จากรณีเด็กหญิงชั้น  ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ปากพนัง ตัดสินใจผูกคอเสียชีวิต เนื่องจากถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินไปซื้อโทรศัพท์ไอโฟน ในระบบผ่อนจ่ายกับร้านค้าออนไลน์ และผ่อนจ่ายไปแล้วเกือบ 20,000 บาท แต่ยังไม่ได้โทรศัพท์ จนรู้ว่าถูกหลอก จึงตัดสินใจผูกคอเสียชีวิตในห้องนอนท่ามกลางความเศร้าสลดของพ่อแม่ ผู้ปกครองครองและญาติๆ รวมทั้งบรรดาเพื่อนๆ เหตุเกิดเมื่อ 15 ต.ค. 66

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับหลักฐานสลิปโอนเงินค่าโทรศัพท์มือถือ โดยบัญชีปลายทางเป็นชื่อของ น.ส.ดอกแก้ว ชาว อ.คอนสาร จังหวัดชัยภูมิ

 

เวลา 19.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไซเบอร์ ได้ควบคุมตัวนางสาวดอกแก้ว  เจ้าของบัญชีม้าดังกล่าว  รับโอนเงินจากนักเรียนชั้น ม.6 วัย 19 ปี ใน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกหลอกให้ซื้อไอโฟน 13 จากขบวนการตุ๋นเหยื่อออนไลน์



หลังจากนักเรัยนชั้น ม.6 วัย 19 ปี รายนี้ ผูกคอตายปัญหา หลังต้องเป็นหนี้ เพื่อมายังที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5  (บก.สอท.5)  ชั้น 4

 

ระหว่างตุมตัวมา นางสาวดอกแก้ว ก็ไม่ตอบคำถามสื่อแต่อย่างใด ก่อนทีมข่าวจะสังเกตว่าเจ้าตัว มีสีหน้าเครียด และร้องไห้ ระหว่างเดินเช้าห้องก่อนเจ้าหน้าที่นำตัวเข้าไปสอบสวนต่อไป

 

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 11.20 น.ของวันนี้ (18ต.ค.66) ทางด้าน พ.ต.อ.พงศ์สุข คงปัญโญ ผกก.สภ.คอนสาร จังหวัดชัยภูมิ ได้เชิญตัวเจ้าของบัญชีม้ามาสอบสวนพร้อมกับตำรวจไซเบอร์ เพื่อที่จะนำตัวไปทำการสอบสวนอย่างละเอียดที่กรุงเทพมหานคร หลังจากนั้นได้สอบถามนางสาวดอกแก้ว เล่าว่า ในเบื้องต้นตนไม่ทราบเกี่ยวกับบัญชีหรือบัตรประชาชนที่หลุดออกไปเนื่องจากตนนั้นได้ไปสมัครงานในหลายพื้นที่แต่ตนก็ไม่ได้ทำงาน พร้อมยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมยังกล่าวอีกว่าตนนั้นทำงานกรีดยาง ไม่เคยขายของออนไลน์แต่อย่างใด

 

ต่อมาเราได้เดินทางมาที่บ้านของดอกแก้ว แก้วเจิม อีกครั้ง ซึ่งจากการสำรวจภายในบริเวณบ้าน พบว่าอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเพียงแค่ไม่กี่อย่างและบ้านค่อนข้างยากจน เมื่อเดินเข้ามาภายในบ้าน ซ้ายมือจะเห็นที่นอนฟูกเก่าๆพร้อมกับหมอนผ้าห่มเก่าๆ และพัดลม 1 ตัวรวมทั้งมีมุ้งหนึ่งหลังกางไว้ ซึ่งเป็นที่นอนของแม่ดอกแก้วที่นอนรวมกันกับหลานชายลูกชายของดอกแก้ว ส่วนบริเวณด้านหน้ามีโต๊ะวางทีวี 1 หลังพร้อมกับทีวีจอแบน ขนาด32 นิ้ว และเครื่องเล่นวิดีโอแบบม้วนเทป

