จากเหตุการณ์ที่มีกลุ่มจักรยานยนต์แก๊งค์ซิ่งรวมตัวกันจำนวนนับพันคันไปทำบุญ ที่จังหวัดกาญจนบุรี โดยใช้ชื่อทริปว่า ทริปส้มโอภูธร ก่อนที่รถของหนึ่งในสมาชิกแก๊งค์ซิ่งสายบุญ จะเสียหลักล้มลงทำให้ รถจักรยานยนต์ ที่ขับขี่ตามกันมาจำนวนมาก ล้มระเนระนาดหลายคัน และมีรถหนึ่งในสมาชิกของแก๊งได้ไปพุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ของหญิงสาววัย 16 ปี จนได้รับบาดเจ็บแต่เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้ว กลุ่มแก๊งซิ่งดังกล่าว ไม่ลงไปช่วยหญิงสาวผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่กลับช่วยกันยกรถจักรยานยนต์ของสมาชิกแก๊งขึ้นรถตู้และหลบหนีออกไปจากจุดเกิดเหตุ ทิ้งให้หญิงสาวรายดังกล่าว นอนรอความช่วยเหลืออยู่กลางถนน

 

ด้านพี่สาวของผู้บาดเจ็บ ได้ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว ช่อง 8 ว่า ตอนแรกตนได้ยินเสียงเหมือนรถเบิ้ลดังมาก ตอนนั้นมีคนตะโกนบอกรถมันเกี่ยวกัน มีคนเจ็บ ตนไม่คิดว่าน้องสาวจะโดนเพราะน้องสาวยืนอยู่หน้าร้าน ตอนนี้อาการน้องเอกซเรย์ที่สมอง และต้องดูอาการอย่างใกล้ชิด

 

ทีมข่าวได้สอบถาม นาย ปริญญา อายุ 42 ปี ผู้จัดทริปแก๊งค์ซิ่งสายบุญ “ส้มโอภูธร” เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเองถึงที่หมายที่ทำบุญแล้ว ส่วนรถจักรยานยนต์กลุ่มที่เกิดอุบัติเหตุ มาด้วยกันและกำลังขับรถตามตนเองขึ้นไป แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้มีการหักหลบกรวย จนทำให้รถในกลุ่มเกิดการเกี่ยวกันและล้มทำให้รถจักรยานยนต์พุ่งไปโดน หญิงสาวอายุ 16 ปีที่ยืนอยู่กลางถนน ซึ่งหลังเกิดเหตุสมาชิกในกลุ่มก็ได้ไปช่วยกันช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นกับผู้หญิงที่รับบาดเจ็บ ก่อนเรียกรถฉุกเฉินมารับผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บ ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดกาญจนบุรีทันที

 

พร้อมกับยืนยันว่า เจ้าของรถจักรยานยนต์ที่ไปพุ่งไปชนน้องผู้หญิงไม่ได้หลบหนีไปไหนเพราะได้รับบาดเจ็บถูกรถจักรยานยนต์ทับจนขาหักและนอนอยู่กลางถนนและยังตะโกนให้ทุกคนในกลุ่มไปช่วยน้องผู้หญิงที่ ได้รับบาดเจ็บด้วย ส่วนที่กล่าวหาว่ามีการยกรถหนีนั้นไม่เป็นความจริง เป็นการเคลื่อนย้ายรถเพื่อเปิดทางจราจรเพียงเท่านั้น และหลังเกิดเหตุ เจ้าของรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุยังให้เงินดูแลเยียวยาน้องผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 10,000 บาท และกลุ่มสมาชิกยังโอนเงินไปให้น้องผู้หญิงด้วย

 

ซึ่งยอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจากความประมาท แต่ก็แสดงความรับผิดชอบไม่ได้หลบหนีอย่างที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด

 

ส่วนประเด็นเรื่องพฤติกรรมที่กล่าวหาว่าในกลุ่มมีการขับรถหวาดเสียวและเบิ้ลเครื่อง เสียงดังจนสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้านนั้น ยืนยันว่ากลุ่มดังกล่าวไม่ใช่กลุ่มของตนเองที่จัดทริปกันไปแต่เป็นกลุ่มเด็กแว้นที่เมื่อทราบข่าวว่ากลุ่มของตนเองจะเดินทางไปทำบุญก็จะมาร่วมแจม ทำให้กลุ่มของตนเองได้รับความเสียหาย เพราะจริงๆแล้ววันนั้นกลุ่มของตนเองมีประมาณ 500 ถึง 600 คัน แต่มีกลุ่มอื่นกี้ไม่ได้ร่วมไปทำบุญแต่มาแจมตามทางด้วยจึงทำให้รถจักรยานยนต์มีมากกว่า 1000 คัน

 

โดยที่ผ่านมาตนเองจัดทริปทำบุญทริปรถจักรยานยนต์มาแล้วกว่าแปดปี ช่วยเหลือในแหล่งทุรกันดารวัดและโรงเรียนจนได้รับการยอมรับจากชาวบ้านนอกจากนี้ทุกครั้งที่มีการจัดทริปจะบอกกฎระเบียบว่าทุกคนต้องแต่งตัวเรียบร้อยห้ามขับรถหวาดเสียวเสียงดังและ ต้องปฏิบัติตามกฏหมายทุกอย่าง ซึ่งก่อนจะเดินทางตนเองยังได้ทำหนังสือแจ้งให้สถานีตำรวจต่างๆจะต้องผ่านให้รับทราบด้วยว่าจะมีการจัดทริปแก๊งรถจักรยานยนต์ไปทำบุญทุกครั้ง