แม่ช็อก! รพ.จ่ายยาผิด ให้เด็กวัย 1 ขวบ กินกรดกัดหูดหงอนไก่ คอไหม้ ล่าสุดอาการโคม่า

รพ.จ่ายยาผิด ให้เด็กวัย 1 ขวบ กินกรดกัดหูดหงอนไก่ คอไหม้ อาการโคม่า

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ เป็นหนึ่ง เผยแพร่เรื่องราวน่าตกใจว่า แม่พาลูกชายวัย 1 ขวบ ส่งไปรักษาโรงพยาบาลเพื่อรักษาชีวิตลูก หลังจากลูกชายลื่นล้มหัวฟาดพื้นในห้องน้ำ จึงตัดสินใจพาลูกไปสแกนสมองที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ แต่โรงพยาบาลส่งลูกไปสแกนสมองอีกโรงพยาบาลหนึ่ง ระหว่างเดินทางพยาบาลที่นั่งไปด้วยบอกว่าให้น้องกินยานอนหลับ เพื่อให้น้องไม่ดิ้นตอนเข้าเครื่องสแกนสมอง พอลูกชายกินเข้าไปได้สักพักมีอาการริมฝีปากซีดขาว แม่จึงแจ้งพยาบาลว่าลูกมีอาการผิดปกติ แต่พยาบาลบนรถบอกให้น้องกินให้หมด

จากนั้นปรากฏว่า อาการลูกทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว จึงรีบนำเข้าห้องฉุกเฉินเพื่อใส่เครื่องช่วยหายใจ เพราะลูกชายมีอาการตาลอย โดยแพทย์ที่รักษาต่อแจ้งว่ายาที่น้องกินเข้าไปนั้นเป็นกรด

จากนั้นโรงพยาบาลที่ 2 รีบประสานไปยังโรงพยาบาลรามาธิบดีเพื่อส่งตัวลูกชายไปรักษาต่อ ล่าสุดน้องวัย 1 ขวบยังอยู่ในห้องไอซียู และอาการยังไม่พ้นขีดอันตราย เนื่องจากน้องมีอาการปากบวมคอช้ำดำคล้ายรอยไหม้

คุณแม่ของเด็กเล่าต่อว่า หลังจากลูกเข้าห้องไอซียู ตนเองและญาติได้ติดต่อไปยังโรงพยาบาลแรกเพื่อสอบถามว่ายาที่ให้ลูกกินเป็นยาอะไร แต่โรงพยาบาลพยายามบ่ายเบี่ยงที่จะตอบ อ้างต้องขอดูข้อมูล โดยครอบครัวจะแจ้งความเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ต่อมาเพจ เป็นหนึ่ง แจ้งว่า ยาที่พยาบาลให้น้องกิน มีชื่อว่า TCA (กรดไตรคลอโรอะเซติก) ใช้ในการจี้-รักษาหูดหงอนไก่ เป็นยาใช้ภายนอก ผู้ใช้จะมีอาการระคายเคืองผิวหนัง แต่น้องกินเข้าไป

ก่อนอัปเดตอาการน้องล่าสุดจากโรงพยาบาลรามาธิบดี เบื้องต้นแพทย์แจ้งอาการของน้องหลังออกจากห้องผ่าตัด น้องมีไข้ขึ้นสูงถึง 40 องศา พยาบาลต้องคอยเช็ดตัวให้ตลอดและดูแลอย่างใกล้ชิด บริเวณลำคอหลอดลมมีความเสียหายเล็กน้อย ไม่น่าเป็นห่วงนัก เนื่องจากขณะที่น้องกินยาเข้าไปจังหวะกลืนนั้นค่อนข้างเร็ว ยาจึงไม่ได้แช่อยู่บริเวณลำคอนานมากนัก แต่มีสะเก็ดแผลเล็กๆ ในลำคออยู่บ้าง

ในส่วนที่น่าเป็นห่วงคือ บริเวณช่องท้องกระเพาะ เนื่องจากยาที่กินเข้าไปทั้งหมดไปสะสมกันอยู่ที่กระเพาะอาหาร แพทย์จะรอดูอาการหลังจากนี้ 2-3 วัน ระหว่างนี้แพทย์จะสังเกตอาการของแผลในช่องท้องว่าจะดีขึ้นเองหรือแย่ลง ในระหว่างนี้น้องต้องงดน้ำงดอาหาร 100% ต้องให้สารอาหารผ่านหลอดเลือดดำ หากอาการยังไม่ดีขึ้นแพทย์จะทำการส่งลำกล้องเข้าไปภายในกระเพาะอาหารเพื่อประเมินอาการต่อไป

โดยทางเพจได้ประสานงานไปยังกระทรวงสาธารณสุข โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้สั่งการเร่งด่วน โดยมอบหมายให้ นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง (นพ.ทรงคุณวุฒิ ระดับ 11) และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ประสานงานกับเพจเป็นหนึ่ง เพื่อรับเรื่องราวร้องทุกข์จากพ่อและแม่ของผู้เสียหาย และเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนในเรื่องนี้โดยเร็วที่สุดเป็นกรณีเร่งด่วน ภายหลังทราบว่าโรงพยาบาลดังกล่าวก็อยู่ภายใต้เครือของกระทรวงสาธารณสุขอีกด้วย โดยกระทรวงสาธารณสุขจะเร่งเยียวยาและให้ความช่วยเหลือต่อครอบครัวของผู้เสียหายอย่างถึงที่สุด

