ไฟไหม้บ้านเรือนย่านรัชดาวอด 2 หลัง ตรวจสอบพบบ้านต้นเพลิงสะสมธนบัตรเก่าเพียบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 23 ธ.ค. 66 เวลา 14.09 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ที่ซอยรัชดาภิเษก 3 (ซอยชานเมือง 2 ) แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยห้วยขวางใช้เวลาในการควบคุมเพลิง 40 นาที เพลิงจึงสงบลง ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าบ้านที่เป็นต้นเพลิงมีลักษณะ 2 ชั้น ไฟไหม้ 100% ไม่เหลือเค้าโครงเดิม และบ้านฝั่งตรงข้ามลักษณะบ้าน 1 ชั้น มีใต้ถุน ไหม้100% เช่นกัน ซึ่งเกิดจากการที่เสาไฟบ้านต้นเพลิงล้มไปใส่ จึงทำให้บ้านเกิดเพลิงลุกไหม้ไปด้วย เนื่องจากมีเต๊นท์ผ้าใบพลาสติก ถือว่าเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีจึงทำให้ไฟลุกลามไปฝั่งตรงข้ามได้รวดเร็ว รวมถึงมีบ้านในระแวกใกล้เคียงได้รับความเสียหายอย่างน้อย 2-3 หลัง

สอบถามยายไก่ ผู้อาศัยบ้านต้นเพลิง เผยว่าทั้งน้ำตาว่า ตนอยู่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่ปี 2512 ขณะเกิดเหตุตนนั่งกินข้าวกับคนในครอบครัวรวม 4 คน ตอนนั้นได้ยินเหมือนเสียงระเบิด แต่ตนไม่เอะใจ จนเพื่อนบ้านตะโกนเรียกว่าไฟไหม้บ้าน ตนจึงวิ่งออกมาดูถึงรู้ว่าบ้านตัวเองไฟไหม้ อย่างไรก็ตามทั้งครอบครัวไม่สามารถหยิบเอาทรัพสินหรือของมีค่าอะไรออกมาได้ทันเลย ซึ่งหลังจากนี้ตนก็ไม่รู้จะไปอาศัยอยู่ที่ไหน

ติดตามบรรยากาศสดสด : LIVE! ไฟไหม้บ้าน ซอยรัชดาฯ3 จนทเร่งเคลียร์ | สดสด | ข่าวช่อง8

ด้านคุณเจี๊ยบ 1 ในผู้อยู่ในเหตุการณ์เผยว่า ขณะนั้นตนนั่งกินข้าวอยู่กับครอบครัว (ยายไก่) ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น เห็นว่าต้นเพลิงมาจากชั้น 2 ของบ้านจึงวิ่งขึ้นไปดับไฟ ตอนวิ่งไปตนไปเหยียบแผ่นกระดานที่ไหม้ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บจนเท้าพอง เบื้องต้นได้รับการปฐมพยาบาลเรียบร้อย

หลังจากเจ้าหน้าที่ดับเพลิงควบคุมเพลิงได้และเข้าไปตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังต้นเพลิงมีเงินอยู่ในกล่องมีจำนวนมากทั้งเหรียญและแบงค์เก่า 20,100 รวมแล้ว 4 กระสอบ

ขณะที่นาย สุริยชัย รวิวรรณ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย เปิดเผยเรื่องการเยียวยาว่าจะต้องให้สำนักป้องกันฯ ช่วยเหลือเงินเยียวยาเรื่องค่าซ่อมแซมบ้านตามระเบียบของกรมเนื่องจากมีความเสียหายมากกว่า 1 หลัง จึงอยู่ในการช่วยเหลือของกรม ของกระทรวงมหาดไทย แต่หากความเสียหายเพียง 1 หลังจะอยู่ในการดูแลของกทม. ส่วนสาเหตุเบื้องต้นเนื่องจากไฟไหม้หมดทั้งหลัง จึงไม่สามาดูได้ว่าจุดตรงไหนเป็นต้นเพลิง เบื้องต้นต้องให้เจ้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบเพื่อดูสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง ว่าต้นเพลิงเกิดจากสาเหตุอะไร