหน้าที่ใดต่อ หรือไม่สมควรจะปฎิบัติหน้าที่ใดต่อ เนื่องจากว่าพระรูปดังกล่าวมีตำแหน่งทางปกครองคือ เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัด อาจจะต้องถอดออกจากตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสด้วย และถือความเป็นความผิดครั้งที่ 2 โดยจะเตรียมพิจารณาหลังจากพระรูปดังกล่าวกลับมาในวันที่ 30 ธ.ค. ที่จะถึงนี้



พระพยอม เตือน นักบวชไม่ใช่นักเที่ยว

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดสวนแก้ว ตำบลบางเลนอำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี เพื่อสอบถาม พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กรณีพระไลฟ์สดพาเที่ยวทริปทัวร์ญี่ปุ่น ฉ่ำฉ่ำ 7 วัน 7 คืน

พระพยอม กล่าวว่า ไม่ถึงขั้นอาบัติขาดจากการเป็นพระ แต่ถือว่าขาดสมณสัญญาแล้ว ทำแบบนี้ไม่สมควรเรียกว่านักบวช นักบวชมีแต่แสวงหาวิเวก แต่นี่ไปแสวงหาความรื่นเริงบันเทิงใจอย่างนี้ต้องเรียกว่านักเที่ยว ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ไม่มีความเขินอาย มีความแอ็คชั่นสูงไม่มีความเขินอาย เจ้าคณะจังหวัดหรือเจ้าคณะอำเภอควรจะเรียกไปตักเตือน แต่ถ้าไม่เชื่อฟังควรต้องจัดการอย่าให้อยู่เป็นพระรกศาสนา

ส่วนพระทั้งหลายต่อไปนี้ อย่าให้มีอารมณ์นักเที่ยวมีสันดานนักเที่ยวผุดขึ้นมา เป็นนักบวชต้องข่มใจความเป็นนักเที่ยวให้ได้ ต้องคิดไม่เอา ไม่มี ไม่เป็น ไม่ไป ให้อยู่นิ่ง ๆ หลังพิงถ้ำเหมือนเป็นคนตาย อันนี้มาอวดความคึกคะนอง สุรุ่ยสุร่าย ไม่กระดากอายหน้าด้าน ไร้ยางอาย ไปต่างประเทศไม่น่ามาโอ้อวดเป็นนักเที่ยวในคราบนักบวช คนส่วนใหญ่รับไม่ได้ ส่วนญาติโยมที่สงสัยว่าพระเอาเงินมาจากไหนไปเที่ยวได้ยังไง เงินที่ญาติโยมให้ให้บำรุงพระพุทธศาสนาไม่ใช่ให้ไปเที่ยวเตร่ ตายแล้วยมบาลจะเขกหัว ฝากญาติโยมอย่าถวายเงินพระที่นำเงินไปเที่ยว

โจ แจงใช้เงินส่วนตัวห่มเหลืองทัวร์ญี่ปุ่น ชาวบ้านรัก บวชตั้งแต่ 5 ขวบ พระพยอมถาม "อายไหม"