ต่อมาทางเพจได้อัพเดตการชี้แจงจากโรงพยาบาลที่เป็นประเด็นว่า ผอ.รพ.ต้นทางแถลงให้ข้อมูลว่า ได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่จ่ายยาคนดังกล่าวแล้ว และจะยินยอมเยียวยาชดใช้ทุกความเสียหายที่เกิดขึ้นกับครอบครัวและตัวน้องจนถึงที่สิ้นสุด

ภาพหลอดยา TCA ที่เจ้าหน้าที่เภสัชจ่ายยาให้น้องกิน ผู้จ่ายยาอ้างว่าหยิบผิดเนื่องจากมีบรรจุภัณฑ์คล้ายกันกับยานอนหลับ (ทำไมไม่อ่านฉลากยาก่อนจ่าย) ทางเราได้กำชับกับโรงพยาบาลให้ตรวจสอบเจ้าหน้าที่คนนี้อย่างถึงที่สุด

ส่วนทางครอบครัวยังติดใจกับเหตุผลและความสะเพร่าของเจ้าหน้าที่คนนั้นอยู่ ทางครอบครัวยืนยันต้องการให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวออกมานั่งพูดคุยและขอโทษอย่างจริงใจต่อหน้าครอบครัว


รพ.สั่งพักงาน จนท. ปมจ่ายผิดให้เด็ก 1 ขวบ

โดย นพ.วันฉัตร ชินสุวาเทย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบางจาก ได้ชี้แจงว่า หลังจากที่รับทราบข้อมูลก็ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น และได้ดูใบสั่งยาจากแพทย์ รวมถึงมีการรวบรวมข้อมูลเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เบื้องต้นทราบว่าน้องหกล้ม และมีปัญหาทางด้านศีรษะ และจะส่งตัวไปรับการสแกนสมองที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ เนื่องจากโรงพยาบาลบางจากไม่มีเครื่องสแกน ซึ่งในระหว่างที่ดำเนินการต้องมีการให้ยาให้เคลิ้ม เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจ แต่ประเด็นคืออาจจะมีความคลาดเคลื่อนในการเตรียมยาที่ให้น้องหลับ แต่กลายเป็นยาอีกตัวหนึ่งที่มีฤทธิ์เป็นกรด จึงทำให้น้องเกิดอาการระคายเคือง ซิ่งเกิดเหตุในรถฉุกเฉิน จึงรีบนำตัวไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ

โดยความคลาดเคลื่อนที่ ผอ.ระบุนั้น เข้าใจว่าเป็นช่วงขั้นตอนของการเตรียมยา ซึ่งตอนนี้โรงพยาบาลอยู่ระหว่างการสอบสวนอยู่ ซึ่งได้มีการประสานกับทางจังหวัด และให้โรงพยาบาลรวบรวมข้อมูลที่มีส่งไปทางจังหวัดที่มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมา ซึ่งในรายละเอียด อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น

ตัวยาที่จ่ายไปให้นั้นคือ TCA หรือกรดไตรคลอโรอะซิติก (Trichloroacetic Acid) ซึ่งเป็นยาใช้ภายนอกสำหรับพวกติ่งเนื้อ หรือหูด ฤทธิ์ของมันเป็นกรด ก็จะเกิดการระคายเคืองหากมีการรับประทานเข้าไป

ทั้งนี้ โดยปกติตัวยาทั้ง 2 ชนิดจะจัดวางแยกกัน ระหว่างยาใช้ภายนอกที่มีฤทธิ์เป็นกรด และยาใช้ภายใน แต่ต้องไปตรวจสอบว่าความผิดพลาดเกิดจากอะไร แต่โดยโฟลว์ของการจ่ายยาก็จะมีการจัดยาให้ตรง เป็นไปตามมาตรฐานของทุกโรงพยาบาล

เมื่อสอบถามว่ายาทั้ง 2 ชนิดมีลักษณะใกล้เคียงกันหรือไม่ ผอ.โรงพยาบาลระบุว่า เท่าที่ทราบจากที่รับแจ้งมา ทั้งบรรจุภัณฑ์และสียาใกล้เคียงกัน

เบื้องต้น ได้มีการให้เจ้าหน้าที่หยุดงานทันทีในระหว่างขั้นตอนการสอบสวน ซึ่งก็เป็นผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมยืนยันว่า ผู้ที่จ่ายยาให้เป็นทีมเภสัชกร หากพบว่าเจ้าที่ของโรงพยาบาลมีความบกพร่องจริงก็จะถูกดำเนินการ ตามระเบียบราชการโทษสูงสุดคือไล่ออก ซึ่งทางจังหวัดเองไม่ได้นิ่งนอนใจ พยายามที่จะตรวจสอบข้อมูล ให้ทำข้อมูลขึ้นไป และเน้นย้ำให้โรงพยาบาลดูแลเด็กรายนี้ในเรื่องค่าใช้จ่ายการรักษาเต็มที่ และทำเอกสารเพื่อยื่น ม.41 เพื่อการเยียวยากับน้องโดยตรง