จากกรณีมีเหตุกราดยิงในสนามฟุตบอล ย่านปทุมธานี ประชาชนก็ว่า 200 ชีวิตวิ่งหนีตาย ซึ่งหลังก่อเหตุคนร้ายได้หลบหนีไปแล้ว นั้น
ล่าสุดวันนี้ (11 ธ.ค.66) หลังจากที่ พล.ต.ต.ณัฐกร ประภายนต์ ผบก.ตม.3 พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด พ.ต.อ.เพลิน กลิ่น พยอม รองผบก.ตม.3 สั่งการให้ด่าน ตม.ทุกแห่ง เฝ้าระวังและเพิ่มความเข้มงวด กระทั่งพบตัวผู้ต้องหากำลังหลบหนีที่ด่านบ้านแหลม จ.จันทบุรี จึงจับกุมตัวนายด้วง สัญชาติกัมพูชา ได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พร้อมรายงานพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.ท.ธนา ชูวงศ์ รองผบ.ตร. พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ให้ทราบต่อไป
โดยในเบื้องต้นสอบพฤติการณ์พบว่า ผู้ต้องหายิงเสร็จหนีไปทางฟิวเจอร์ ปืนอยู่ที่คลองฟิวเจอร์ จากนั้นนั่งรถหนีไป จ.สมุทรปราการ ก่อนไปขึ้นรถทางบางบ่อ มุ่งหน้าไปด่านบ้านแหลม ตม.จันทบุรี เพื่อหลบหนี แต่ภายหลังถูกจับกุมไว้ได้ โดยนายด้วง ให้การรับสารภาพว่าเป็นมือยิง ส่วนอาวุธปืนได้ทำการโยนทิ้งไปแล้วก่อนหน้า ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างการซักถามและสอบปากคำ รวมทั้งขยายผลหาตัวผู้ให้การช่วยเหลือหลบหนีต่อไป โดยหลังจากนี้จะนำตัวนายด้วงมาสอบที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เมืองทองธานี ก่อนจะส่งตัวให้ตำรวจ สภ.คูคต ต่อไป
คู่กรณียันแก๊งBKกุนแขมร์ระรานไปทั่ว เลียนแบบเด็กช่าง
เวลาประมาณ 13:30 นายปรเมศร์ อายุ 19 ปี และนายฟิว อายุ 19 ปี สองคู่กรณีที่มีความขัดแย้งกับนายด้วง มือปืนที่ก่อเหตุยิงในสนามฟุตบอล เดินทางมายัง สภ.คูคต เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับตำรวจ
โดยนายปรเมศร์กล่าวว่า หลังจากที่ตำรวจสามารถจับกุมนายด้วงได้แล้วตนก็รู้สึกดีใจ เพราะที่ผ่านมานายด้วงทำกับคนอื่นไว้เยอะ อาทิ ฟันหัวเพื่อนตนเองและเคยไล่ฟันคนอื่นที่บริเวณตลาดสี่มุมเมือง เขาไม่ได้เป็นผู้มีอิทธิพลอะไร เป็นคนที่มีพรรคพวกเยอะอยู่ในแก๊งกุนขแมร์หรือ BK และสร้างอริเอาไว้มาก นายด้วงถือว่าเป็นหัวโจกใหญ่เพราะมีปืน เท่าที่ตนทราบ แก๊งของนายด้วงมักจะชอบซื้อปืน BB GUN ทางออนไลน์และนำมาดัดแปลง มีพฤติกรรมชอบหาเรื่องคนอื่นทั่วไปโดยไม่มีเหตุผล มีสมาชิกหลักร้อยกว่าคน ส่วนใหญ่มีสัญชาติกัมพูชา
