เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง "จรูญเกียรติ ปานแก้ว" แห้ว "นพศิลป์" ได้ขึ้น พล.ต.ท.

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ( ตร. ) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร. ) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ( รองประธาน ก.ตร. ) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ ( ผบก. ) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( รอง ผบ.ตร. ) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ประธาน ก.ตร. ที่ยื่นจดหมายลาประชุมเนื่องจากติดภารกิจสำคัญ โดย ก.ตร. ใช้เวลาประชุมนานกว่า 8 ชั่วโมง ซึ่งก.ตร.ได้พิจารณาเปลี่ยนแปลงรายชื่อจากบัญชีแต่งตั้งที่ ตร.เสนอ หลายตำแหน่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศก่อนการประชุมเป็นไปอย่างเรียบร้อย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ สีหน้ายิ้มแย้มเดินทักทาย รอง ผบ.ตร. และจเรตำรวจแห่งชาติ พูดคุยกับ ก.ตร.ก่อนเริ่มประชุมในเวลา 15.00 น. ซึ่งการประชุมดำเนินการไปอย่างเข้มข้น ก.ตร.พิจารณาทุกรายชื่อ ก่อนพักประชุมเพื่อรับประทานอาหารเย็นในเวลา 18.30 น. แล้วเริ่มประชุมอีกครั้ง

มีรายงานว่า ระหว่างการประชุม ก.ตร. ในที่ประชุมมีการทักท้วงไม่เห็นชอบการเสนอชื่อแต่งตั้งหลายตำแหน่ง ทำให้ ผบ.ตร. รอง ผบ.ตร. และจเรตำรวจแห่งชาติ และตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ซึ่งเป็นคณะกรรมการคัดเลือกแต่งตั้ง ต้องแยกออกมาประชุมคัดเลือกแต่งตั้งใหม่ โดยเชิญ ผบช.หน่วยต่าง ๆ เข้าชี้แจงที่ห้องประชุม 2 ก่อนส่งรายชื่อใหม่ให้ ก.ตร.พิจารณาเห็นชอบ

พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ ( ผบช.สง.ก.ตร. ) ในฐานะเลขา ก.ตร. กล่าวในที่ประชุมว่า ก.ตร.ครั้งนี้ พิจารณา 4 วาระ ทั้งนี้เนื่องจากประธานก.ตร.มีหนังสือแจ้งติดภารกิจสำคัญเร่งด่วนไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ ตามข้อบังคับ ก.ตร.ว่าด้วยการประชุมและการลงมติของ ก.ตร.กำหนดไว้ว่าหากประธานก.ตร.ไม่มาประชุมหรือไม่อาจมาปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธาน ก.ตร.ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม สำหรับเอกสารประกอบการประชุมตามระเบียบวาระที่ 3 เรื่องที่ค้างพิจารณาเรื่องที่ 1 ( แต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ) ให้ใช้เอกสารเดิมตามที่ได้จัดส่งให้คณะกรรมการก.ตร.พิจารณาในครั้งที่ 7/2568 เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2568

การแต่งตั้ง รอง ผบ.ตร. - ผบก. วาระ 2568 นั้น รอง ผบ.ตร. ตำแหน่งว่าง 2 ตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ว่าง 7 ตำแหน่ง ผบช. ว่าง 16 ตำแหน่ง รองผบช.ว่าง 40 ตำแหน่ง และผบก.ว่าง 71 ตำแหน่ง โยกย้ายสับเปลี่ยนอีกจำนวนมาก รวมกว่า 250 ตำแหน่ง

ทั้งนี้มีรายงานว่า สำหรับตำแหน่งที่มีการจับตา กรณี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. ที่ร้องเรียนว่าไม่ได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้นนั้นยังอยู่ในตำแหน่งเดิม เป็น รอง ผบช.ก. ไม่มีการโยกย้ายสับเปลี่ยนแต่อย่างใด

ทั้งนี้มีรายงานว่าที่ประชุม ก.ตร.พิจารณา ดังนี้

รอง ผบ.ตร. ว่าง 2 ตำแหน่ง พิจารณาแต่งตั้งเรียงตามลำดับอาวุโส พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. นรต.รุ่น 50 อาวุโส ลำดับที่ 1 ขึ้นเป็น รองผบ.ตร. และพล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รองจเรตำรวจแห่งชาติ นรต.รุ่น 43 อาวุโสลำดับที่ 3 ขึ้นมาเป็น จเรตำรวจแห่งชาติ ติดยศ พล.ต.อ. สำหรับ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วย ผบ.ตร. อดีตนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ อาวุโสอันดับ 2 นั้น เนื่องจากแพทยสภามีมติลงโทษพักใบอนุญาต ฐานประพฤติผิดจรรยาบรรณ จากกรณีชั้น 14 ทำให้ ตร.พิจารณาจัดอยู่ในกลุ่มผู้ไม่เหมาะสมให้ได้รับการแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น จึงไม่ได้รับการเสนอชื่อเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น

ผู้ช่วย ผบ.ตร. ว่าง 7 ตำแหน่ง แต่งตั้งตามลำดับอาวุโส ประกอบด้วย พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 นรต.รุ่น 42 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. นรต.รุ่น 50 พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.ภ.7 นรต.รุ่น 40 พล.ต.ท.อนุชา รมยะนันทน์ ผบช.สง.ก.ตร. นรต.รุ่น 43 พล.ต.ท.อุดร ยอมเจริญ ผบช.ส. นรต.รุ่น 42 พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 นรต.รุ่น 41 ขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. นรต.รุ่น 46 ขึ้นเป็น รองจเรตำรวจแห่งชาติ

ระดับ ผบช.ว่าง 16 ตำแหน่ง โดยตาม กฎ ก.ตร.ตำแหน่ง ผบช. ต้องพิจารณาจากกลุ่มอาวุโส 50% แต่งตั้งตามลำดับ และกลุ่มความรู้ความสามารถ 50% โดยคำนึงถึงความอาวุโส และ ความรู้ความสามารถประกอบกัน
รอง ผบช.เลื่อนเป็น ผบช. 16 ตำแหน่ง ประกอบด้วย
พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์ เชาวนาศัย รอง ผบช.ก. นรต.รุ่น 47 ขึ้นเป็น ผบช.ก.
พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ รอง ผบช.ตชด. นรต.48 ขึ้นเป็น ผบช.ตชด.
พล.ต.ต.ยสวินท์ หรรษมนตร์ รอง ผบช.ส. นรต.รุ่น 45 ขึ้นเป็น ผบช.ส.
พล.ต.ต.ศักดิ์รพี เพรียวพานิช รอง ผบช.รร.รนรต. นรต.รุ่น 43 ขึ้นเป็น ผบช.รร.นรต.
พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รอง ผบช.ก. นรต.รุ่น 42 ขึ้นเป็น ผบช.สทส.
พล.ต.ต.ภาณุพงศ์ ชอบเพื่อน รอง ผบช.สงป.ขึ้นเป็น ผบช.สงป.
พล.ต.ต.ชัยต์พจน สูวรรณรักษ์ รอง ผบช.ภ.2 นรต.รุ่น 43 ขึ้นเป็น ผบช.สกพ.
พล.ต.ต.ฐายุฏฐ์ จันทร์ถาวร รอง ผบช.สง.ก.ตร.ขึ้นเป็น ผบช.สง.ก.ตร.
พล.ต.ต. นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นรต.46 ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.
พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบช.ก. นรต.52 ขึ้นเป็น ผบช.ประจำสำนักงาน ผบ.ตร.
พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1 ขึ้นเป็น ผบช.ประจำสำนักงาน ผบ.ตร.
พล.ต.ต.กฤษฎา แก้วจันดี รอง ผบช.ภ.9 ขึ้นเป็น ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.
พล.ต.ต.ศิลปคมณ์ เอี่ยมวงศ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท.พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา รอง ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.หัสชัย เรืองมาลัย รอง ผบช.สพฐ.ตร.ขึ้นเป็น ผบช.ฯ

สำหรับตำแหน่ง ผบช. ที่ยังอยู่ที่เดิม และโยกสับเปลี่ยน อาทิ
พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. นรต.รุ่น 46 อยู่ที่เดิม เป็น ผบช.น.
พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.3 โยกเป็น ผบช.ภ.1
พล.ต.ท.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ ผบช.ภ.4 นรต.รุ่น 42 โยกเป็น ผบช.ภ.2
พล.ต.ท.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ จตร.(สบ.8) นรต.รุ่น 42 โยกเป็น ผบช.ภ.3
พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย ผบช.ปส. นรต.รุ่น 48 โยกเป็น ผบช.ภ.4
พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 นรต.รุ่น 42 อยู่ที่เดิม เป็น ผบช.ภ.5
พล.ต.ท.กิตติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6 นรต.รุ่น 42 บุตรชาย พล.ต.อ.พรศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ อดีต ผบ.ตร. อยู่ที่เดิม เป็น ผบช.ภ.6
พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.สกบ. นรต.รุ่น 40 โยกเป็น ผบช.ภ.7
พล.ต.ท.สิทธิชัย โล่กันภัย ผบช.สยศ.ตร. นรต.รุ่น 41 เพื่อนร่วมรุ่น ผบ.ตร. โยกเป็น ผบช.ภ.8
พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 นรต.รุ่น 39 อยู่ที่เดิม เป็น ผบช.ภ.9
พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รองผบช.สตม. นรต.รุ่น 41 อยู่ที่เดิม เป็น ผบช.สตม.
พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 นรต.รุ่น 41 ร่วมรุ่น ผบ.ตร. โยกเป็น ผบช.สอท. ( ตำรวจไซเบอร์ )
พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผบช.ทท. นรต.รุ่น 41 เพื่อนร่วมรุ่นผบ.ตร.อยู่ที่เดิม เป็น ผบช.ทท.
พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.ศ. นรต.รุ่น 47 อยู่ที่เดิม เป็น ผบช.ศ.
พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. นรต.46 โยกเป็น ผบช.ปส.
พล.ต.ท.อาทิชา เปาอินทร์ ผบช.สพฐ.ตร. นรต.รุ่น 44 อยู่ที่เดิม เป็น ผบช.สพฐ.ตร.
พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ อยู่ที่เดิม เป็นแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ
พล.ต.ต.กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ จตร.โยกเป็น ผบช.กมค.

สำหรับตำแหน่งน่าสนใจระดับ รอง ผบช. – ผบก. ก.ตร.พิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายหลายตำแหน่ง อาทิ

พล.ต.ต.วรศักดิ์ พิสิษฐบรรณกร ผู้บังคับการกองสารนิเทศ (ผบก.สท.) นรต.52 โยกเป็น ผบก.น.1 พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 โยกเป็น ผบก.น.2 แทน พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ที่มีคำสั่งช่วยราชการ ศปก.บช.น. หลังกรมการปกครองบุกทลายบ่อนย่านสรงประภา ดอนเมือง ครั้งนี้ ก.ตร.มีมติโยกนั่งเก้าอี้ ผบก.น.7 พล.ต.ต.ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผบก.น.4 เลื่อนขึ้นเป็น รอง ผบช.ในหน่วยขึ้นตรงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเก้าอี้ว่าง มี พล.ต.ต.กัมปนาท อรุณคีรีโรจน์ ผบก.น.7 โยกนั่ง ผบก.น.4

พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 เก้าอี้แข็งอยู่ที่เดิม พล.ต.ต.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ ผบก.อคฝ. โยกเป็น ผบก.น.6 แทน พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 ที่สไลด์นั่ง ผบก.น.9 แทน พล.ต.ต.คมสิทธิ์ รังไสย์ ที่ถูกโยกเป็น ผบก.ประจำ ตร. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.น.8 อยู่ที่เดิม พล.ต.ต.ดำรงศักดิ์ สว่างงาม ผบก.จร. อยู่ที่เดิม เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.วรวิทย์ ญาณจินดา ผบก.สปพ.หรือ 191 อยู่ที่เดิม พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพะยอม รอง ผบก.ตม.3 ขึ้นเป็น เลขานุการ ตร.

พล.ต.ต.วาที อัศวุฒมางกุร ผบก.สพฐ. ขึ้นเป็น นักวิทยาศาสตร์ (สบ 7) พล.ต.ต.กานต์ ธรรมเกษม จเรตำรวจ โยกไป ผบก.สส.ภ.7 พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมประสิทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 1 อยู่ที่เดิม พ.ต.อ.คธาธร คำเที่ยง รอง ผบก.ตม.3 ขึ้นเป็น ผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 2 พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม. 6 โยกเป็น ผู้บังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 3

พล.ต.ต.เกียรติศักดิ์ สระทองออย ผบกปราจีนบุรี โยกไปเป็น ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ศรีอัศวอมร รองผู้บังคับการกองสารนิเทศ ขึ้นเป็น ผู้บังคับการกองสารนิเทศ

พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุปผาสุวรรณ ผบก.ปคบ. นรต. 50 โยกเป็น ผบก.ป. พล.ต.ต.วิทยา ประเสริฐภาพ ผบก.ป. โยกไป ผบก.ปคม. พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม. โยกออกนอกหน่วยเป็น ผบก.ตอท. บช.สอท พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป. เลื่อนขึ้น ผบก.ทางหลวง พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เลื่อนขึ้น ผบก.ประจำ พล.ต.ต.ชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผบก.ประจำ โยกไป ผบก.ปอท.