จากเหตุการณ์ที่รถเมล์ประจำทางสาย 69 รามคำแหง-ท่าอิฐ เสียหลัก ชนเข้ากับรถสามล้อรับจ้าง ก่อนพุ่งชนรถจักรยานยนต์เสียชีวิต ที่บริเวณแยกชิดลม ถนนเพชรบุรีฝั่งขาออก ใกล้ซอยเพชรบุรี 31 แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กทม. ทำให้ นายอภิวุฒิ อายุ 28 ปี พ่อค้าเสื้อผ้าย่านประตูน้ำ ที่ขี่รถจักรยานยนต์มาตรงจุดเกิดเหตุเสียชีวิตคาที่ และมีผู้บาดเจ็บ 3 ราย เป็นแฟนของผู้เสียชีวิต , พนักงานเก็บค่าโดยสารบนรถเมล์ และคนขับรถเมล์ที่มีอาการแน่นเจ็บหน้าอก ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทั้งหมด

วงจรปิด ว่าที่เจ้าบ่าวตาย เพราะรถเมล์มรณะชน

ทีมข่าวได้ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุ จะสังเกตุเห็นว่ารถเมล์คันดังกล่าวขับรถมุ่งหน้าออกมาจากถนนชิดลม เมื่อลงจากสะพานชิดลมเชื่อว่าคนขับรถเมล์น่าจะต้องการเลี้ยวซ้ายมุ่งหน้าไปประตูน้ำ แต่เนื่องจากมาด้วยความเร็วและไม่สามารถตีโค้งเลี้ยวซ้ายได้จึงทำให้ขับรถมาชนผู้เสียชีวิตที่ขับรถตรงมาตามทางของตัวเอง



หลังจากที่รถเมล์ชนเข้ากับรถของผู้เสียชีวิต จะสังเกตุเห็นว่ารถเมล์ลากรถซึ่งมีผู้เสียชีวิตอยู่ขึ้นไปยังบริเวณริมฟุตบาท ในขณะที่ในกล้องจะเห็นแฟนสาวของผู้เสียชีวิตหล่นอยู่บริเวณกลางถนน

ล่าสุดวันนี้เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ญาติของนายอภิวุฒิ ผู้เสียชีวิต ได้เดินทางไปรับศพออกจาก รพ.รามาธิบดีเเล้ว ได้มาเชิญวิญญาณที่จุดเกิดเหตุ โดยมีพ่อเเม่เเละญาตพี่น้องรวมถึงเพื่อนของผู้ตายมาด้วย พร้อมทั้งนิมนต์พระสงฆ์ 1 รูปมาประกอบพิธีสวดถอน อัญเชิญดวงวิญญาณ ก่อนจะมีการเรียกชื่อเล่นของผู้ตายให้กลับบ้านพร้อมกัน และนำร่างของผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่วัดลุ่มเจริญศรัทธา โดยที่พ่อเเม่ของผู้เสียชีวิตยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์เพราะยังคงเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ซึ่งทีมข่าวของเรา ได้มีโอกาสไปพูดคุยกับ ครอบครัวของผู้เสียชีวิต ยอมรับว่า ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ และยืนยันเลยว่าปกติผู้ตายไม่ได้เป็นคนที่ขับรถเร็ว ซึ่งน้องชายของผู้ตายบอกว่าผู้ตายเป็นพี่ชายคนโตที่รักน้องทุกคน แต่พี่มาด่วนจากไปอย่างนี้ก็ยังทำใจไม่ได้ ส่วนพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตได้แต่บอกกับทีมข่าว ว่าทำไมถึงให้คนอายุ 69 ปี มาขับรถได้อีก ลูกชายของเขาเสียไปแบบนี้ไม่คุ้มค่าชีวิตเลย แต่ก็ยังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์อย่างเป็นทางการ



ส่วนความคืบหน้าทางคดี บริษัท ไทย สมายล์ บัส จำกัด บริษัทของรถเมล์ได้ทำหนังสือชี้แจงว่า TSB ขออภัยเหตุพนักงานขับรถประมาท เผลอขับพุ่งขึ้นทางเท้า บริษัทพร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเต็มที่ โดยทางบริษัทได้ตรวจสอบหลักฐานจากทีมวิศวกร ระบบกำกับดูแลการเดินรถ (Fleet Management) รวมถึงภาพจากกล้องหน้ารถ พบว่า รถเมล์คันที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวเป็นรถสาย 69 เลข 2-13(4) เส้นทาง ท่าอิฐ - มหาวิทยาลัยรามคำแหง กำลังมุ่งหน้ากลับสู่ สาขาต้นทาง ท่าอิฐ ซึ่งก่อนเกิดเหตุได้ใช้ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 25-29 กม. ต่อชั่วโมง สภาพรถทุกส่วนอยู่ในสภาพปกติสมบูรณ์

