ล้อรถพ่วงหลุด พุ่งข้ามเกาะกลางถนนชนรถเก๋งพังยับ จังหวะชายพิการสายตานั่งเบาะหลัง เปลี่ยนท่าจากหน้าแนบกระจก มานั่งตัวตรงพิงเบาะ รอดแค่เสี้ยววินาที

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่10 ธ.ค. 2566 มีอุบัติเหตุล้อรถบรรทุกพ่วง18 ล้อ หลุดไปพุ่งชนรถเก๋งได้รับความเสียหาย มีผู้บาดเจ็บ 2 คน เหตุเกิดถนนบรมราชชนนี ด้านหน้าศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม

ในจุดเกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูกำลังให้ความช่วยเหลือชายพิการสายตา 2 คน ถูกเศษกระจกรถยนต์กระเด็นใส่ บาดและปักตามร่างกาย ใบหน้า ได้รับบาดเจ็บ ใกล้กันพบรถยนต์จอดอยู่ริมถนนสภาพรถประตูหน้าและหลังด้านขวามีร่องรอยเฉี่ยวชนกระจกแตกกระจายและเสียหายทั้งแถบ

สอบถามนายกฤษดา รักเมือง อายุ 41 ปี ชายพิการสายตา เล่าว่า ตนสองคนเป็นชายพิการด้านสายตา บ้านอยู่จังหวัดนนทบุรี จะเดินทางประชุมที่สมาคมคนตาบอดจังหวัดกาญจนบุรี ตนเองนั่งเบาะหลังด้านขวาติดประตู และเพื่อนอีกคนนั่งคู่กันอยู่ด้านซ้าย ก่อนเกิดเหตุตนนั่งในท่าเอาหน้าแนบกระจกประตู จากนั้นกลับคืนนั่งท่าตรงพิงเบาะ จังหวะเปลี่ยนท่านั่งแค่วินาทีเท่านั้น ตนได้ยินเสียงดังสนั่นก่อนมีเศษกระจกกระเด็นใส่ใบหน้าตนอย่างแรง ตนไม่รู้ว่าอะไรพุ่งเข้าชน มารู้ทีหลังจากคนขับรถว่า มีล้อรถบรรทุกพุ่งชน

ด้านนายธวัชชัย มรกต อายุ 32 ปี คนขับรถให้ชายพิการ เล่าว่า ตนขับรถอยู่ในช่องกลางถนนช่องทางด่วน มาถึงที่เกิดเหตุตนเห็นล้อรถพุ่งออกมาจากป่าเกาะกลางถนน ก่อนพุ่งชนเข้ากลางระหว่างประตูด้านหน้าและหลังอย่างแรง จนล้อรถดังกล่าวกระเด็นขึ้นไปล้มลงเกาะกลางถนนอีกครั้ง ตนจึงได้ประคองรถเข้าช่องทางคู่ขนานด้านซ้ายหน้าศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก ก่อนแจ้งตำรวจ

ส่วนรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อต้นเหตุ ได้จอดอยู่ถนนบรมราชชนนีขาเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจ สภ.พุทธมณฑล ได้ตรวจสอบ พบล้อด้านซ้ายคู่หลังหลุด ซึ่งจากการตรวจสอบพบน็อตยึดล้อขาด และบนกล่องบรรทุกมีดินเต็มทั้งพ่วงหน้าและหลัง สอบถามนายธนพล แซ่เฮ็ง คนขับรถบรรทุกคันดังกล่าว เล่าว่า ตนบรรทุกดินมาจากจังหวัดนครปฐมจะเข้ากรุงเทพฯ อ้างว่าบรรทุกดินทั้งพ่วงหน้าและหลังรวมน้ำหนัก 50 ตัน มาถึงที่เกิดเหตุได้หลุดออก แต่อย่างไรก็ตามได้เรียกประกันรถของตนเองมาที่เกิดเหตุแล้ว

ด้านตำรวจสภ.พุทธมณฑล ได้เชิญคนขับทั้ง 2 ฝ่ายไปสอบสวนเจรจาตกลงค่าเสียหายต่อไปที่โรงพัก ส่วนรถบรรทุกจะบรรทุกน้ำหนักเกินหรือไม่จะได้ตรวจสอบอีกครั้ง หากพบบรรทุกเกินก็จะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป