ภาพที่ถูกแชร์ในโซเชียลเป็นภาพคนไทย 4 คน ถูกจับเป็นตัวประกัน ในขณะนี้ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้ โดยมีรายชื่อดังต่อไปนี้

นายคมกริช / นายอนุชา / นายมณี / นายณัฐพร

 

ต่อมาทีมข่าวได้เดินทางไปพบกับอีกหนึ่งครอบครัว เราได้พบกับนางบัวศรี แม่ของนายมณี จิระชาติ ซึ่งเป็น 1 ใน 5 แรงงาน ที่มีภาพว่าถูกกลุ่มติดอาวุธฮามาสปาเลสไตน์ บุกเข้าไปภายในแคมป์คนงานและจับไปเป็นตัวประกัน โดยในภาพจะเห็นตัวประกันทั้ง 5 คน ถูกจับเอามือไพล่หลังนอนคว่ำหน้าไปกับพื้น บางภาพถูกนั่งหลังติดกำแพง โดยนายมณี คือ ชายคนที่นั่งอยู่คนกลางของภาพ ในภาพจะเห็นว่าเจ้าตัวถูกทำร้ายมีเลือดออกบริเวณหัวและขมับด้านซ้าย โดยมีกลุ่มติดอาวุธฮามาสปาเลสไตน์ กำลังใช้ปืนจ่ออยู่

 

นางบัวศรี กับทีมข่าวทั้งน้ำตาว่า ทันทีที่เห็นลูกชายถูกจับไปเป็นตัวประกัน ตนเองตกใจมากและกลัวว่าลูกชายจะถูกยิงเสียชีวิตไปแล้ว ตอนนี้ตนเองกินไม่ได้นอนไม่หลับหลังจากทราบข่าว หวังว่ากลุ่มติดอาวุธฮามาสจะไว้ชีวิตลูกชาย และจับไปเป็นตัวประกันเท่านั้น

 

ลูกชายเดินทางไปทำงานที่อิสราเอลได้ประมาณเกือบ 5 ปีแล้ว โดยลูกชายบอกว่าเดือนเมษายน ปี 67 จะเดินกลับประเทศไทย ลูกชายไปทำงานเป็นคนงานตัดต้นไม้  คนงานเก็บมันฝรั่ง เก็บผลไม้ มีรายได้ประมาณ 50,000 บาทต่อเดือน ซึ่งลูกชายส่งเงิน 30,000 บาทมาให้ตนเองใช้จ่ายทุกเดือนไม่ขาด

 

ตนเองได้พูดคุยกับลูกชายครั้งสุดท้าย เมื่อช่วง 11 โมงเวลาประเทศไทย หรือ 6 โมงเช้าของอิสราเอลเมื่อวานนี้นี่เอง (7 ต.ค.) ลูกชายโทรศัพท์มาพูดคุยตามปกติ ถามว่าตนเองทำอะไรอยู่ จากนั้นลูกชายได้เล่าให้ฟังว่า “วันนี้ใกล้ที่ทำงานเค้ายิงกันอยู่” ซึ่งตนเองก็ได้บอกลูกชายไว้ว่า “ถ้าเค้ายิงกันก็เข้าไปหลบในบังเกอร์นะลูก” ลูกชายตอบว่า “ผมก็ยืนอยู่ใกล้บังเกอร์นี่แหละแม่ เดี๋ยวผมขอตัวไปกินข้าวก่อนนะ และเดี๋ยวจะโทรกลับไปใหม่ “จากนั้นลูกชายได้วางสายและตนเองก็ติดต่อลูกชายไม่ได้อีกเลย  

 

ตอนนี้ตนเองร้อนใจมากและอยากให้ลูกชายหากฟังอยู่ขอให้ดูแลตัวเองให้ดี และขอให้ลูกชายรอดกลับมาได้อย่างปลอดภัย

 

นอกจากนี้นางบัวศรียังได้ให้ทีมข่าวดูคลิปวิดีโอที่ลูกชายเพิ่งจะส่งมาให้ดูก่อนหน้านี้เมื่อ 1 เดือนกว่าโดยจะเห็นว่า ลูกชายได้เดินทางไปเที่ยวสังสรรค์กับเพื่อนแรงงานคนไทยด้วยกันที่สถานบันเทิงแห่งหนึ่งดูมีความสุขและสนุกสนาน ซึ่งแตกต่างกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน

 

ขณะเดียวกันเราได้เดินทางไปที่บ้านของนายณัฐพร  อ่อนแก้ว อายุ 26 ปี ชาวบ้านหนองแสง หมู่ 5 ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก จ.นครพนม ซึ่งเป็นแรงงานกลุ่มแรกที่กลุ่มนติดอาวุธฮามาสบุกเข้าไปจับเป็นตัวประกัน พร้อมแรงงานในแคมป์คนงานอีก 4 คน

 