ส่วนตู้เย็นเป็นตู้เย็นแบบ 2 ประตู แต่มีสภาพที่เก่า

 

ขณะที่เสื้อผ้าที่แขวนอยู่บริเวณราวตากผ้าและตู้เสื้อผ้าภายในบ้าน มีตู้เสื้อผ้า จำนวน 4 หลัง เป็นตู้ไม้เก่า ก็มีสภาพเก่าทรุดโทรม จากการสำรวจดูก็พบว่ามีเสื้อผ้าสภาพเก่า ไม่มีเสื้อผ้าแบรนด์เนม

 

ต่อมาเราได้พูดคุยกับนายสุรเชษฐ์ รักษ์ศิลป์ อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ตนเองค่อนข้างสนิทกันกับครอบครัวของนายทองอินทร์แก้วเจิมพ่อของนางสาวดอกแก้วแก้วเจอมานานหลายปีซึ่งตอนเป็นเด็กนางสาวดอกแก้วเป็นเด็กค่อนข้างนิสัยดีและร่าเริง ไม่ได้มีพฤติกรรมรักเล็กขโมยน้อย แต่พอนางสาวดอกแก้วแต่งงานและมีครอบครัวตนเองก็ไม่ค่อยเห็นนางสาวดอกแก้วอยู่ที่บ้าน จะเห็นว่าไปไปมามาซึ่งก็ไม่รู้ว่านางสาวดอกแก้วทำงานที่ไหนช่วงที่นางสาวดอกแก้วเป็นวัยรุ่นเคยเป็นนักกีฬาประจำโรงเรียน

 

จนล่าสุดเมื่อช่วงประมาณต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาเห็นนางสาวดอกแก้วกลับมาบ้านและก็มาอ้อนวอนขอทำงาน อ้างว่าไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกกิน ตนเองจึงได้ติดต่อสวนยางพาราจากเจ้าของรายหนึ่งในพื้นที่บ้านเขาวง ตำบลวังสวาบ อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น ซึ่งตอนนั้นตนเองก็บอกกับนางสาวดอกแก้วไปว่ายังไม่สามารถเข้าไปทำงานได้ เพราะยังไม่ถึงช่วงเปิดหน้ายางพารา

 

ส่วนที่นางสาวดอกแก้วเคยถูกจับในคดีลักทรัพย์ในพื้นที่อำเภอคอนสารตนเองก็พอทราบมาบ้างเพราะนายทองอินทร์เคยมาเล่าให้ฟัง ส่วนคดีที่เกิดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมาตนเองไม่ทราบเลย ส่วนในหมู่บ้านก็ไม่เคยเห็นนางสาวดอกแก้วมีพฤติกรรมลักเล็กขโมยน้อย

 

ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นล่าสุดตนเองไม่แน่ใจว่านางสาวดอกแก้วจัดทำจริงหรือไม่ เพราะตนเองก็ไม่ค่อยเห็นนางสาวดอกแก้วอยู่บ้านจึงไม่รู้ว่านางสาวดอกแก้วทำอะไรใช้ชีวิตยังไง

 

เราได้พบกับ นางคณิต ต่อศรี อายุ 63 ปี เจ้าของร้านขายของชำซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างของตลาด (เจ้าของใหม่) เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า  ตนเองได้มาซื้อห้องแถวต่อจากนายหน่อย ซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายส่งขนาดใหญ่ในตลาดแห่งนี้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา แต่ก่อนหน้านี้ตนเองก็ขายของอยู่ในแผงตลาดซึ่งก็เคยทราบมาว่ามักจะมีวัยรุ่นหลายคนที่เข้ามาขโมยของภายในร้านของนายหน่อยเป็นประจำ เนื่องจากว่าเป็นร้านที่ใหญ่ซึ่งเป็นร้านขายส่ง 4-5 คูหา กลุ่มพวกวัยรุ่นจึงมักจะมาขโมยของในร้านแห่งนี้ เนื่องจากว่ามีนายหน่อยดูแลร้านเพียงคนเดียวและอาจจะตรวจตราไม่ทั่วถึง หลายครั้งที่นายน้อยจับได้ว่ามีคนมาขโมยของก็มักจะให้อภัย ซึ่งในส่วนของปี 2557 ตนเองก็พอทราบจากนายหน่อยเคยเล่าให้กับตนเองฟังว่า มีเด็กสาววัยรุ่น แต่ไม่แน่ใจว่าใช่คนเดียวกันไหม มาขโมยของใช้ส่วนตัว โดยเอาสินค้าใส่ในกระเป๋ากางเกง ก่อนที่นายหน่อยจะจับได้แต่ก็ไม่ได้เอาเรื่องอะไรถึงขั้นรุนแรง