ต่อมา เมื่อถึงแยกชิดลม ปรากฏว่าพนักงานขับรถได้หักพวงมาลัยค้างไว้ในจังหวะรถเลี้ยว แต่จากความประมาทจึงเผลอไปเหยียบคันเร่งต่ออย่างฉับพลัน ทำให้รถพุ่งตัวไปด้านหน้า ประกอบกับอาการตกใจจึงไม่ได้เหยียบเบรกรถ ส่งผลให้รถหักเลี้ยวพุ่งขึ้นไปบนทางเท้า จนเกิดอุบัติเหตุชนเข้ากับจักรยานยนต์ที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บจำนวน 3 ราย

ด้านพนักงานต้อนรับบนรถจึงพาผู้โดยสารลงจนครบ แล้วประสานกับทางสำนักงานให้ทางเจ้าหน้าที่นำตัวผู้บาดเจ็บทุกส่งโรงพยาบาลที่ใกล้สุด เพื่อเข้ารักษาพยาบาลเร็วที่สุด พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ประกันภัยเข้าดูแลค่ารักษาพยาบาลในทันที

ขณะเดียวกันทางบริษัท ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมขอรับผิดชอบ ดูแลค่าเสียหายให้แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ บริษัทจะสอบสวนพนักงานขับรถอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง แล้วลงโทษตามมาตรการขั้นเด็ดขาดของบริษัทต่อไป



ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พญาไท ได้เก็บหลักฐานและตรวจดูกล้องวงจรปิดขณะเกิดเหตุ ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนและสอดคล้องกับคำให้การของนายสุเทพ และได้ทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้ว โดยอยู่ในระดับปกติ

เบื้องต้นได้แจ้ง 3 ข้อกล่าวหา คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย , เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ , และเป็นเหตุให้ผู้อื่นสูญเสียทรัพย์ ก่อนปล่อยตัวคนขับรถเมล์กลับไป เนื่องจากไม่มีพฤติการณ์หลบหนี ซึ่งให้รอคำสั่งนัดหมายมาไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหายกับครอบครัวผู้เสียชีวิตต่อไป ขณะเดียวกันทางตำรวจก็ยังอยู่ในระหว่างรอสอบปากคำพยานคนอื่น ๆ เพิ่มเติม

จากการสอบถาม นายอนุรักษ์ อายุ 61 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุรถเมล์คันดังกล่าว ได้วิ่งมาจากแยกอโศกมุ่งหน้าประตูน้ำ เมื่อมาถึงทางแยกที่จะไปชิดลม ตนเองคาดว่าคนขับจะมีอาการวูบหรือไม่ จึงทำให้รถเสียหลักข้ามไปฝั่งตรงข้ามจำนวนหกเลน จนทำให้รถเมล์ไปเฉี่ยวกับรถสามล้อ ก่อนจะวิ่งไปพุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่วิ่งมาจากประตูน้ำและจะมุ่งหน้าไปแยกอโศก

จนทำให้ผู้ซ้อนท้ายที่เป็นผู้หญิงกระเด็นตกลงมาบาดเจ็บอยู่กลางถนน ส่วนคนขับขี่รถจักรยานยนต์ถูกรถเมล์ลากขึ้นไปบนฟุตบาทพร้อมกับรถจักรยานยนต์ และไปเสียชีวิตอยู่บนฟุตบาท ก่อนที่รถเมล์จะวิ่งพุ่งเข้าไปชนกับรั้วก่อสร้างปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง จนทำให้รับความเสียหาย ซึ่งที่ผ่านมาบริเวณนี้เกิดเหตุบ่อยครั้ง เพราะมีรถใช้ถนนเป็นจำนวนมาก และมีทางแยกที่จะต่อเนื่องไปได้หลายทาง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยเกิดอุบัติเหตุรถประจำทางเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์เสียชีวิตมาแล้ว

เจ้าสาวช็อก คู่ชีวิตตายตรงวันครบรอบ 8 ปี

วันนี้ทีมข่าวได้มีโอกาสเข้าไปเยี่ยมและพูดคุยกับ น.ส.ส้ม (นามสมมุติ) อายุ 28 ปี ผู้บาดเจ็บและเป็นแฟนของผู้เสียชีวิต ซึ่งขณะนี้เธอกำลังเข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เนื่องจากได้รับบาดเจ็บศอกข้างขวาหัก และมีบาดแผลตามร่างกายหลายจุด ซึ่งอยู่ระหว่างประเมินอาการเพื่อเข้ารับการผ่าตัด

