ตำรวจนำตัวเยาวชนชาย 2 คนให้ปากคำเพิ่มเติม กรณีอดีตเอกอัครราชทูตเสียชีวิตในบ้านพัก คาดปมชิงทรัพย์

วันที่ 8 ต.ค. 2566 ตำรวจนครบาลสุทธิสาร คุมตัวเยาวชนอายุ 17 ปี มาที่ห้องสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร กรณีการเสียชีวิตของนายวิชิต อายุ 63 ปี อดีตเอกอัครราชทูต ณ กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก หลังเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พบเสียชีวิตภายในห้องน้ำชั้น 2 ของบ้านพัก ภายในซอยวิภาวดีรังสิต 20 โดยพบว่า ผู้เสียชีวิตถูกมีดแทงเข้าที่หน้าอก 3 แผล และมีลังกระดาษวางปิดร่างของผู้เสียชีวิตเอาไว้

ขณะที่ตำรวจนำตัวผู้ต้องสงสัยเข้าห้องสืบสวน พบว่า มีเยาวชนอายุ 15 ปีและผู้ปกครองเดินทางมาด้วย และได้เชิญตัวผู้ปกครองออกมาแยกสอบที่ห้องพนักงานสอบสวน โดยผู้ปกครองของเด็กไม่ยอมที่จะเปิดเผยข้อมูลใดๆ กับสื่อมวลชน

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง และเดินทางเข้ามาประชุมกับคณะพนักงานสอบสวนที่สถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร ก่อนเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้รับแจ้งเหตุจากเพื่อนบ้านว่ามีกลิ่นออกมาจากภายในบ้านหลังเกิดเหตุ จึงประสานไปยังนิติบุคคลของหมู่บ้านเพื่อโทรศัพท์แจ้งช่างต่อเติมให้เข้ามาเปิดดูภายใน เนื่องจากช่างมีกุญแจบ้าน

จากการตรวจสอบก็พบว่า มีผู้เสียชีวิตที่ห้องน้ำชั้น 2 มีลังกระดาษวางทับเอาไว้ บริเวณหน้าอกถูกมีดแทง 3 แผล เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบว่ามีมีดทำครัวจำนวน 2 ใน 5 เล่ม มีคราบเลือด จึงเก็บเอาไว้ตรวจสอบ

จากการสอบปากคำพยานแวดล้อม ทราบว่า ญาติไม่สามารถติดต่อผู้เสียได้ตั้งแต่ 27 กันยายน แต่ได้เข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้เมื่อ 9 กันยายน ที่ผ่านมา หรือประมาณเกือบ 1 เดือน โดยย้ายออกมาจากคอนโดส่วนตัว

ส่วนเยาวชนที่คุมตัวมาสอบปากคำในวันนี้ เบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยงกับคดี ตอนนี้เป็นพยานในคดีและเนื่องจากยังเป็นเยาวชน ต้องให้สหวิชาชีพร่วมกันสอบปากคำ แต่ยืนยันว่าในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจนเชื่อมโยงไปถึงผู้ก่อเหตุ

จากการตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ เบื้องต้นก็พบว่ามีร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินบริเวณชั้น 1 และชั้น 2 เชื่อว่าผู้ก่อเหตุประสงค์ต่อทรัพย์ โดยขณะในที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้หรืองัดแงะ แต่มีคราบเลือดตั้งแต่บริเวณประตูรั้วเข้าไปถึงห้องน้ำชั้น 2 คาดว่าเป็นการดิ้นรนเอาตัวรอด และป้องกันตัวเองจากผู้ก่อเหตุ ส่วนการนำกระดาษลังอำพรางนั้น พบเป็นพฤติกรรมในการพยายามอำพรางศพหลังก่อเหตุ

ส่วนพยานหลักฐาน ขณะนี้พบว่าในโครงการหมู่บ้านและบ้านพักมีการติดกล้องวงจรปิดเอาไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบ รวมถึงพบรอยนิ้วมือแฝง และพยานหลักฐานอื่นๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เก็บรวบรวมไว้ทั้งหมดแล้ว และจะนำไปตรวจสอบเพื่อเอาผิดผู้ก่อเหตุโดยเร็วที่สุด