จากกรณีหญิงวัย 68 ปี หายออกจากบ้านปริศนากว่า 6 วัน อย่างไร้ร่องรอย โดยพบว่าคนหายชื่อ นางจุฑาทิพย์ หรือ "ดีเจจุ" หายออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงวันเสาร์ที่ 21 ต.ค.66 พร้อมรถเก๋งนิสสันมาร์ช สีขาว ทะเบียน กค 8551 พิจิตร
ล่าสุดวันนี้ทีมข่าวช่อง 8 ได้เดินทางไปที่ ต.บ้านนา อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร เพื่อติดตามกรณีที่ นางจุฑาทิพย์ พบกับนางหนึ่งฤทัย ซึ่งเป็นหลานสาวคนสนิทที่อยู่ใกล้ชิดกับนางจุฑาทิพย์ ได้เล่าว่า ตนนั้นไปมาหาสู่กับนางจุฑาทิพย์แทบทุกวัน เพราะนางจุฑาทิพย์นั้นอาศัยอยู่ที่บ้านเพียงลำพังกับสุนัขพันธุ์ชิวาว่า 2 ตัว ซึ่งลูกสาวคนโตก็ไปทำงานที่กรุงเทพ ล่าสุดที่ตนเจอนางจุฑาทิพย์ คือวันเสาร์ที่ 21 ต.ค.66 เวลาประมาณ 09.00 น. ตอนนั้นตนมาแลกเงินกับนางจุฑาทิพย์เพื่อจะเอาไปหยอดเครื่องซักผ้า และก็ได้มีการนั่งพูดคุยกันอยู่สักพัก ก่อนที่ตนจะขอตัวกลับ นางจุฑาทิพย์ก็ได้บอกว่า "เดี๋ยวตอนบ่าย ๆ ป้าไปหาที่บ้านนะ จะไปดูหลังคาให้ เห็นว่าหลังคารั่ว"
แต่เที่ยงก็แล้ว เย็นก็แล้ว ค่ำก็แล้ว ตนก็ไม่เห็นนางจุฑาทิพย์มาหา ตอนนั้นก็ไม่ได้เอะใจอะไร คิดว่านางจุฑาทิพย์คงจะติดธุระ เลยไม่ได้โทรไปถามอะไร คิดว่าพรุ่งนี้เช้าค่อยแวะไปดู จนกระทั่งเช้าวันที่ 22 ต.ค.66 ตนก็ขี่รถจักรยานยนต์มาที่บ้านของนางจุฑาทิพย์ เห็นว่าบ้านปิด และรถยนต์ก็ไม่อยู่ จึงคิดว่านางจุฑาทิพย์ออกไปทำธุระข้างนอก พอวันที่ 23 ต.ค.66 ทุกอย่างก็เหมือนเดิม บ้านปิดสนิท รถก็ไม่อยู่ ตอนนั้นนางหนึ่งฤทัยก็รู้สึกตะหงิดใจ คิดว่าถ้าพรุ่งนี้ยังไม่เจอนางจุฑาทิพย์ก็จะลองไปตามที่บ้านของนายพงษ์ศักดิ์ (สามีคนหาย) ซึ่งอยู่ในอำเภอเมืองพิจิตร
เวลา 09.00 น. วันที่ 24 ต.ค.66 พอนางหนึ่งฤทัยมาถึงบ้านของนางจุฑาทิพย์ ก็ยังไม่เจอตัว นางหนึ่งฤทัย จึงตัดสินใจเดินลงจากรถและขึ้นไปยังบ้านชั้นสองของนางจุฑาทิพย์ เมื่อไปถึงหน้าประตูก็สังเกตเห็นความผิดปกติ โดยที่แม่กุญแจได้ล็อกประตูไว้เพียงข้างเดียว ลักษณะคล้ายคนรีบล็อกประตูและเร่งรีบออกไป
นอกจากนี้ภายในบ้านยังพบว่ามีการเปิดไฟทิ้งเอาไว้ ซึ่งผิดกับนิสัยของนางจุฑาทิพย์ เพราะนางจุฑาทิพย์เป็นคนประหยัด ไม่เคยเปิดไฟทิ้งเอาไว้ นอกจากนั้นภายในห้องนอนยังพบสุนัข 2 ตัว ซึ่งถ้วยอาหารและน้ำของสุนัขว่างเปล่า ทั้งๆ ที่นางจุฑาทิพย์นั้นรักสุนัขสองตัวนี้เป็นอย่างมาก ทำให้นางหนึ่งฤทัยมั่นใจว่าต้องเกิดเรื่องขึ้นกับนายจุฑาทิพย์อย่างแน่นอน ตนจึงรีบโทรหานายพงษ์ศักดิ์เพื่อสอบถามว่าสามารถติดต่อนายจุฑาทิพย์ได้หรือไม่ และติดต่อไปยังลูกสาวของนางจุฑาทิพย์ ผลปรากฏว่าไม่มีใครติดต่อนางจุฑาทิพย์ได้เลย ทั้งหมดจึงพากันไปแจ้งความคนหายที่ สภ.วชิรบารมี ในเวลา 11.00 น. ของวันที่ 24 ต.ค.66
พบคราบสีน้ำตาลแดงจำนวนหนึ่ง ตำรวจคาดเป็นคราบเลือดแห้ง