ก่อนหน้านี้พวกตนซึ่งเป็นพวกคลองหลวง ไม่ใช่แก๊ง เคยมีเรื่องกับแก๊งของนายด้วงมาสักระยะหนึ่ง เป็นเรื่องความขัดแย้งระหว่างตลาดกับตลาด โดยก่อนที่จะถึงงานแข่งขันฟุตบอลเมื่อวานนี้ ฝั่งตนก็เชื่ออยู่แล้วว่า นายด้วงและพวกก็ต้องมาและคาดว่าฝั่งนายด้วงเองก็ทราบเหมือนกันว่าพวกตนก็ต้องมางานนี้ ไม่มีใครนัดใครกันมา
เมื่อมาถึงที่งานก็เจอกันพอดี ฝั่งนายด้วงมากัน 6 คน แต่ต่างฝ่ายต่างก็ทำตัวตามปกติ จนกระทั่งประมาณช่วงบ่าย เพื่อนตนเดินเข้าไปในห้องน้ำ ฝั่งนายด้วงก็เข้าไปในห้องน้ำและมีการมองเขม่นกับเพื่อนตน พอต่างคนต่างเดินออกมาข้างนอก พวกตนเห็นท่าว่าไม่ดี ก็เลยพยายามจะเดินหนีออกมา แต่ฝั่งนายด้วง ตะโกน ถามว่า "มองอะไร" ด้วยความเป็นวัยรุ่น เพื่อนของตนก็เถียงพวกนายด้วงกลับไปประมาณว่า "แล้วทำไมมองไม่ได้หรอ" แล้วเกิดอารมณ์ร้อนทั้งสองฝ่าย มีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ
สักพักฝั่งนายด้วงก็มีการชักอาวุธปืนขึ้นมา ส่วนตนเห็นท่าว่าไม่ดี เลยกันเพื่อนออกมาแล้วขอร้องกับฝั่งนายด้วงว่า อย่ามีเรื่องเลย ในสนามคนเยอะ ถ้าจะมีขอให้มีเรื่องกันข้างนอกสนาม แต่นายด้วงไม่ฟังและพยายามชักอาวุธปืนขึ้นลงหลายครั้ง สุดท้ายนายด้วงน่าจะทนไม่ไหว จึงชักปืนขึ้นมาจ่อศีรษะฝั่งพวกของตน ตอนแรกเห็นว่าจะยิงแต่ก็ไม่ยิง เลยชูปืนยิงขึ้นฟ้าไปประมาณ 3 นัด พอนัดที่ 4 ได้ชักปืนเล็งใส่พวกตน แต่ยิงด้วยมือเดียว คาดว่าน่าจะยิงปืนไม่เป็น จึงทำให้กระสุนไปชนกับคาน
ด้านนายฟิว ระบุว่า แก๊งนายด้วงจริง ๆ แล้วชื่อแก๊ง BK ส่วนคำว่าแก๊งกุนขแมร์ เป็นคำที่ใช้ล้อเลียนภายหลัง เอกลักษณ์ของกลุ่มนี้คือ จะมีการสักที่ข้อมือบ้าง แขนบ้าง หรือคอบ้าง ด้วยคำว่า BK
เท่าที่ตนเห็น แก๊งนี้จะมีการใส่เสื้อช็อปคล้ายเด็กช่าง แต่คนพวกนี้ไม่ได้เรียนช่างกลแต่อย่างใด เป็นการ แต่งกายตามลักษณะของพวกเขากันเอง เพื่อเลียนแบบเด็กช่างไทย เคยสังเกตเห็นว่ามีการปักสกรีน "B#K ไม่มีคำว่ากลัว" ที่หลังเสื้อ แต่เป็นส่วนน้อย แก๊งนี้จะมีสมาชิกกระจายอยู่ตามที่ต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพ สำโรง ตลาดไท ตลาดสี่มุมเมือง ซึ่งหลายคนในแก๊ง BK ตนก็คุ้นหน้าคุ้นตาอยู่บ้าง
ส่วนเรื่องอาวุธมีดหรืออาวุธปืน เรื่องนี้ตนไม่ทราบ น่าจะเป็นการซื้อกันเอง แต่แก๊ง BK ชอบซื้อปืน BB GUN มาดัดแปลงเป็นปกติ เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า กลุ่มของนายฟิวเคยได้รับผลกระทบ จากแก๊ง BK หรือไม่ ปรากฏว่าทางตำรวจได้รีบนำตัวนายฟิวไปสอบปากคำ โดยที่นายฟิวไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างใด