เราได้พบกับนางทองคูณ อ่อนแก้ว  แม่ของนายณัฐพร และสามียังคงพยายามโทรศัพท์ติดต่อหาลูกชายพร้อมกับติดตามข่าวความเคลื่อนไหวในอิสราเอล และติดตามข่าวจากครอบครัวของแรงงานไทยที่ส่งข่าวมาหาญาติเท่านั้น เพราะยังไม่สามารถติดต่อลูกชายได้

 

โดยนางทองคูณ บอกกับเราว่า ตนเองจะพยายามเข้มแข็งและจะไม่ร้องไห้ เพื่อรอวันที่ได้รับข่าวดีจากลูกชาย ว่าลูกชายปลอดภัย หลบซ่อนตัวอยู่ในที่ปลอดภัยและถูกปล่อยตัว แต่ถูกยึดโทรศัพท์หรือทำโทรศัพท์หล่นหาย ซึ่งตอนนี้ตนเองทำได้แค่ติดตามข่าวสารจากสื่อต่างๆที่มีการรายงานข่าวมาตลอดและก็หวังว่าจะมีชื่อของลูกชายตนเองถูกช่วยเหลือออกมาได้

 

ขณะเดียวกันนางทองคูณ บอกว่า ตั้งแต่ทราบข่าว ลูกชายถูกจับเป็นตัวประกันพร้อมกับเพื่อนแรงงานอีก 4 คนตนเองก็กินไม่ได้นอนไม่หลับวันนี้ก็กินได้แค่ผลไม้ลูกเดียว พร้อมวอนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ องค์พระธาตุพนมช่วยปกปักรักษาคุ้มครองลูกชายของตนเองให้ปลอดภัย

 

ด้านเพื่อนของนายอนุชา หนึ่งในคนที่ถูกจับไปเป็นตัวประกัน ได้เล่าวินาทีคนร้ายบุกเข้ามาทำร้ายว่าเขาใช้วิธีขุดหลุมลอดใต้ประเทศขึ้นมา จากนั้นก็ขับรถกระบะกราดยิงคน ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือยิวก็ไม่เว้น และมีบางกลุ่มที่เข้ามาโดยพารามอเตอร์ ขี่ผ่านกำแพงเข้ามา และกราดยิงคนที่อยู่บนตึก บนดาดฟ้า

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวไปที่บ้านนายอนุชา อ่างแก้ว อายุ 28 ปี ชาวบ้านดอนพิลา ต.ปะโค อ.กุดจับ จ.อุดรธานี หลังพบว่าเป็นหนึ่งในแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน โดยได้พูดคุยกับ น.ส.วนิดา อายุ 30 ปี ภรรยายนายอนุชา บอกว่า ตกใจมากที่รู้ว่าสามีถูกจับตัวไป ตอนแรกแทบไม่มีหวังว่าจะช่วยสามีได้ แต่หลังจากที่มีหน่วยงานเข้ามาพูดคุยช่วยเหลือ ก็รู้สึกสบายใจขึ้น เท่าที่คุยกับสามี ทุกอย่างปกติ สามีก็ไม่เคยพูดเลยว่าจะมีสงคราม มันไม่มีสัญญาณ หรือลางสังหรณ์อะไรเลย

 

ด้านคุณพ่อและญาตินายอนุชาฯ ได้นำดอกไม้ธูปเทียน จัดขันธ์ 5 ไปไหว้ศาลปู่ตา หรือศาลหลักบ้าน เพื่ออธิฐานให้ลูกชายแคล้วคลาดปลอดภัย ขอให้สิ่งศักสิทธิ์คุ้มครองลูกชายให้เดินทางกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

 

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง ต.โชกเหนือ อ.ลำดวน จ.สุรินทร์  ซึ่งเป็นบ้านของนายคมกฤษ 1 ในแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน  นายสุนันท์  ชมบัว อายุ 54 ปี และนางพรทิพย์  ชมบัว อายุ 54 ปี พ่อแม่ของเหยือตัวประกันในอิสราเอล กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ตนเองทั้ง 2 คน กินไม่ได้นอนไม่หลับ หลังจากทราบข่าวจากญาติๆที่โทรศัพท์มาบอกว่าลูกชายถูกจับตัวเป็นตัวประกัน ทราบว่าถูกจับตัวในช่วง 6 โมงเช้าของวันเกิดเหตุ ขณะลูกชายนอนหลับ  ส่วนเวลาในไทยประมาณเที่ยงวัน  หลังจากทราบข่าวก็อยู่ไม่เป็นสุข กระวนกระวายใจเพราะเป็นห่วงลูกชาย เนื่องจากเขาเป็นคนดี มีความขยันอดทน อย่างไรก็ตามตนทั้ง 2 คน ขอฝากถึงรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีให้ช่วยเหลือลูกชายและคนไทยกลับมาอย่างปลอดภัยด้วย ตอนนี้ก็ได้แต่บนบานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยคุ้มครองลูกชายและคนไทยให้ปลอดภัย

ภาพหลุด 4 ชีวิตถูกจับเป็นตัวประกัน ครอบครัวใจเสียภาวนาให้ปลอดภัย