ความคืบหน้า คดีน้องชมพู่ วัย 3 ขวบ พบศพเสียชีวิตบนภูเขาเหล็กไฟ บ้านกกกอก อำเภอดงหลวง จ.มุกดาหาร เป็นเวลากว่า 3 ปี ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 พ.ค.63

ต่อมา ศาลออกหมายจับ ลุงพล หรือ นายไชย์พล วิภา ในฐานความผิดฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา, พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลโดยปราศจากเหตุอันสมควร, ทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกิน 9 ปี ไว้ ณ ที่ใดเพื่อให้เด็กนั้น พ้นไปเสียจากตนโดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแลเป็นเหตุให้ผู้ถูกทอดทิ้งถึงแก่ความตาย

 

“แม่ชมพู่” ไม่เชื่อลูกสาวตามหมาขึ้นเขาตาย มั่นใจ “หญ้าเพ็ก” ไม่ได้ทำให้ลุงพลพลิกคดี

ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทาง ไปพูดคุยกับพ่อแม่น้องชมพู่ หลังศาลมีการเลื่อนอ่านคำพิพากษาเมื่อวานนี้ (31 พ.ค.) โดยในวันนี้พ่อแม่น้องชมพู่ช่วงค่ำที่ผ่านมาได้เดินทางกลับไปกรีดยางที่สวนของตนเองอีกครั้ง โดยพ่อแม่น้องบอกว่า ก่อนหน้านี้ช่วงสืบพยาน ยอมรับว่าไม่ค่อยได้เข้ามากรีดยางเท่าไหร่นัก เนื่องจากกลัวความไม่ปลอดภัยของสะดิ้งลูกสาวที่ต้องอยู่บ้านลำพัง เพราะคดีน้องชมพู่เป็นคดีฆาตกรรม

แต่หลังจากการสืบพยานแล้วเสร็จ คดีของลูกสาวเข้าสู่ขบวนการเพียงแต่รอฟังคำพิพากษา ก็เริ่มสบายใจขึ้น จึงได้เดินทางกลับมากรีดยางอีกครั้ง

ส่วนเมื่อวานนี้ที่ศาลมีการเลื่อนอ่านคำพิพากษา ตนเองไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใด ศาลเลื่อน แต่ศาลไม่ได้ยก ซึ่งตนเองรอได้เพื่อความรัดกุมและสมบูรณ์ของคดี และเชื่อว่าลูกสาวได้รับความยุติธรรมในที่สุด

ส่วนประเด็นที่ทีมทนายลุงพล ได้นำข้อต่อสู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหญ้าเพ็ก ที่อ้างว่า น้องชมพู่เดินตามหมาปลาส้มขึ้นเขามาเสียชีวิตเอง ระหว่างทางถูกหญ้าเพ็กที่ขึ้นอยู่ระหว่างทางทำให้เกิดรอยขีดข่วนตามร่างกาย ตนเองมองว่า การที่ลุงพลไม่มีรอยก็ไม่แปลก เพราะผู้ใหญ่ก็ใส่เสื้อผ้ากันไว้ได้ ซึ่งหากคนร้ายจะก่อเหตุก็ต้องมีการเตรียมการมาก่อนอยู่แล้ว

เช่นเดียวกับที่ทนายฝั่งลุงพล บอกว่า เสื้อของน้องชมพู่ไม่พบเนื่องจากวัวได้กินเข้าไป ตนเองที่ผ่านมาก็ไม่เคยเห็นวัวกินเสื้อ แต่ก็อาจจะมีเพียงแต่ตนเองไม่เคยเห็น

ส่วนประเด็นเรื่อง หนูและแมลงสาบบนภูเขาที่ทนายลุงพลอ้างว่า กระจุกผมชมพู่ที่ถูกตัดเกิดจากหนูและแมลงสาบกัดแทะ ตนเองไม่เชื่อ เพราะที่ผ่านมาไม่เคยเห็น ถ้าอีกฝั่งมีคลิปวิดีโอหรือการทดลองพิสูจน์ได้ว่า หนูหรือแมลงสาบมันกัดแทะเส้นผมได้ ตนเองก็อาจจะพอนึกภาพออก แต่ที่ผ่านมาไม่เคยเห็น

และที่สำคัญที่สุด ตนเองมั่นใจว่าลูกสาวไม่มีทางตามหมาป่าส้มขึ้นไปบนภูเขาได้แน่ เนื่องจากหมาของตนเอง ที่ผ่านมาไม่เคยขึ้นไปบนเขาด้วยซ้ำ และไม่รู้มันจะไปทำไม เนื่องจากที่บ้านก็มีอาหารให้กิน ส่วนตัวน้องชมพู่ หากน้องชมพู่ ละสายตาไปจากพี่สาวหรือแม่ น้องจะร้องเรียกทันที และทุกครั้งที่น้องชมพู่จะเดินไปไหน จะขออนุญาตแม่และพี่สาวเสมอ ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่ชมพู่จะเดินตามหมาไปในวันนั้น ไม่ได้บอกหรือร้องเรียกพี่สะดิ้ง

โดยตนเองมั่นใจว่า ในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ ลูกสาวจะได้รับความยุติธรรมในที่สุด ตนเองเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม และมั่นใจในพยานหลักฐานที่ตำรวจเก็บรวบรวมมาได้

แม่ชมพู่ฝากคำคมสุดเจ็บ "ฆาตกรมันเตรียมตัว" ถามทนายพลเรื่องหมาๆ