จากกรณีที่เมื่อวานที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนางหมวย นกต่ออีกรายที่ช่วยเสี่ยแป้งหลบหนี มาสอบปากคำ ที่ตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง
โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนางหมวยขึ้นรถ เพื่อส่งไปดำเนินคดีที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช ขณะที่ทีมข่าวช่องต่างๆกำลังโฟกัสกับการบันทึกภาพการคุมตัวนางหมวยขึ้นรถ ได้มีชายคนหนึ่งเข้ามาล็อกคอ และพยายามบีบคอ ผู้ช่วยช่างภาพ ของทีมข่าวช่อง 8 อย่างเงียบๆ โดยที่ไม่มีใครสังเกต และถามว่า “มึงถ่ายพ่อกูขออนุญาตพ่อกูยัง”
โดยประเด็นที่เข้ามาทำร้ายคาดว่า น่าจะโกรธที่ผู้ช่วยช่างภาพของทีมข่าวช่อง 8 ได้ถ่ายคลิปพ่อของนางหมวย ขณะที่เข้ามาดูนางหมวยที่ถูกจับกุมอยู่ จึงได้ลงมือครั้งนี้
จากนั้นจึงได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ และขอดูกล้องวงจรปิดหน้าสภ.เมืองพัทลุง ตรงจุดเกิดเหตุ เพื่อใช้เป็นหลักฐาน แต่ตำรวจแจ้งว่ากล้องหน้าสภ.เสีย เนื่องจากโดนฟ้าผ่าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจึงไม่สามารถใช้งานได้
บรรยากาศที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช ตำรวจคุมตัวชุดสืบสวนได้นำตัวนางสาวยุวเรศ หรือ หมวย 1 ในผู้ต้องหาที่ช่วยนายเชาวลิตหลบหนี ตามอำนาจของศาลข้อหากระทำการด้วยกระทำอันใด ให้ผู้ถูกคุมขังตามอำนาจศาลหลุดพ้นจากการควบคุม มาที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสอบสวนด้วยตัวเอง
โดยวันนี้พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีด้วยตัวเอง เนื่องจากคดีนี้นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือ “เสี่ยแป้ง นาโหนด” เป็นผู้ต้องหาคนสำคัญจาก จ.พัทลุง ซึ่งจากข้อมูลตำรวจเผยว่า นางสาวยุวเรศยอมรับเป็นคนวางแผนช่วยหลบหนีทุกขั้นตอน และยังได้รับเงินจากนายเชาวลิตแล้วโอนเงินไปให้นางสาววิลาวัลย์เพื่อว่าจ้างให้เฝ้าไข้ โดยให้ค่าจ้างค่าจ้างเฝ้าไข้วันละ550 บาท ต่อมาต่อรองเหลือวันละ400บาท ซึ่งตนยังเป็นคนประสานให้ผู้ต้องหาอีกสองรายนำเสื้อผ้าและคีมตัดเหล็กไปให้นางสาววิล่วัลย์ที่โรงพยาบาล
ตำรวจใช้เวลาในการสอบปากคำนางสาวยุวเรศประมาณ 30 นาที ก่อนที่จะคุมตัวกลับที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ระหว่างคุมตัวนางสาวยุวเรศที่รถ ทีมข่าวพยายามสอบถามว่าเป็นคนจ้าง “นางสาววิลาวัลย์ หรือไหม”และโอนเงินให้ “ไหม” จริงหรือไม่ แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ตอบคำถามใดๆ และพยายามเบนหน้าหลบสื่อมวลชน ก่อนขึ้นรถไปโดยไม่ปริปากตอบคำถาม โดยเจ้าตัวมีสีหน้าเคร่งเครียดและกังวลอย่างเห็นได้ชัด