โดย น.ส.ส้ม ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนและแฟนกำลังเดินทางกลับบ้าน ซึ่งปกติจะใช้เส้นทางนี้เป็นประจำ ซึ่งตอนที่เกิดเหตุรถติด แฟนก็ได้ขี่ชะลอไปอย่างช้า ๆ เพื่อที่จะเลี้ยวขวาข้ามสะพานไปยังถนนชิดลม อยู่ ๆ รถเมล์ขับมาด้วยความเร็ว แฟนตนจึงตะโกนบอกว่า “เฮ้ย เบา ๆ” หลังจากสิ้นเสียงคำว่าเบารถเมล์พุ่งชนเข้ามาอย่างจัง เป็นเหตุทำให้ตนตกรถ และรถเมล์ก็ลากแฟนตนไปกับถนนและขึ้นฟุตบาทไป



ยืนยันว่ารถเมล์ขับมาด้วยความเร็วมาก ๆ เพราะถ้าหากขับมาช้า ๆ ตนและแฟนสามารถหลบได้แน่นอน และจากการที่คนขับให้การกับตำรวจอ้างว่าเหยียบผิด ตั้งใจจะเหยียบเบรกเป็นคันเร่งตนมองว่าไม่จริง แต่คิดว่าประมาทมากกว่า เพราะคุณเป็นรถเมล์คุณควรจะขับช้า ๆ ไม่ควรจะขับเร็วแบบนี้ มองว่าเป็นการมักง่ายมากกว่า เพราะเท่าที่สังเกตเห็นจริง ๆ แล้วคนขับรถเมล์ต้องตีโค้งเข้าทางซ้ายมากกว่านี้ แต่คนขับรถอาจจะเห็นว่าถนนเลนขวาโล่งเลยพยามตีโค้งกว้างแต่ไม่ทันได้ดูว่ามีรถมอเตอร์ไซค์ขี่มาก็เลยทำให้ขับรถชน

น.ส.ส้ม มองว่าการประมาทของเขาทำให้ตนต้องสูญเสียคนรัก ที่วางแผนกำลังจะแต่งงานกันปีหน้า โดยเมื่อวานวันเกิดเหตุเป็นวันครบรอบ 8 ปี และทั้งคู่ไปดูรถ และสร้างเรือนหอไว้รอแล้ว ธุรกิจของทั้งสองก็กำลังไปได้ดี แต่มาเกิดเหตุแบบนี้ก่อนทำให้แพลนชีวิตทุกอย่างพังทลาย

ที่สำคัญก่อนเกิดเหตุเมื่อวานนี้ ทั้งคู่เตรียมที่จะซื้อรถเก๋งซึ่งได้รับการติดต่อจากไฟแนนซ์แล้วว่าวันรุ่งขึ้นรับรถ แต่ปรากฏว่าเกิดเหตุรถชนเสียชีวิตเสียก่อน ซึ่งวันนี้ที่จะต้องเป็นวันรับรถก็คงจะไม่มีโอกาสนั้นแล้ว

และด้วยฝ่ายหญิงนับถือศาสนาอิสลามในช่วงที่ผ่านมา ฝ่ายชายก็เตรียมพร้อมเข้าสู่พิธีนิก๊ะตามศาสนาอิสลาม และพูดคุยช่วงเวลาที่จะแต่งงานคือช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม 2567 ที่จะมาถึงนี้

ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ที่ผ่านมา ทั้งคู่ก็ได้ไปเที่ยวที่ทะเลด้วยกันเนื่องจากเป็นวันครบรอบวันเกิด 28 ปีบริบูรณ์ของผู้เสียชีวิต สุดท้ายอยากบอกกับแฟนว่าไม่ต้องห่วง ขอให้ไปให้สบาย จะสานต่อธุรกิจที่ทำร่วมกันมาให้ดี และหลังจากเกิดเหตุคนขับรถและบริษัทเจ้าของยังไม่ติดต่อมาเยี่ยมเลย เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ไม่อยากให้เกิดแบบนี้ขึ้นเลย

 

วิวาห์ล่ม! เมล์มรณะชนว่าที่เจ้าบ่าวดับ เจ้าสาวฝันสลายตายตรงวันครบรอบ