 

ส่วนทางด้านนายพรชัย ศรีทาทุม อายุ 25 ปี สามีของนางสาวดอกแก้ว เผยว่า ตนเองรู้จักกับนางสาวดอกแก้ว มา 3 ปี แต่มาอยู่กินด้วยกันได้ประมาณปีกว่า โดยตนเองกับภรรยาจะอยู่ด้วยกันตลอด ไม่เคยมีความลับต่อกัน มีอะไรภรรยาจะเล่าให้หมด แม้กระทั่งเรื่องที่จะใช้จ่ายเงินภรรยาก็จะต้องถามตนเองก่อนทุกครั้งว่าจะใช้จ่ายอะไร

 

ซึ่งตั้งแต่อยู่กินกันมาตนเองไม่เคยเห็นภรรยาใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเลยสักครั้ง โดยซื้อของใช้ที่แพงที่สุดก็คือช่วงที่ทางรัฐโอนเงินเข้าบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้จึงจะมีเงินซื้อของใช้จำนวนหลายอย่าง

 

ส่วนเรื่องที่ภรรยาไปเปิดบัญชีของธนาคารดังกล่าวตนเองยืนยันได้เลยว่าไม่มีแน่นอน เพราะตนเองกับภรรยาทำงานอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชั่วโมง แต่เรื่องที่ภรรยาไปกู้เงินผ่านออนไลน์ตนเองไม่เคยรู้เลยเพราะภรรยาไม่ได้เล่าให้ฟัง ส่วนเรื่องโทรศัพท์มือถือของภรรยาไม่ได้เป็นคนหวงมือถือแต่อย่างใดตนเองสามารถใช้ได้ตลอด แค่ตนเองไม่เคยยุ่ง และก็เชื่อว่าในมือถือของภรรยาไม่มีเรื่องปิดบังตนเองแน่นอน ตอนนี้เป็นห่วงภรรยามาก กลัวจะโดนจับ

 

ล่าสุดเวลา 22.00 น. จากการสอบปากคำนางสาวดอกแก้ว เบื้องต้น เจ้าตัวได้รับสารภาพว่าตัวเองนั้น รับจ้างเปิดบัญชีม้าจริง โดยถูกทาบทามทางเฟชบุ๊ก ด้วยค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวน 300 บาท โดยเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา นางสาวดอกแก้ว ได้ทำการเปิดบัญชีดังกล่าว ด้วยวิธีเปิดบัญชีผ่านแอปพลิเคลชัน และเจ้าตัวยังบอกอีกว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นในการก่อเหตุหลอกเงินนักเรียน ม.6 วัย 19 ปี และผู้เสียหายอีกหลายคนที่เชื่อมโยงกับบัญชีของตัวเอง เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาผิดพรบ.คอมพ์และฉ้อโกงประชาชน

ตอนนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสอบปากคำนางสาวดอกแก้วซึ่ง ยังสอบไม่เสร็จ หลังจากนั้นนางสาวดอกแก้ว จะนอนที่ บก.สอท.5 ซึ่งพรุ่งนี้ตำรวจจะนำตัวนางสาวดอกแก้วส่งฝากขังที่ศาลอาญารัชดาเวลาประมาณ 08:00 น. ต่อไป

ดอกแก้ว พลิกลิ้นสารภาพรับเงิน 300 เปิดบัญชีม้า ผัวยืดอกป้องไม่เกี่ยวขายไอโฟนทิพย์