ล่าสุดเวลา 18.30 น. ทีมข่าวช่อง 8 ได้ย้อนกลับไปที่บ้านของนางจุฑาทิพย์อีกครั้ง และได้พูดคุยกับนายสมควร (น้องชายของนางจุฑาทิพย์) โดยนายสมควรเล่าว่า ก่อนหน้านี้ไม่นาน ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบบริเวณบ้าน จึงได้พบกับคราบสีน้ำตาลแดงจำนวนหนึ่ง ซึ่งจากการสันนิษฐานเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าอาจเป็นคราบเลือดแห้ง ซึ่งคราบดังกล่าวนั้นหยดไปตามพื้นบ้านชั้นล่าง และเปรอะเปื้อนไปตามผนังและบริเวณพื้นไม้ของบันไดทางขึ้นบ้าน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำภาชนะ อาทิ กะละมังมาครอบคราบเลือดดังกล่าวไว้ เพื่อรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอย่างละเอียดในเช้าวันพรุ่งนี้
ครอบครัวสงสัยผู้เช่าบ้าน อาจมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่
นางหนึ่งฤทัย เล่าอีกว่า นางจุฑาทิพย์นั้นเปิดบ้านเช่าจำนวน 6 หลัง และห้องเช่าจำนวน 7 ห้อง โดยเปิดให้เช่าอยู่บริเวณหลังบ้านตัวเอง และก่อนหน้านี้นางจุฑาทิพย์เคยเข้าไปต่อว่าผู้เช่าคนหนึ่งชื่อว่า "โรจน์" โดยนายโรจน์นั้นได้มาเช่าบ้านอยู่พร้อมกับแฟนสาว และเพื่อนทอม รวมเป็น 3 คน โดยวันนึงนางจุฑาทิพย์ได้เข้าไปพูดคุยกับนายโรจน์ และต่อว่าในโรจน์ว่า "ทำไมไม่ไปหางานทำ ได้วันละ 100-200 ก็ยังดี ดีกว่านอนอยู่บ้านเฉยๆ" ต่อมาก็ได้เข้าไปต่อว่านายโรจน์อีกครั้ง เนื่องจากนายโรจน์นั้นได้นำหม้อหุงข้าวมาไว้ใต้ราวผ้า ทำให้น้ำจากเสื้อผ้าที่เพิ่งซักหยดลงไปในหม้อหุงข้าว นางจุฑาทิพย์จึงพูดว่า "ใครสั่งใครสินให้เอาผ้ามาแขวนไว้บนหม้อหุงข้าว ไม่รู้เรื่องเลย" นอกจากนี้ยังมีข้อมูลมาอีกว่า นายโรจน์นั้นเป็นคนที่เพื่อนบ้านสงสัยว่าจะเป็นขโมย เพราะตั้งแต่นายโรจน์มาอยู่ได้ 2 เดือน เงินของคนแถวนั้นก็เริ่มหาย และจุดที่น่าสนใจคือ อยู่มาวันหนึ่ง ทางแฟนสาวของนายโรจน์ได้มาหานางจุฑาทิพย์ที่บ้าน พร้อมกับบอกว่า "เธอจะย้ายออกไปอยู่ที่อื่น เพราะเลิกกับนายโรจน์แล้ว และเตือนให้นางจุฑาทิพย์ระวังนายโรจน์ให้ดี เพราะมันร้ายกว่าที่คิด"
ด้วยคำบอกเล่าทั้งหมดนี้ จึงทำให้ครอบครัวสงสัยว่านายโรจน์อาจมีส่วนเกี่ยวข้องหรือเปล่า แต่ก็ยังไม่ขอปรักปรำและฟันธง หากยังไม่มีหลักฐานยืนยัน
สามีคนหายเปิดใจ หลังพบเบาะแสป้ายทะเบียนรถถูกทิ้งริมถนน
ทีมข่าวช่อง 8 ได้พูดคุยกับ นายพงษ์ศักดิ์ อายุ 70 ปี สามีของนางจุฑาทิพย์ (คนหาย) เล่าว่า หลังจากที่เกิดเรื่อง ตนก็ได้เข้าแจ้งความคนหายที่ สภ.วชิรบารมี และประสานไปยังเพจต่าง ๆ ให้ช่วยประชาสัมพันธ์ตามหาเบาะแสของนางจุฑาทิพย์ กระทั่งช่วงเย็นเมื่อวานนี้ 25 ต.ค.66 ได้มีพลเมืองดีติดต่อเข้ามาว่าพบแผ่นป้ายทะเบียนรถดังกล่าว ตกอยู่บริเวณถนนสายพิจิตร-ตะพานหิน ทางเข้า ต.หัวดง อ.เมืองพิจิตร เมื่อนายพงษ์ศักดิ์ไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นป้ายทะเบียนรถของนางจุฑาทิพย์จริง ๆ เพราะบริเวณตัวอักษร "ค" มีรอบถลอกที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งป้ายทะเบียนดังกล่าวมีร่องรอยของการงัดออกจากรถ เนื่องจากน็อตยังติดอยู่ที่ป้ายทะเบียน