พบศพอดีตข้าราชการเกษียณถูกเผายัดโอ่ง ตำรวจเร่งคลี่คลายคดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (14ต.ค.66) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ริม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ และแพทย์โรงพยาบาลนครพิงค์ เข้าตรวจสอบศพผู้เสียชีวิตภายในบ้านพักหลังหนึ่ง ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลังจากได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพผู้เสียชีวิตถูกเผาอยู่ในโอ่งหลังบ้าน จากการตรวจสอบพบว่าศพผู้เสียชีวิตคือนางยุพิณ อายุ 63 ปี อดีตข้าราชการตำแหน่งนักโภชนาการ สภาพศพไหม้เกรียม

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับเข้าเก็บหลักฐาน โดยพบว่าบริเวณที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้กันแต่อย่างใด โดยพบหลักฐานสำคัญคือไม้ขีดไฟ ขวดน้ำมันพืช และถุงใส่ผ้าขาวเขียนช่อติดถุงว่า แม่ยุพิณ
นอกจากนี้ยังมีหลักฐานสำคัญต่างๆ เช่นโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ในที่เกิดเหตุอีกด้วย ส่วนศพของผู้เสียชีวิตพบว่าบริเวณคอยังมีทองคำรูปพรรณ 1 เส้นส่วนร่องรอยการต่อสู้หรือการรื้อค้นทรัพย์สินนั้นไม่พบแต่อย่างใด ทรัพย์สินในบ้านและทรัพย์สินติดตัวผู้ตายยังคงอยู่ครบ

นางฉลาด ญาติของผู้ตายเผยว่า ได้รับโทรศัพท์จากลูกสาวของผู้ตายว่าขอให้ไปดูแม่ที่บ้านให้หน่อย เนื่องจากไม่สามารถติดต่อแม่ได้ 2-3 วันแล้ว ตนจึงเข้ามาดูที่บ้าน เมื่อมาถึงก็พบว่าประตูรั้วได้ล็อกจากด้านใน จึงต้องปีนรั้วเข้ามา จากนั้นก็ร้องเรียกผู้ตายแต่ก็เงียบไม่มีเสียงตอบ เมื่อเดินไปหน้าห้องน้ำก็พบ กองเสื้อผ้า และแก้วกาแฟพร้อมกับโทรศัพท์วางอยู่ จึงเดินไปดูหลังห้องน้ำก็พบว่าผู้ตายได้เสียชีวิตยัดอยู่ในโอ่งในสภาพไหม้เกรียม ส่วนผู้ตายนั้นเป็นแม่หม้ายอยู่บ้านคนเดียวลูกๆทำงานต่างจังหวัดและไม่เคยมีปัญหากับใคร

ขณะที่ น.ส.พัลยมนต์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เผยว่าหลังจากได้รับแจ้งจากญาติของผู้ตายให้มาช่วยหาร่างของผู้ตาย เมื่อเข้าไปที่หลังห้องน้ำก็พบศพอยู่ภายในโอ่งสภาพไหม้เกรียม

ด้าน พ.ต.อ.สิทธา คำเลิศ ผกก.สภ.แม่ริม ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตนเอง เบื้องต้น ตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งทั้งการฆาตกรรมและการฆ่าตัวตาย โดยต้องรอผลการผ่าชันสูตรศพ และผลนิติวิทยาศาสตร์นำมาสรุปผลอีกครั้ง ส่วนร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินร่องรอยการต่อสู้ก็ไม่พบแต่อย่างใดไม่มีทรัพย์สินใดที่สูญหายไป คาดว่า 1-2 วันนี้คงจะคลี่คลายคดีนี้ได้

อย่างไรก็ตาม ทราบจากชาวบ้านว่าผู้ตายได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้เพียงลำพัง เนื่องจาก 3 ปีก่อนผู้ตายเพิ่งจะสูญเสียสามีไป โดยที่ผ่านมาก็มีกลุ่มเพื่อนของผู้ตายแวะเวียนมาเที่ยวหากันตลอด ส่วนลูกทั้ง 2 คนของผู้ตายทำงานอยู่ในจังหวัดในพื้นที่ภาคกลางตอนนี้ทราบเรื่องแล้วกำลังอยู่ในระหว่างการเดินทางขึ้นมาติดตามคดีนี้ ส่วนประเด็นที่ว่ากล้องวงจรปิดถูกถอดไปและมีทองคำรวมถึงทรัพย์สินส่วนหนึ่งหายไปตามที่สื่อบางสำนักรายงานมานั้นก็ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด